AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ฟื้นตัว
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ

Market Strategy
คาด SET Index แกว่งขึ้นตามกรอบ 1370-1385 จุด ปัจจัยแวดล้อมที่มีน้ำหนักในทางบวกจากการรายงาน GDP 4Q66 ที่ขยายตัว 3.3%QoQ Annualized ชะลอลงจากไตรมาสก่อนที่ 4.9% แต่ดีกว่าตลาดคาด 2% และ Initial Jobless Claim ที่เพิ่มขึ้น 2.14 แสนตำแหน่งมากกว่าคาด 2 แสนตำแหน่ง ทำให้ตีความว่าเศรษฐกิจกำลังอยู่ในภาวะ Soft Landing หนุนตลาดหุ้นปรับขึ้นทุกดัชนีในกรอบ 0.2%- 0.6% อีกด้านหนึ่งช่วยหนุนต่อราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ปรับขึ้นแรง 3%

ด้านปัจจัยภายในรมว.ต่างประเทศจีนเตรียมเยือนไทยระหว่างวันที่ 26-29 ม.ค. ถูกคาดหมายว่าจะมีการลงนามในการเปิด Free Visa ระหว่างไทย-จีน มีผลตั้งแต่ 1 มี.ค.67 เป็นบวกต่อนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาในบ้านเราที่ปีนี้กระทรวงท่องเที่ยวตั้งเป้านักท่องเที่ยวจีนที่ 8 ล้านคน ขณะที่แนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนสัปดาห์ล่าสุด (15-21ม.ค.) เพิ่มขึ้น 15%WoW และน่าจะดีต่อจากการเข้าสู่ช่วงตรุษจีน

แต่อย่างไรก็ตามทิศทาง Fund Flow ที่ยังไหลออกยังเป็นปัจจัยที่จำกัดการปรับขึ้นของ SET Index กลยุทธ์การเลือกหุ้นเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ ส่วนประเด็นที่ติดตามวันนี้การรายงานยอดส่งออก/นำเข้าไทยเดือน ธ.ค. คาดขยายตัว 6.4%YoY/7.4%YoY

Market Summary
SET Index ปรับลง 8.24 จุด แรงกดดันจากกลุ่มขนส่ง -0.9% จาก AOT -1.7% บนความกังวลต่อการชึ้นค่าเช่าของกรมธนารักษ์ กลุ่มอิเล็คฯ -3% จาก DELTA ที่ปรับลง -3.8% กลุ่มไฟแนนซ์ -1.4% จากแรงกดดัน JMT -2.2% SGC -2.8% ส่วนกลุ่มที่ปรับขึ้นมาจากกลุ่มโรงแรมจากการฟื้นตัวของ ERW +3.66% MINT +1.72% นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2 พันล้านบาท

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ SPA MOSHI

MOSHI ตะมุตะมิน่าซื้อ
แนวโน้มกำไร 4Q66 มีโอกาสขยายตัวทั้งYoY และ QoQ สนับสนุนจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาล อาทิ คริสต์มาส ปีใหม่หนุนความต้องการสินค้า ขณะที่ GPM จะปรับเพิ่มขึ้นจากการออกสินค้าใหม่ในกลุ่ม Jewelry ที่มี GPM สูง ส่วน Catalyst ระยะสั้นตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น หนุนยอดขายจากต่างชาติที่คิดเป็นสัดส่วน 20% ยอดขายรวมเร่งตัว
ผลประกอบการปี 2567 มีแนวโน้มสดใส บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20% จากกำลังซื้อในประเทศที่ค่อยๆ ฟื้นตัว การขยายสาขา MOSHI 20 สาขา/ Garlic 4 สาขาและการเพิ่มขึ้นของสินค้าใหม่กว่า 10,000 SKUs
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 55.00 บาท

SPA กำไรขยายตัวต่อเนื่อง
ผลประกอบการ 4Q66E มีโอกาสทำระดับ All Time High ในรายไตรมาสหนุนจากการเติบโตของรายได้ และประสิทธิภาพการทำจาก Utilization ที่เพิ่มขึ้นและการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน ซึ่งที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นผ่าน %NetProfit Margin ที่เพิ่มขึ้น 3 ไตรมาสติดต่อกันในปี 2566 ขณะที่ 1Q67 เชื่อว่า Momentum ยังดีต่อตามตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว
พัฒนาการที่ดีขึ้นข้างต้นเมื่อเทียบกับ Bloomberg Consensus ที่คาดว่า4Q66E กำไรจะขยายตัวแค่ YoY (แต่หดตัว QoQ) จึงมีโอกาสที่จะเห็นรอบของ Upgrade Earnings หนุนราคา
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 13.20 บาท

KEY FACTOR
GDP 4Q66 ของสหรัฐฯ ขยายตัว +3.3% QoQ (Consensus คาด +2.0%) ส่งผลให้ทั้งปี 2566 ขยายตัว +2.5% ได้แรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัว +2.8% (Consensus คาด +2.5%) ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งตอกย้ำมุมมองตลาดที่ค่อยๆ ปรับมุมมอง ล่าสุดให้น้ำหนักประมาณ 55% ที่ Fed จะคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค.

ECB คงอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน เป็นไปตามที่ตลาดคาด (ดอกเบี้ยเงินฝาก 4.00% ดอกเบี้ยเงินกู้ 4.75% และดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ 4.50%) ในขณะเดียวกันประธาน ECB ส่งสัญญาณแนวโน้มเศรษฐกิจยังน่าจะทรงตัว ไม่เห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนในช่วง 4Q66 แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ส่งสัญญาณในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งส่งผลให้ค่าเงิน EURUSD ปรับตัวลงสู่ระดับ 1.085 ทำจุดต่ำสุดตั้งแต่ช่วงกลาง ธ.ค. 2566 ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ของประเทศ Eurozone ปรับตัวลงในช่วง -6 ถึง -8 bps

Eyes on
ในสัปดาห์ การรายงานงบ 4Q66
26 ม.ค. ส่งออกไทย เดือน ธ.ค.

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ