Bangkok Bank (BBL TB)
คุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่ง คาด NIM ลดเร็วกว่าแบงก์ใหญ่รายอื่น

ซื้อ ลดราคาเป้าหมายเหลือ 180 บาท
เราคงคำแนะนำ ซื้อ พร้อมลดราคาเป้าหมายเหลือ 180 บาท (P/BV ปี 67 ที่ 0.6 เท่า, ROE 8.3%) จาก 200 บาท หลังปรับลดประมาณการกำไรลงเพื่อสะท้อน NIM ที่ลดลง ทั้งนี้ BBL ยังคงเป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มธนาคารเนื่องจากแนวโน้มกำไรเติบโตชัดเจน พร้อมคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง BBL มุ่งเน้นไปที่สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ขณะที่ลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้น้อยมีจำนวนจำกัด จึงมีแนวโน้มกำไรเติบโตดีอย่างชัดเจนจากคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งและสำรองหนี้สูญที่สูง ความเสี่ยงหลักคือคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าคาดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

ตั้งเป้าสินเชื่อโต 3-5% NIM ลดจากต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นในปี 67
ในการประชุมนักวิเคราะห์กับคุณชาติสิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) วานนี้ ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 3-5% YoY (3-5% สำหรับสินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อระหว่างประเทศ และรายย่อย และ 2% สำหรับ SME) ผู้บริหารประเมินว่าความต้องการสินเชื่อจะชะลอตัวเนื่องจากงบประมาณภาครัฐล่าช้าในครึ่งปีแรกปี 67 และจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลังปี 67 นอกจากนี้ ธนาคารคาดว่า NIM จะลดลง 20bps YoY เป็น 2.8% เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น และอิงตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25bps ในปีนี้ ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมมีแนวโน้มเติบโต 1-3% YoY จากการเติบโตของสินเชื่อที่ดีขึ้นและค่าธรรมเนียมจากแบงก์แอสชัวรันส์และการบริหารความมั่งคั่ง

OPEX จะยังคงสูง ในขณะที่ credit cost ลดลง YoY
BBL คาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะอยู่ที่ 47-49% ในปีนี้จาก 49% ในปีที่แล้ว โดยธนาคารได้ทุ่มงบด้านไอทีเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการบริหารจัดการเงินสดและการให้บริการทางการเงินที่เน้นไปที่ธุรกรรมการค้าระหว่างบริษัทต่าง ๆ ขณะที่จำนวนสาขาลดลง 5% YoY เหลือ 847 สาขาในปี 66 อย่างไรก็ตาม ธนาคารจำเป็นต้องคงค่าใช้จ่ายด้านไอทีที่สูงไว้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและความปลอดภัยในธุรกรรมธนาคารบนมือถือสำหรับธุรกรรมรายย่อย ในแง่คุณภาพสินทรัพย์ BBL คาดว่าจะมี credit cost ที่ 0.9-1.0% ในปี 67 (เทียบกับที่เราคาดไว้ที่ 1.15%) BBL ตั้งเป้าอัตราส่วน NPL ปีนี้ไว้ที่ 3.0% เทียบกับ 2.7% ในปีที่แล้ว ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์มีความเสี่ยงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ทั้งนี้ Credit cost อยู่ที่ 1.26% เทียบกับเป้าหมาย 1.0% ในปี 66

ลดประมาณการกำไรเพื่อสะท้อนเป้าหมายทางการเงินใหม่
เราปรับลดประมาณการกำไรลง 4-6% หลังจากปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อและอัตราผลตอบแทนสินเชื่อลงในปี 67-68 เพื่อสะท้อนถึงเป้าหมายทางการเงินใหม่ เราคาดว่า NIM ของ BBL จะลดลงเร็วกว่าธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ เนื่องจากธนาคารมีสัดส่วนสินเชื่อระหว่างประเทศสูง (25% ของสินเชื่อทั้งหมด) ซึ่งขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก ตอนนี้เราคาดว่ากำไรปี 67-68 จะเติบโต 5-7% เนื่องจากการเติบโตของ NII และ credit cost ที่ลดลง จากการวิเคราะห์ความอ่อนไหวของเราสะท้อนว่า credit cost ที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 5bps จะกระทบต่อกำไร 2.5% ในปี 67

Jesada Techahusdin, CFA
jesada.t@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1395