AT THE OPEN (#ATO)
SET Index หาฐาน
กลยุทธ์ Selective Buy หุ้นที่กำไรเติบโต

Market Strategy
คาด SET Index วันนี้แกว่งตามกรอบ 1360-1380 จุด การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือน ม.ค. 49.1 ดีกว่าคาด 47.2 ขณะที่ตัวเลข Initial Jobless Claim เพิ่ม 2.24 แสนตำแหน่งมากกว่าคาด 2.13 แสนตำแหน่ง สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่แข็งแรงกว่าคาด แรงกดดันจากเงินเฟ้อฯลดลง หนุนความเชื่อต่อการดำเนินนโยบายของ FEDด้านดอกเบี้ยมีแค่ทรง-ลง ซึ่งล่าสุดFEDWATCH Tool คาดลดดอกเบี้ยครั้งแรกเดือน พ.ค. หนุนให้ U.S. Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ ปรับลง 5 bps Dollar Index อ่อนค่า 0.5%ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับขึ้น 1-1.3% มองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นในภูมิภาค

ส่วนในประเทศประเด็นการเมืองที่ไม่เห็นสัญญาณความร้อนแรงนอกสภา ทำให้เชื่อว่าแรงกดดันจากนี้จะเบาลงและให้น้ำหนักไปที่ปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งในเชิง Valuation ปัจจุบัน SET Index ซื้อขายบน PBV 1.31 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี -2 S.D. เป็นระดับที่ถูกมาก ขณะที่นักลงทุนต่างชาติที่เริ่มพลิกกลับมาซื้อสุทธิ 2 พันล้านบาท จึงคาด Downside ในการปรับลงจำกัด กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy หุ้นเป็นรายตัว

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 3.44 จุด หรือ 0.25% แรงหนุนมาจากหุ้น AOT +3.35% ตามการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวและหุ้นในกลุ่มปิโตรฯ PTTGC +1.49% และ IVL +0.85% จากรายงาน CAIXIN PMI ภาคผลิตของจีนเดือน ม.ค. อยู่ที่ 50.8 เป็นระดับที่ขยายตัวมา 3 เดือนติดต่อกัน ส่วนกลุ่มที่กดดันมาจากกลุ่มอิเล็คฯ จาก DELTA ที่ปรับลง -0.95% ตามกลุ่ม Tech สหรัฐฯ

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ TISCO CPAXT

CPAXT Earnings Play
CPAXT คาดกำไร 4Q66 มีโอกาสเติบโตทั้ง QoQ จากผลของฤดูกาลและ YoY ตามยอดขายเติบโตจาก SSSG และการขยายสาขา อีกทั้งเชื่อว่าประสิทธิภาพการทำกำไรดีขึ้นจากประโยชน์ของต้นทุนพลังงานและดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงหลังเคลียหนี้สกุลเงินต่างประเทศที่ดอกเบี้ยสูง
ขณะที่ 1Q67 เชื่อว่าได้แรงส่งจาก Easy E-Receipt หนุน SSSG รวมถึง Upside ส่วนเพิ่มจากการจำนวนนักท่องเที่ยวที่เร่งตัวขึ้นตาม High Season
ทั้งนี้ทุกๆ 1% ของ SSSG ที่เพิ่มขึ้นจากประมาณการของเรา (ที่คาด MAKRO 3% Lotus’s 2%) เป็น Upside ต่อกำไร 1.2%
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 32.00บาท

TISCO Dividend Play
จุดเด่นของการจ่ายปันผลในช่วง 2H66E ที่คาดจ่ายที่ 6 บาทต่อหุ้นและปี 67 อยู่ที่ 8 บาท/หุ้นหรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลที่ 6.% และ 8% เป็นปัจจัยหนุนต่อราคาหุ้น
ด้านปัจจัยพื้นฐานแม้ทิศทาง NPL ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นตามอุตสาหกกรรม แต่น่าจะแบบค่อยเป็นค่อยไป และด้วย Coverage Ratio 4Q66 อยู่ระดับสูง 190% ทำให้มีความสามารถในการบริหารจัดการ Credit Cost ซึ่งจะลดความเสี่ยงด้านความผันผวนของผลประกอบการ
Catalyst ระยะสั้นคือหาก กนง. ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด (ช่วง 2H67) เป็นปัจจัยบวกต่อ NIM ถึงและราคาหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 108.00 บาท

KEY FACTOR
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่รายงานเมื่อคืนที่ผ่านมาออกมาผสมผสาน 1) ภาคแรงงานยังฟื้นช้ากว่าคาด จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.24 แสนราย สูงกว่าคาด 2.12 แสนราย 2) ISM ภาคการผลิตสหรัฐฯ 49.1 สูงกว่าคาด 47.2 3) S&P Global PMI การผลิต 50.7
ซึ่งหากพิจารณาในเชิงเปรียบเทียบพบว่า ดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจประเทศ/ภูมิภาคต่างๆทั่วโลก มีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการผลิต และเด่นสุดในสหรัฐฯ
สัญญาณในตลาดการเงินยังเป็นภาวะ Risk on อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งอายุ 2 และ 10 ปี ปรับตัวลงแรง สู่ระดับ 4.21% และ 4.87% ขยับเข้าใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดที่ทำไว้ที่ระดับ 4.14% และ 3.79% ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวจากแรงซื้อกลับในกลุ่มเทคฯ สะท้อนมุมมองตลาดที่ให้น้ำหนักเชิงบวกการค่อยๆ เข้าสู่ช่วงดอกเบี้ยขาลงช่วงกลางปี

Eyes on
ในสัปดาห์ การรายงานงบ 4Q66
2 ก.พ. การจ้างงาน Caixin PMI การผลิตนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ