News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

25 มี.ค. 2567 09:06:46 306

Market Wrap-Up

SET วันที่ 22 มี.ค.67 ปิด -6.58 จุด อยู่ที่ 1,381.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,326 ลบ.ต่างชาติขาย 627 ลบ.สถาบันซื้อ 462 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 84 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 689 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น CPALL,KTB,LH,BBL,BCP และมียอดขายสุทธิ AOT,PTTEP,ADVANC,BJC,DELTA มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 3,929 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ SGP-R,SPCG-R,LPN โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 12,731 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 14,024 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 2,208 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.77%, S&P500 -0.14%, Nasdaq +0.16% กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับลดลง นำโดย Nike -6.9% ตอบรับคาดการณ์รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกมีแนวโน้มลดลง แต่ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี & ผู้ผลิตชิป AI ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.03% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี และสินค้าส่วนบุคคลและครัวเรือนลดลงตามอุปสงค์ของจีน แต่ได้แรงหนุนจากกลุ่มสาธารณูปโภค & อสังหา ฯ
Market View
DJIA +2%, S&P500 +2.3%, Nasdaq +2.9% WoW หลังเฟดมีมติคงดอกเบี้ยที่ 00 – 5.25% แต่ยังส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยคาด GDP สหรัฐปีนี้ +2.4% สูงกว่าเดิมคาด +1.4%, เงินเฟ้อ US PCE ปีนี้คาดที่ 2.4% และอัตราว่างงานปีนี้คาด 4.0% บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตดีและเงินเฟ้อทยอยลดลง ซึ่งตลาดคาดเฟดมีโอกาส 71% จะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุม 12 มิ.ย. ขณะที่ ปธ.เฟดแอตแลนต้า คาดเฟดจะลดดอกเบี้ยปีนี้ได้เพียง 1 ครั้ง เนื่องจากเศรษฐกิจ & เงินเฟ้อสหรัฐแข็งแกร่งกว่าคาด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจพฤหัส ติดตาม US GDP Q4/66 คาด 3.2% & Q3/66 4.9% QoQ, ศุกร์ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดในวัน Good Friday และ US PCE ก.พ. คาด 0.4% & ม.ค. 0.3% MoM
Stoxx600 +0.96% WoW ได้แรงหนุนจาก DAX เยอรมัน +1.54% WoW ทำจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่ BOE อังกฤษมีมติ 8 – 1 คงดอกเบี้ยที่ 25% โดย 1 เสียงหนุนลดดอกเบี้ย 0.25% โดยผู้ว่าธนาคารกลางอังกฤษเผยมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยในปีนี หลังเงินเฟ้ออังกฤษ ก.พ. ลดลงอยู่ที่ 3.4% & ม.ค. 4.0% YoY
MSCI Asia Pacific X Japan +0.29 % WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 3 ครั้งปีนี้ ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.22%, ฮั่งเส็ง -1.32% WoW หลังเศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวช้า หลังรายได้เก็บภาษีรัฐบาลจีนในช่วง 2 เดือน -2.4% จึงยังจำเป็นต้องการ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ส่วนนิเกอิ +5.65% WoW หลังผู้ว่า BOJ เผยยังหนุนนโยบายผ่อนคลายต่อไป ส่งผลให้ตลาดคาด BOJ จะยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป
SET -0.36% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 57 หมื่น ลบ. +8.5% WoW ต่างชาติขาย 3.7 หมื่น ลบ. รายย่อยซื้อ 3.5 หมื่น ลบ. สถาบัน 1.8 พัน ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 730 ลบ. โดยกลุ่มปรับลดลง คือ วัสดุก่อสร้าง -4.4% นำโดย SCC รับข่าวหยุดทดสอบเดินเครื่องโรงงาน LSP ที่เวียดนาม ซึ่งคาดจะกลับมาดำเนินปกติได้ราว มิ.ย. 67 และกลุ่มค้าปลีก -2.8% รับข่าว Tops Daily เปิดขายแฟรนไชส์ ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดสูงขึ้น ขณะที่ดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ +8.2% ได้แรงหนุนจาก US Bond Yield ลดลงและยอดส่งออกเซมิคอน ฯ ของเกาหลีใต้ มี.ค. คาดปรับดีขึ้น ส่วนกลุ่มท่องเที่ยว +1.6% รับช่วง High Season ในเทศกาลสงกรานต์ ปัจจัยในประเทศวันนี้ติดตาม ส่งออกไทย ก.พ. คาด +4.3% & ม.ค. +10% YoY และวันอังคาร สว.พิจารณางบประมาณปี 67 ซึ่งคาดจะผ่านงบได้ใน เม.ย.

Daily Strategy

ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,370 – 1,375 แนวต้าน 1,390 – 1,395 ได้แรงหนุนจากงบประมาณปี 67 ในช่วงต้น เม.ย. แนะนำทยอยซื้อท่องเที่ยว AOT,AAV,BA,CENTEL/ อาหาร & เครื่องดื่ม GFPT,ITC,PLUS,TIPCO,TACC
BA* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 20.00 บาท) บริษัทรายงานผลประกอบการ 4Q66 ขาดทุนสุทธิ 346 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ส่วนใหญ่มาจากค่าตอบแทนพนักงาน การจ่ายเงินโบนัส และค่าซ่อมแซมเครื่องบิน อย่างไรก็ตามสถิติการบินยังคงฟื้นตัวสอดคล้องกับอุตสาหกรรม รวมถึงราคาค่าตั๋วโดยสารที่อยู่ในระดับสูง ส่วนแนวโน้ม 1Q67 คาดเห็นการพลิกกลับมาเป็นกำไรจากที่เป็น high season ท่องเที่ยว ส่งผลปริมาณผู้โดยสารเติบโต ส่วนราคาค่าตั๋วโดยสารยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจากความต้องการในการเดินทางที่ฟื้นเร็วกว่า supply ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A จะลดลงสู่ระดับไตรมาสปกติ ทั้งนี้จากสถิติการบินยังมี room ให้ improve ไปเทียบเท่าช่วง pre-covid ได้ แม้บริษัทจะเพิ่มกำลังการให้บริการได้ช้ากว่าสายการบิน low cost โดยในปี 67 บริษัทตั้งเป้าผู้โดยสาร 5 ล้านคน LF 85% เที่ยวบิน 48,000 เที่ยวบิน และรายได้ 17,800 ล้านบาท
MAJOR* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย BB Consensus 80 บาท) กำไรสุทธิปี66 อยู่ที่ 1,042 ลบ.,+313%YoY มีแรงหนุนจากการขายหุ้น MPIC และการฟื้นตัวของธุรกิจฝั่งโรงภาพยนตร์โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทย เช่น สัปเหร่อ, ธี่หยด, 4King 2 เป็นต้น ด้านภาพรวมปี67 นี้ คาดยังจะมีโมเมนตัมการฟื้นตัวของรายได้จากภาพยนตร์ไทยที่ยังมีความนิยม ส่วนภาพยนตร์ต่างประเทศ หลายเรื่องเป็นภาคต่อที่มีฐานคนดูอยู่แล้วเช่น Dune, Joker, Deadpool เป็นต้น ขณะที่รายได้ค่าโฆษณา และรายได้จากการขายอาหารเครื่องดื่มโดยเฉพาะป็อปคอร์น ก็คาดว่าจะลู่ขึ้นตามอัตราการเข้าโรงเช่นกัน ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิของ MAJOR* ปี67 และ68 จะอยู่ที่ 820 ลบ. (-21%YoY/ปี66 มีกำไรพิเศษจากการขาย MPIC ราว 346 ลบ.) และ 971 ลบ.(+18%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI พ.ค. -$0.44 อยู่ที่ $80.63/บาร์เรล Brent พ.ค. -$0.35 อยู่ที่ $85.43/บาร์เรล โดย WTI -0.51% WoW, Brent +0.27% WoW โดย รมว.ต่างประเทศสหรัฐ เผยอาจได้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างฮามาสกับอิสราเอลเป็นเวลา 6 สัปดาห์

Gold Update(-) Comex Gold เม.ย.$-24.70 อยู่ที่ $2,160 /ออนซ์ โดยสัญญาทองคำ -0.07% WoW ถูกแรงขายทำกำไรหลังราคาทองคำปรับขึ้นสูงสุดที่ $2,225.30/ ออนซ์ หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยปีนี้ 3 ครั้ง

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ
-896.38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -1,041.14 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +136.34 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +8.42 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 36.37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.192 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -44 จุด อยู่ที่ 2,196

(+) BitCoin เช้านี้ +3.43% อยู่ที่ 66,745 ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่ำวันนี้ติดตามถ้อยแถลงของ ปธ.ECB คริสติน ลาการ์ด

Economic Calendar

ในประเทศ

29 มี.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที5 สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

ต่างประเทศ

25 มี.ค. US ยอดขายบ้านใหม่ (ก.พ.)

26 มี.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (มี.ค.)

27 มี.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

28 มี.ค. US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 4)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

29 มี.ค. US วันศุกร์ประเสริฐ

US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (ก.พ.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตัวรับความหวังเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้น ลุ้น Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1)กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, HMPRO*, ILM*, CPN*, CRC, MC*, KAMART*, CBG*, ICHI*, RBF*

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำปี66 AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, SAPPE*, DELTA, KCE*, EPG*, NYT*, SJWD*

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ เริ่มลดลง BGRIM*, GPSC*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA, SUSCO*

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio March 2024: GFPT*, BDMS, BSRC*, CPALL, AAV*

Analysts

Apichai Raomanachai