Key takeaways from TISCO corporate day
บมจ. อินเตอร์ ฟาร์มา
บริษัทวางแผนงานจากนี้ไปจนถึงปี 2028 บริษัทตั้งเป้าจะเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์สุขภาพแบบครบวงจร ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตยาอยู่ 2 แห่งอยู่ที่จ.อยุธยาและสมุทรปราการ และยังคงพัฒนายาอย่างต่อเนื่อง เช่น ยาสามัญประจำบ้าน ยารักษาโรค ยาหยอดตาต้อกระจก และจะจดลิขสิทธิ์สินค้าที่บริษัทคิดค้นเอง นอกจากนั้นบริษัทยังมีผลิตภัณฑ์ Wellness & Anti-aging, อาหารเสริม nutraceutical เช่น probiotic วิตามินเสริม และยาสุนัขและแมว (Intervetta, pet select, petinol) แชมพูอาบน้ำและอาหารสุนัขและแมวแบรนด์ Maria โดยบริษัทเพิ่ง Launch ยาพาราเซตามอลแบรนด์ Bella Para (positioning ราคาเท่า Tylenol แต่สามารถรักษาอาการปวดได้ 7 อย่าง) ในช่วงปลายปีที่แล้ว

* บริษัทตั้งเป้าเพิ่มรายได้ให้เติบโตจาก 1.78 พันลบ.ในปี 2023 เป็น 6,150 ลบ.ในปี 2028 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (5-Year) 2023-28F ที่ 28% ต่อปี จากแผนงานต่างๆดังนี้

รับผลิตสินค้า OEM สำหรับ Teva และ Innobic เพื่อเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิต โดยคาดหวัง Gross margin 30%

ศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น สินค้า Genetic Test Kit เพื่อตรวจความเสี่ยงในการเป็นโรคเรื้อรัง, ศึกษานวัตกรรมการรักษาโรคพาร์กินสันด้วย Gene Therapy (คาดได้รับอย.ที่ญี่ปุ่น 4Q26) และยาหยอดตารักษาโรคต้อหิน 2 ตัว (คาดวางตลาด 4Q26)

ขยายช่องทางผ่าน Lab Pharmacy ปัจจุบันมี 32 สาขา ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 41 สาขาภายในปี 2024F และเพิ่มเป็น 64 สาขา ภายในปี 2026F (Gross margin 35%)

Renovate ทำห้อง VIP ที่รพ.นครพัฒน์ ที่จ.นครศรีธรรมราช ที่บริษัทถือหุ้น 50% (คาดเสร็จ 1Q24) เพิ่มแผนกเฉพาะ เช่น ศูนย์ล้างไต, Sleep Test, Allergy Clinic เพื่อหารายได้เพิ่ม รวมถึงระดมทุนต้นปี 2026 เพื่อสร้างอาคารใหม่ขยายเตียงเป็น 160 เตียง โดยใช้เวลาอีก 2-3 ปี คาดหวัง Gross margin 30%

ตั้งเป้านำบริษัทดรักแคร์ (Lab Pharmacy) ที่บริษัทถือหุ้น 88.6% เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต้นปี 2025 และรพ.นครพัฒน์ (ถือหุ้น 50%) เข้าตลาดฯ ต้นปี 2026 เพื่อเพิ่มมูลค่าของบริษัท

* แนวโน้มผลประกอบการ 1Q24F น่าจะเติบโต QoQ เนื่องจากจะไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ เช่นการตั้ง Impair ธุรกิจที่ซื้อมาเหมือนใน 4Q23 ส่วนแนวโน้มผลประกอบการปี 2024F คาดรายได้เติบโตตามการออกผลิตภัณฑ์, การเปิดสาขา Lab Pharmacy ใหม่ๆ และการรับจ้างผลิตเพิ่ม ในขณะที่สินค้าหลัก เช่น Probiotic คาดว่าจะยังคงเติบโตประมาณ 10% โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2024F ที่ 2,531 ล้านบาทและ Net profit margin ไม่ต่ำกว่า 10% (Imply กำไรสุทธิประมาณ 250 ล้านบาท) เทียบกับ Net margin ที่ 8.4% และ 3.3% ในปี 2022-23

* ปัจจุบัน Bloomberg Consensus แนะนำ ซื้อ/ถือ/ขาย จำนวน 2/1/0 โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 17.37 บาท ราคาปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ Trailing 12M P/E ที่ 64.6x โดยสรุปเรามีมุมมองเป็นกลางต่อบริษัท แม้ว่าบริษัทจะมีสินค้าที่มีคุณภาพและมีแผนผลักดันรายได้ให้เติบโต อย่างไรก็ตามรายได้ Segment ที่คาดว่าจะเติบโตเป็น Segment ที่ Gross margin ไม่ได้สูงเหมือนสินค้าหลักที่ Gross margin มากกว่า 50% อีกทั้งบริษัทอยู่ในช่วงการลงทุนทำให้ค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดและบริหารเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เราไม่มั่นใจว่าบริษัทจะทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้หรือไม่

* ความเสี่ยง:การแพร่ระบาดของสินค้าลอกเลียนแบบ ความผันผวนของวัตถุดิบผลิตยาซึ่งยังมีอยู่ และอาจกระทบต้นทุนและยังมีคชจ.โฆษณาการตลาดสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง กดดันกำไร