Market Wrap-Up
- SET วันที่ 13 มี.ค.67 ปิด +4.88 จุด อยู่ที่ 1,384.51 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,297 ลบ.ต่างชาติซื้อ 1,068 ลบ.สถาบันขาย 608 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 82 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 357 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น IVL,BBL,CPN,PTTGC,PTT และมียอดขายสุทธิ BTS,DELTA,PTTEP,BEM,CPALL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 4,232 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ TMT,JAPAN13,QH-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 11,498 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 32,716 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 437 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +10%, S&P500 -0.19%, Nasdaq -0.54% โดยกลุ่มเซมิคอน -2.5%, Nvidia -1.1% และ Intel -4.4% หลัง ก.กลาโหมสหรัฐตัดงบพัฒนาชิปมูลค่า 2.5 พัน ล.ดอลลาร์ ขณะที่กลุ่มค้าปลีก Dollar Tree -14.2% หลังมีผลขาดทุนในไตรมาสที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.16% ได้แรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีก, สาธารณูปโภค
- Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายทำกำไรกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ +17% YTD นำโดยกลุ่มผลิตชิป Ai คือ Nvidia โดยวันที่ 18 – 21 มี.ค. จะจัดงาน Nvidia GTC 2024 เพื่อเปิดตัวโครงการต่างๆ เกี่ยวกับ AI ค่ำวันนี้ติดตาม US PPI ก.พ. คาด 1.2% & ม.ค. 0.9% YoY และคาดทรงตัว 0.3% MoM เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ย ซึ่ง CME Fed Watch ชี้โอกาส 58.2% เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 12 มิ.ย.
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีก, สาธารณูปโภค, พลังงาน & เหมืองแร่ จากคาดการณ์ ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยใน มิ.ย. จากคาดการณ์เงินเฟ้อยูโรโซนปีนี้จะลดลงอยู่ที่ 2.3% ขณะที่ FTSE อังกฤษวานนี้ +0.31% ตอบรับ GDP อังกฤษ ม.ค. +0.2% & ธ.ค. -0.1% MoM ได้แรงหนุนจากธุรกิจค้าปลีก และก่อสร้างบ้าน
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.40% จากแรงขายกลุ่มอสังหาฯ จากปัญหาผิดนัดชำระดอกเบี้ยของ Country Garden กอปรกับการประชุมสภาจีนยังไม่มี ม.กระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ๆ ส่วนดัชนีนิเกอิวานนี้ -0.26% ถูกกดดันจากเงินเยนแข็งค่า และรอผลการประชุม BOJ วันที่ 18 – 19 มี.ค. อาจจะมีการพิจารณายกเลิก ม.ดอกเบี้ยติดลบ
- ดัชนี SET วานนี้ +0.35% ปริมาณการซื้อขาย 4.0 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 1.0 พัน ลบ. สถาบันขาย 608 ลบ. รายย่อยขาย 543 ลบ. ได้แรงหนุนจากกลุ่มปิโตรเคมีนำโดย IVL, PTTGC ปรับขึ้นรับคาดการณ์กำไรปีนี้มีโอกาสฟื้นตัว ตามสเปรดปิโตร ฯ และคาดจะไม่มีผลขาดทุนจากรายการพิเศษ ส่วนกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง +1.73% ซึ่งเป็นกลุ่มคาดได้ประโยชน์จากงบลงทุนภาครัฐที่กำลังรอผ่านงบประมาณปี 67 ในช่วงต้น เม.ย. นี้ โดยภาพรวม GDP ไทยปีนี้สภาพัฒน์คาด +2.7% จะได้แรงหนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ, ภาคท่องเที่ยว และส่งออกคาดฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งคาดส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง, รับเหมาก่อสร้าง, ส่งออกอาหาร & เครื่องดื่ม และกลุ่มท่องเที่ยว เช่น สายการบิน, โรงแรม, รพ.
Daily Strategy
- ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,375 – 1,380 แนวต้าน 1,390 รอผลการประชุมเฟดกลางสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดจะลดดอกเบี้นในช่วงกลางปีนี้ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL,BJC/ ท่องเที่ยว AOT,BA,MINT,SHR/ อุปโภค GFPT,ITC,PLUS,TIPCO
- SAPPE* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 103.00 บาท) ผู้บริหารคาดรายได้ใน 1Q67 เติบโตได้ราว 20-25%YoY หนุนจากรายได้ลูกค้าตะวันออกกลางเนื่องจากเข้าสู่ช่วงรอมฎอน ส่วนการเติบโตในปี 2567 โดยผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 67 เติบโต 20-25%YoY จากการขยายไลน์ผลิตและแผนออกสินค้าใหม่ ซึ่งตลาดส่งออก (สัดส่วนรายได้ 75%) ยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลักทั้งในยุโรปและอเมริกา ประกอบกับการเริ่มดำเนินการสายการผลิตใหม่สิ้น 1Q67 เพิ่มกำลังการผลิตอีกประมาณ 25% หรือ 44,000 ตันต่อปี ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์กำไรปี 67 ที 27 พันล้านบาท +18%YoY และปี 68 ที่ 1.45 พันล้านบาท +13%YoY ตามลำดับ
- AMATA (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 28.00 บาท) สำหรับภาพการดำเนินงานกลุ่มนิคมฯในปี67 เราคาดว่าจะยังมีแรงหนุนจากการตั้งฐานการผลิตกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมไปถึงการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย โดยทางผู้บริหารวางเป้าขายที่ดินปีนี้ที่ราวไม่เกิน 2,000 ไร่(จากปี66 1,854 ไร่) ส่วน backlog สิ้นปี66 ยังแข็งแกร่งที่ 14,285 ลบ.(ไทย 1.2 หมื่นลบ. ที่เหลือเวียดนาม) ทั้งนี้ เบื้องต้น ทางฝ่ายวิเคราะห์ประเมินกำไรสุทธิของ AMATA ปี67 ที่ระดับ 2,006 ลบ.(+6%YoY) โดยนอกจากการขายที่ดินแล้ว คาดว่ารายได้ฝั่งสาธารณูปโภคจะแรงมีหนุนตามค่าFt และอากาศร้อน นอกจากนี้ AMATA ยังจะมี story จากการ Spinoff AMATA U (กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภค) ในปีนี้
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI เม.ย. +$2.10 อยู่ที่ $79.72/บาร์เรล Brent พ.ค. +$2.11 อยู่ที่ $84.03/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 1.5 ล.บาร์เรล มากกว่าคาดจะลด 9 แสน บาร์เรล ขณะที่ยูเครนได้ส่งโดรนเข้าโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทรอสเนฟต์รัสเซีย ที่มีกำลังการผลิต 17.1 ล.บาร์เรล/วัน
Gold Update(+) Comex Gold เม.ย.+$14.70 อยู่ที่ $2,180.80 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.16% อยู่ที่ 102.789 และทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ
+487.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +30.01 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +448.83 ล.ดอลลาร์ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +9.15 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าตัวอยู่ที่ 35.64 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.187 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +55 จุด อยู่ที่ 2,370
(+) BitCoin เช้านี้ +0.95% อยู่ที่ 72,681 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
11 มี.ค. ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์
สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์
กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ
ต่างประเทศ
12 มี.ค. US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI (ก.พ.)
13 มี.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
14 มี.ค. US ดัชนียอดขายปลีกพื้นฐาน (Core Retail Sales) (ก.พ.)
US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (ก.พ.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตัวรับความหวังเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้น ลุ้น Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1)กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, HMPRO*, ILM*, CPN*, CRC, MC*, KAMART*, CBG*, ICHI*, RBF*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำปี66 AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, SAPPE*, DELTA, KCE*, EPG*, NYT*, SJWD*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ เริ่มลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA, SUSCO*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio March 2024: GFPT*, BDMS, BSRC*, CPALL, AAV*
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th