Company    
BTS Group Holdings
Bloomberg    SET    Exchange    Sector
BTS TB    BTS    SET    Transportation & Logistics

Company Note
Rating
Under review

ขาดทุนหนักจากการด้อยค่าเงินลงทุน

ขาดทุนสุทธิ 4,762 ล้านบาทหลักๆ จากการด้อยค่าเงินลงทุนใน KEX และ SINGER
BTS รายงานขาดทุนสุทธิใน 3Q23/24 อยู่ที่ 4,762 ล้านบาท พลิกจากกำไร 1,049 ล้านบาท ในปีก่อนและ 257 ล้านบาทในไตรมาสก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนใน KEX และ SINGER (ของแรบบิทโฮลดิ้งส์) รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น 53% YoY 8% QoQ (จาก IBD ที่เพิ่มขึ้น 9% YoY จากการออกหุ้นกู้และการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน, ต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและการเปิดให้บริการของสายสีเหลืองทำให้ต้นทุนบางส่วนที่เคย cap ไว้เป็นต้นทุนถูกบันทึกเป็นดอกเบี้ยจ่าย) หากไม่รวมรายการที่ไม่เกิดขึ้นประจำ (รวมการด้อยค่าเงินลงทุน) บริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงาน (Net recurring Income) ที่ 144 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการ 9M23/24 ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 5,277 ล้านบาท หลักๆมาจากการด้อยค่าเงินลงทุนใน KEX และด้อยค่าเงินลงทุนในแรบบิทโฮลดิ้งส์และ JMART หากไม่รวมรายการพิเศษ บริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 196 ล้านบาท
รายได้เติบโตจากทุกธุรกิจ แต่ Margin ลดลงหลักๆมาจากธุรกิจ MOVE ที่ลดลง
รายได้รวมในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 9% YoY และ 30% QoQ มาจากการเติบโตของรายได้จากทุกหน่วยธุรกิจ หลักๆมาจากรายได้จากการให้บริการรับเหมาที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเร่งงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูให้แล้วเสร็จ และรายได้จากการบริการและการขายเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่าโดยสารของสายสีเหลือง อย่างไรก็ตามอัตรากำไรขั้นต้นลดลง YoY และ QoQ จาก 30.4% และ 31.6% มาอยู่ที่ 26.9% หลักๆมาจาก Gross margin ธุรกิจ Move ที่ลดลงเนื่องจากสัดส่วนรายได้รับเหมาก่อสร้างซึ่งมาร์จิ้นน้อยเพิ่มขึ้น และผลประกอบการที่ยังอ่อนตัวหลังการเปิดให้บริการสายสีเหลือง Recurring EBITDA อยู่ที่ 2,283 ล้านบาท ลด 18% YoY แต่เพิ่ม 14% QoQ หลักๆ มาจากการลดลงของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทแรบบิทโฮลดิ้งส์ที่ลดลง สำหรับ 9M23/24 Recurring EBITDA ลดลง 10% โดยธุรกิจ MOVE ยังขยายตัวต่อเนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยรับและส่วนแบ่งกำไรจาก BTSGIF ที่เพิ่มขึ้นแต่ธุรกิจ MOVE และ MATCH ปรับตัวลดลงหลักๆมาจากส่วนแบ่งขาดทุนในแรบบิทโฮลดิ้งส์และ JMART รวมทั้ง KEX
คาดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แนวโน้มน่าจะดีขึ้นในไตรมาสถัดๆ ไป
เรามองว่า BTS จะฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาสถัดไป จาก 1) ธุรกิจ MOVE ที่ยังคงเป็นหลักที่มีรายได้สม่ำเสมอจากรับจ้างเดินรถ และคาดส่วนแบ่งกำไรจาก BTSGIF จะเพิ่มขึ้นต่อตามจำนวนผู้โดยสาร รวมทั้งความคืบหน้าคดีความ อย่างไรก็ตามจะมีผลขาดทุนจากสายสีชมพูเพิ่มเข้ามาเริ่มตั้งแต่ 4Q23/24, 2) ธุรกิจ MIX คาดจะฟื้นตัวในธุรกิจสื่อนอกบ้าน รวมถึงไม่มีส่วนแบ่งขาดทุนจาก KEX อีก, 3) ธุรกิจ MATCH คาดส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในแรบบิทโฮลดิ้งส์กับ JMART มีแนวโน้มจะลดลง
อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการกำไร มูลค่าที่เหมาะสมและคำแนะนำ
ผลประกอบการในช่วง 9M23/24 ต่ำกว่าที่คาดไว้มาก ทำให้เราอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการกำไร มูลค่าที่เหมาะสมและคำแนะนำสำหรับ BTS ปัจจัยเสี่ยงมาจากการฟื้นตัวที่ช้ากว่าที่เราคาด และค่าใช้จ่ายจากการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพู/เหลืองมากกว่าคาด
Forecasts and ratios
Year Ended  December 31    2021    2022    2023E    2024E    2025E
Sales (THBm)    25,764    18,018    16,603    16,793    17,729
EBITDA (THBm)    8,243    7,992    10,355    10,863    11,409
Net profit (THBm)    3,825    1,836    1,986    2,174    2,540
Net Profit (% chg from prev)    nm.    nm.    0    0    0
EPS (THB)    0.28    0.13    0.14    0.16    0.18
EPS (% YoY)    -8.2    -52.0    8.1    9.5    16.8
EPS vs Cons (%)    nm    nm    nm    nm    nm
PER (X)    33.7    65.7    41.8    38.2    32.7
Yield (%)    5.7    5.7    2.4    2.6    3.1
P/BV (X)    1.0    1.0    1.0    1.0    1.0
EV/EBITDA (X)    33.3    35.2    24.1    23.2    22.3
ROE (%)    6.8    2.9    3.1    3.4    4.0
Source: Company data, TISCO estimates
    


Figure 1. ขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนใน KEX และ SINGER
 
Source: BTS, TISCO Research        



Sansanee Srijamjuree
ID: 018176
(66) 2633 6475
sansanee@tisco.co.th