AT THE OPEN (#ATO)
SET Index รีบาวน์ตามกรอบ 1365-1380 จุด
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ

Market Strategy
คาด SET Index วันนี้รีบาวน์ตามกรอบ 1365-1380 จุด หนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นทุกดัชนีในช่วง 0.23% ถึง 1.14% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม Tech ที่ปรับขึ้น และความกังวลต่อความเข้มงวดในการดำเนินนโยบายการเงินของ FED ลดลงจากดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือน ก.พ. อยู่ที่ 47.8 ต่ำกว่าตลาดคาด 49.5 นอกจากนี้ยังน่าจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ฟื้นตัว 1.6% จาก Reuters รายงานกลุ่ม OPEC+ เตรียมขยายระยะเวลาควบคุมกำลังการผลิตต่อไปอย่างน้อยถึง 2Q67

การรายผลประกอบการกำไรบริษัทจดทะเบียน 4Q66 รวบรวมถึงวันที่ 1 มี.ค. 67 จำนวน 518 บ. คิดเป็นสัดส่วน 90% ของ Market Cap ทำกำไรสุทธิ 1.57 แสนล้านบาท หดตัว 41%QoQ แต่ขยายตัว 2%YoY ภาพรวมทำกำไรต่ำกว่าตลาดคาด 23% ส่งผลให้ Bloomberg Consensus ปรับคาดการณ์ EPS 67E มาที่ 95.47 บาท/หุ้น จากตอนต้นปีเคยอยู่ที่บริเวณ 100 บาท/หุ้น (หรือปรับประมาณการกำไรลงราว 4.5%YTD) แต่เราเชื่อว่าตลาดซึมซับไปมากแล้ว สะท้อนจาก SET Index ที่ปรับลงจากจุดสูงสุดของปี (1438 จุด) ลงมา 4.9% ทำให้แรงกดดันจากนี้จะเริ่มจำกัด กลยุทธ์การลงทุนเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ

Market Summary
SET Index ปรับลง 3.25 จุด แรงกดดันหลักมาจาก DELTA ปรับลง 4.6% กดดันดัชนี -3.3 จุด หากหัก DELTA ออกไปดัชนีจะกลับมาปิดบวกเล็กน้อย โดยหุ้นที่บวกเด่น AOT +3.15% จากนายกฯ เผยแผนผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางขนส่งภูมิภาค แรงซื้อคืนของ ADVANC +2.5% และ INTUCH +1.9% และ CPN +2.3% หลังงบ 4Q66 ออกมาดีตามคาดและ Valuation อยู่ในระดับไม่แพง

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ PTTEP SABINA

SABINA แนวโน้มเติบโตแกร่ง พร้อมปันผลสูง
คาดกำไรปี 67E จะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 525 ล้านบาท หนุนจากการบริโภคในประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นจากประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น
กำไร 1Q67E คาดจะเติบโต YoY จากยอดขายหน้าร้านและทาง NSR ที่เพิ่มขึ้นจากโมเมนตัมยอดขายในประเทศยังคงเป็นบวกในเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่
ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER67 ที่ 16.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5ปี อยู่ -1 S.D. ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 67 คาดว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีที่ 6% ต่อปี
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 32.50 บาท

PTTEP ปันผลเกินคาด
ราคาหุ้นจะได้แรงขับเคลื่อนจากราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ปรับขึ้น 1.6% หนุนจาก Reuters รายงานว่ากลุ่ม OPEC+ จะขยายการควบคุมกำลังการผลิต 2.2 mbpd ไปในช่วง 2Q67 ซึ่งคาดว่าจะมึความชัดเจนในช่วงต้นเดือนมี.ค.นี้
ส่วนปัจจัยพื้นฐานเราคาดว่า PTTEP จะมีการผลิตที่เติบโตแข็งแกร่งที่ 11.5% CAGR ในปี 66-67 ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของการผลิตน้ำมันและก๊าซทั่วโลก โดยมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตจากสัญญาที่ต่ออายุในอ่าวไทย โดยเฉพาะแหล่งก๊าซเอราวัณ
หุ้นเทรดอยู่ที่ PER ปี 67E ที่ 8 เท่า (เทียบกับค่าเฉลี่ย 10.3 เท่า) โดยอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 6.6%
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 194.00 บาท

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นไทยหลังผ่านพ้นช่วงการรายงานผลประกอบการ 4Q66 น่าจะกลับมาให้น้ำหนักต่อ
ปัจจัยที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจในระยะถัดไป ประกอบด้วย มาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการลงทุนของรัฐ
จำนวนนักท่องเที่ยวหลังเริ่มต้นฟรีวีซ่าไทย-จีน (1 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะดีต่อ sentiment กลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีก
ถ้อยแถลงประธาน Fed ใน Semiannual Congressional Testimony ซึ่งน่าจะเป็นการส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า Fed จะยังไม่เร่งปรับลดดอกเบี้ยนโยบายแร
การประชุม ECB ซึ่ง Consensus ยังจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 4.5% เช่นเดิม
ตัวเลขเศรษฐกิจจริงของจีน i) การค้าระหว่างประเทศจีน เดือน ก.พ. ซึ่งอาจมีผลกระทบจากวันหยุดตรุษจีน ii) เงินเฟ้อเดือน ก.พ. ซึ่งน่าจะพลิกกลับมา +0.2%

EYES ON

5 มี.ค. Caixin PMI ภาคบริการ, HCOB PMI ของ Eurozone
7 มี.ค. ส่งออก/นำเข้าจีน, ประชุม ECB, GDP 4Q66 ของ Eurozone รอบสุดท้าย

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ