AT THE OPEN (#ATO)

SET Index ควรมีรีบาวน์
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ

Market Strategy
คาด Set Index รีบาวน์ตามกรอบ 1380-1395 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ฟื้นกลับได้หมดในช่วง 0.4% ถึง 1.3% หลังจากตลาดปรับมุมมองการลดดอกเบี้ยให้เข้าใกล้ FED ยิ่งขึ้น สะท้อนจาก FEDWATCH Tool ล่าสุดให้โอกาสการปรับลดดอกเบี้ยฯ ครั้งแรกไปเดือน มิ.ย. โดยการปรับลดดอกเบี้ยฯ ปีนี้จะมี 4 ครั้งมาที่ 4.5% ใกล้กับ FED ที่คาดดอกเบี้ยสิ้นปีอยู่ 4.75% ด้านราคาน้ำมันดิบ Brent วานนี้ปรับลง -1.25% จากการรายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด แต่อย่างไรก็ตามเรายังเชื่อว่า Downside ในการปรับลงของราคาน้ำมันดิบยังจำกัดจากความไม่สงบในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ สะท้อนจากล่าสุด Maersk เผยว่าการเลี่ยงเส้นทางเดินเรือในทะเลแดงยังน่าจะมีไปถึง 2H67
ด้านปัจจัยในประเทศแรงขับเคลื่อนราคาหุ้นยังอยู่ที่การรายงานงบ 4Q66 เป็นสำคัญซึ่งวานนี้หุ้น Market Cap ขนาดใหญ่ CPAXT ออกมาดีกว่าตลาดคาดราคาหุ้นจึงน่าจะตอบรับในเชิงบวกหนุน แต่อย่างไรก็ตามทิศทาง Fund Flow ไหลออกเป็นปัจจัยที่ทำให้การฟิ้นตัวของ SET Index จำกัด กลยุทธ์การลงทุนเลือกหุ้นที่ Outlook ผลประกอบการเติบโตดี

Market Summary
SET Index ปรับลง 0.48% กลุ่มอิเล็คฯปรับลงหนักจาก KCE ที่ลดลง 10% หลังการรายงานผลประกอบการที่ต่ำกว่าตลาดคาด สร้าง Sentiment เชิงลบต่อ DELTA -3.66% HANA -4.6% ตามด้วยกลุ่มพลังงาน OR-3.7% จากแรงขายทำกำไรหลังวันก่อนฟื้นตัวแรง กลุ่มไฟแนนซ์ปรับลง -1.5% จาก Bond Yield สหรัฐฯ ที่ปรับขึ้น ส่วนกลุ่มรับเหมาฯ Outperform ปรับขึ้น 3.5%

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CPAXT AOT

AOT ย่อมาเป็นโอกาสสะสม
เราคาดว่าโมเมนตัมการฟื้นตัวของกำไรจะยังคงดำเนินต่อไปตลอดปี 67-68 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และรายได้สัมปทานที่สูงขึ้นหลังมาตรการช่วยเหลือผู้รับสัมปทานหมดอายุ
รายได้ระยะยาวจะได้รับแรงหนุนจากความสามารถในการดำเนินงานที่สูงขึ้นและการขยายสนามบิน เราคาดว่าความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของสนามบินจะเพิ่มขึ้นจาก 116 ล้านคนต่อปีเป็น 173 ล้านคนภายในปี 71
ปัจจุบันหุ้น AOT ซื้อขายที่ Forward P/E ปี 68 ที่ 30 เท่า ต่ำกว่าP/E ย้อนหลังระดับที่ 39 เท่า ในปี 62 และ 45 เท่า ในปี 61
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 77.00 บาท

CPAXT มองบวกต่อ Earnings Trend
ผลประกอบการ 4Q66 ขยายตัว 33%YoY และ 96%QoQ ดีกว่าเราและตลาดคาด 12% และ 8% โดยหลักๆ มาจากค่าใช้จ่ายภาษีที่น้อยกว่าคาด ส่วนองค์ประกอบอื่นๆที่มีสัญญาณบวก อาทิ SSSG ที่เพิ่มขึ้น 4%YoY SG&A ต่อยอดขายที่ลดลงจาก 13.2% งวด 4Q22 มาที่ 12.6% ในปีนี้เราเชื่อว่าการเติบโตจะต่อเนื่องหนุนจากการบริโภคในประเทศ ภาคการท่องเที่ยว
บริษัทฯ ได้มีการปรับโครงสร้างภายในจากการโอนธุรกิจ Lotus ซึ่งเรามีมุมมองSlightly Positive ต่อการเคลื่อนไหวนี้จากประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ คือ ความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รวมถึงเพิ่มสามารถในการแข่งขัน ซึ่งจะเป็นบวกต่อธุรกิจกิจในระยะยาว
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 32.00 บาท

KEY FACTOR
คืนนี้จะมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ 1) ยอดค้าปลีก (Consensus คาดการณ์ที่ -0.2%MoM) 2) ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Consensus คาดการณ์ที่ +0.2%MoM) ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ตลาดเชื่อมโยงไปที่มุมมองดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศและไทย ที่ปรับตัวลงตอบรับกับแรงกดดันเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด น่าจะเริ่มค่อยๆสร้างฐานและลดความผันผวนลงในระยะสั้นแม้ว่าตัวเลขอาจจะออกมาสูงกว่าคาดก็ตาม เนื่องจากล่าสุดตลาดปรับมุมมองดอกเบี้ยเข้าใกล้ Dot Plot ล่าสุดให้น้ำหนักการลดดอกเบี้ยประมาณ 3-4 ครั้ง ในปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นระดับที่ค่อนข้างนิ่งไปจนถึงการประชุม FOMC 20 มี.ค. เป็นอย่างน้อย
อย่างไรก็ดียังคงต้องระมัดระวังจากสัญญาณเชิงลบ เงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องล่าสุด แตะ 36.2 บาท/ดอลลาร์และ Underperform ที่สุดอาเซียน ในขณะที่กระแสเงินลงทุนต่างชาติขายหนักทั้งในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ -2.7 และ -5 พันล้านบาท ตามลำดับ

Eyes on
ในสัปดาห์ การรายงานงบ 4Q66
15 ก.พ. ยอดค้าปลีก, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ
16 ก.พ. PPI สหรัฐฯ

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ