วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่่าสุดถึง -13 จุด แรงขายหลักมาจากหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคาร KTBKBANK ที่รายงานงบออกมาต่่ากว่าที่ตลาดคาด และกลุ่มค้าปลีก ประกอบนักลงทุนให้น้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี ยในเดือนพ.ค. จากเดิมคาดเดือนมี.ค. หลังจากที่สหรัฐฯเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นเกินคาด ท่าให้ตลาดกังวลภาวะดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง เป็นเวลานาน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,369.92 จุด -12.59 จุด -0.91% มูลค่าการซื้อขาย 51,506 ลบ. ProgramTrading -670.18 ลบ. ต่างชาติ -4,000.90 ลบ. TFEX -15,626 สัญญา ตราสารหนี้ -896.77 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 138.01 จุด หรือ +0.36% โดยดาวโจนส์และ S&P500 ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ สำคัญของสหรัฐ รวมทั้งรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.78 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่75.19 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่ากองทัพยูเครนส่งโดรน โจมตีโรงงานน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานพลังงานในตลาดโลก
+ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของจีนรายงานค้นพบแร่ลิเทียมในอ่าเภอหย่าเจียง มณฑลเสฉวนทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ โดยมีปริมาณเกือบ 1 ล้านตัน และเป็นแหล่งแร่ลิเทียมมอนอเมอร์ ประเภทเพกมาไทต์ ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย
+ จีนเปิดเผยว่ายอดการนำเข้าเครื่องจักรผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์พุ่ง ทะยานขึ้นในปี 2566 หลังบริษัทต่าง ๆ สั่งเพิ่มการลงทุนเพื่อรับมือจากกรณีที่สหรัฐฯ พยายามขัดขวางอุตสาหกรรมชิปเซมิคอนดักเตอร์ของจีน โดยในปี 2566 จีนน่าเข้าเครื่องจักรที่ใช้ท่าชิปคอมพิวเตอร์ เพิ่มขึ้น 14% เป็นเกือบ 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
+ นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้มาตรการ ที่เข้มงวดมากขึ้นในการสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดหุ้นของจีนและ
เรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุน หลังจากที่ดัชนี CSI 300 ร่วงแตะระดับต่่าสุดในรอบห้าปี
+ ตลท. เตรียมดึงงานกำกับรายงานตรงต่อบอร์ดตลาด รับทราบนโยบายและแนวทางเพื่อให้เกิดความชัดเจนไร้ข้อกังขา หลังยกเครื่องฝ่ายกำกับดูแลบจ. และการซื้อขายทั้งกระบวนการ

ปัจจัยลบ
- ราคาบิตคอยน์ร่วงลงหลุดจากระดับ 40,000 ดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในปีนี้ที่ราคาบิตคอยน์ดิ่งลงหลุดจากระดับดังกล่าว และได้ฉุดราคาคริปโทเคอร์เรนซีประเภทอื่น ๆ ร่วงลงด้วย
- Conference Board เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ LeadingEconomic Index (LEI) ลดลง 0.1% ในเดือนธ.ค. หลังจากลดลง0.5% ในเดือนพ.ย.

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ มีโอกาสอ่อนตัวลงต่อจาก Fund Flow ที่ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีราว 2.1หมื่นลบ.และนักลงทุนคาดว่าเฟดจะเลื่อนเวลาปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก มี.ค. เป็น พ.ค. นอกจากนี้ ความกังวลเรื่องการล้มละลายของบริษัทได้เพิ่มขึ้นหลังธนาคารมีการตั้งส่ารองสูงกว่าที่ตลาดคาด มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,360-1,380 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
• Easy E-Receipt : BJC CPALL CPAXT COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNPKK
• หุ้นที่มี ESG สูง และอยู่ใน SET50 : ADVANC CPALL CPF CRC OR PTTEP TOP
• หุ้นเด่น IAA : AOT CPALL CPN GPSC
• ครม.เคาะกรอบงบประมาณปี 68 วงเงิน 3.6 ล้านลบ. : CK STEC CIVIL UNIQ
• หุ้นที่คาดว่างบจะออกมาดี : SPA AUCT PLANB PRM