ตั้งเป้าหมายเติบโตมากกว่า 10% ในปี 2024F
เราคาดยอดขายในปี 2024 ทรงตัวในระดับต่ำเนื่องจากราคาทองที่อยู่ในระดับสูงมากตั้งแต่ช่วง 4Q23 ทำให้ผู้บริหารปรับกลยุทธ์ไปเน้นการบริหารจัดการการรับซื้อทองเป็นหลักและลดการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายลง ขณะที่แผนการขยายสาขาเชิงรุกของธุรกิจขายฝากยังดำเนินต่อเนื่องอีก 50 สาขา รวมถึงยังคงเป้าหมายของสินเชื่อขายฝากที่ 3.8 พันล้านบาท (+40% YoY) ในปี 2024 ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงทำให้ปัจจุบันมี Risk/Reward ที่เริ่มน่าสนใจเราจึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”
ปรับกลยุทธ์ตามสภาวะราคาทอง
ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตในปี 2024F ที่ 10% YoY โดยเราเชื่อว่าจะมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีปริมาณการรับซื้อทองจากลูกค้ามากขึ้น ซึ่งจะมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าการขายปลีก โดยยังมีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 78 สาขา เป็น 484 สาขาภายในปี 2024F (เทียบกับ 127 สาขาในปี 2023) โดยจะยังคงเน้นร้านทองมาเงินไปเป็นหลักเนื่องจากเห็นโอกาสอีกมาก กอปรกับราคาทองที่อยู่ในระดับสูงทำให้ธุรกิจค้าปลีกทองมีความน่าสนใจน้อยกว่าเพราะกำลังซื้อยังอ่อนแอ ขณะที่ยังมีแผนในการรุกช่องทางการขาย Online ผ่าน Facebook และ TikTok (คาดเริ่มเห็นการใช้ Affiliates มากขึ้น)เพื่อชดเชยรายได้จาก Lazada และ Shopee ที่ชดลอตัวลง
คาดประสิทธิภาพการทำกำไรจะเพิ่มขึ้นช่วยชดเชยรายได้ที่ชะลอตัวลง
เราปรับประมาณการรายได้ในปี 2024F ลง 6.2% เป็น 30,240 ล้านบาท (+2% YoY) เพื่อสะท้อนธุรกิจค้าปลีกทองที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง 3% YoY มาตั้งแต่ช่วง 2H23 เพราะราคาทองที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องกว่า 15% จากระดับ 30,921 บาทสู่ระดับ 36,000 บาทในปัจจุบัน อย่างไรก็ดีอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากสถานะรับซื้อสุทธิที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วง 4Q23 ทำให้เราปรับสมมติฐาน GPM ในปี 2024F ขึ้นเป็น 8.7% (จากเดิม 8.2%)
ประเมินมูลค่า
เราประเมินมูลค่า AURA ที่ 16.2 บาท โดยใช้ P/E ที่ 21.6 เท่า บน EPS ของปี 2024F โดย Discount 10% จากค่าเฉลี่ยผู้เล่นในอุตสาหกรรมค้าปลีกในประเทศไทย ความเสี่ยงได้แก่ 1)การเติบโตของธุรกิจขายฝาก 2)ความผันผวนของราคาทองคำ และ 3) กระแสเงินสดอ่อนแอ