Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : TOP แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ประเมินราคาเหมาะสม 63.00 บาท

241

 

Thai Oil

• กำไร 4Q66 หดตัวตามค่าการกลั่นและผลขาดทุนสต๊อกน้ำมัน
TOP รายงานผลประกอบการ 4Q66 มีกำไรสุทธิ 2.94 พันล้านบาท ดีกว่าคาด เพิ่มขึ้น +1,905%YoY จากผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันลดลง แต่หดตัว -73%QoQ จากค่าการกลั่นที่ลดลง รวมถึงพลิกขาดทุนสต๊อกจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง อย่างไรก็ตามหากตัดรายการพิเศษออกกำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท -48%QoQ, -23%YoY
1) ธุรกิจโรงกลั่น Market GRM -42%QoQ อยู่ที่ US$7.2/bbl กดดันจากส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับตัวลงเกือบทุกประเภท ทั้งนี้เป็นผลจากโรงกลั่นหลายแห่งทยอยกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงในช่วง 3Q66 นอกจากนี้ค่าการกลั่นยังถูกกดดันจาก crude premium ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราการใช้กำลังการกลั่นดีขึ้นเล็กน้อยที่ 111%
2) ธุรกิจอะโรมาติกส์ Contribution Margin (รวม LAB) อยู่ที่ US$1/bbl ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ US$0.7$/bbl โดย P2F Margin +77%QoQ อยู่ที่ US$55/ton หนุนจากส่วนต่างราคา PX-ULG95 และ BZ-ULG95 ที่ปรับขึ้นตามความต้องการใช้ของผู้ผลิตปลายน้ำ ด้านอัตราการใช้กำลังผลิต TPX และ LAB อยู่ที่ 79% และ 123%
3) ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น Contribution Margin อยู่ที่ US$0.5$/bbl ทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดย P2F Margin +14%QoQ อยู่ที่ US$97/ton จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ 500SN และ Bitumen เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงเหลือ 76%
ส่วนธุรกิจโอเลฟินส์ (CAP) ขาดทุนต่อเนื่องจาก spread ที่อ่อนแอ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลและบางส่วนจากค่าใช้จ่ายในการขนส่งจากเหตุน้ำมันรั่ว รวมกำไรขั้นต้นของกลุ่มที่ไม่รวมสต๊อกน้ำมัน (Market GIM) ลดลง -37%QoQ อยู่ที่ US$8.6/bbl ส่วนกำไรขั้นต้นของกลุ่มรวมสต๊อกน้ำมัน (Accounting GIM) อยู่ที่ US$3.6/bbl โดยมีรายการพิเศษ 1) ขาดทุนสต๊อกน้ำมันสุทธิ (รวม NRV) 3.3 พันล้านบาท 2) กำไรอัตราแลกเปลี่ยน 1.2 พันล้านบาท และ 3) กำไรจากธุรกรรมป้องกันความเสี่ยง 920 ล้านบาท ดังนั้นรวมกำไรสุทธิปี 66 อยู่ที่ 1.94 หมื่นล้านบาท -40%YoY
• คาดกำไร 1Q67 ฟื้นตัว QoQ ได้แม้มีการปิดซ่อมหน่วยกลั่นนอกแผน
สำหรับแนวโน้มกำไร 1Q67 คาดฟื้นตัว QoQ รับผลบวกจาก crude premium น้ำมันดิบ Murban / Arab light ที่ปรับตัวลดลง ขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์หลักในกลุ่ม Middle Distillates ยังคงแข็งแกร่งหนุนจากความต้องการใช้ช่วงฤดูหนาวและการสัญจรทางอากาศ และส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวดีขึ้นจากการปิดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงกลั่น และสภาพอากาศที่หนาวเย็น ในสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะสามารถชดเชยผลกระทบจากการหยุดเดินเครื่องหน่วยกลั่น CDU-3 เป็นเวลา 13 วัน ส่งผลให้ run rate ลดลงเหลือราว 95% ใน 1Q67 ส่วนธุรกิจอะโรมาติกส์และธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น คาดทยอยฟื้นตัวขึ้นตามทิศทางของส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ เราคงประมาณการกำไรสุทธิในปี 67 ที่ 1.29 หมื่นล้านบาท ลดลง -34%YoY ตามสมมติฐานค่าการกลั่นที่ปรับลดลงจากปีก่อนที่สูงผิดปกติ
• แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ประเมินราคาเหมาะสมที่ 63.00 บาท
ปรับราคาเหมาะสมปี 67 ขึ้นเป็น 63.00 บาท (เดิม 60.00 บาท) อิง PBV Multiplier 0.82x (ระดับ -1SD ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยของ Peer) แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” แม้ราคาหุ้นจะขึ้นมารับผลประกอบการที่ดีกว่าตัวอื่นในกลุ่ม แต่ทิศทางค่าการกลั่นที่ฟื้นตัว QTD น่าจะทำให้กำไร 1Q67 มีโมเมนตัมไปต่อได้ นอกจากนี้บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 2H66 จำนวน 2.75 บาท/หุ้น คิดเป็น Div.Yield ที่สูงราว 4.9% โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 ก.พ.67

 

 

 


Nopporn Chaykaew
Fundamental Analyst Registration No.043964
Tel 02-829-6999
E-mail: nopporn.ch@kfsec.co.th

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้