Today’s dominant ideas
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหวอ่อนตัว แนวรับ 1,370/1,366 จุด แนวต้าน 1,392/1,398 จุด อิงรูปแบบทางเทคนิค ที่ดัชนีฯ ยังคงเคลื่อนไหว ตามรูปแบบชาลง Rounding Top หรือ U คว่ำ ที่มีแนวรับหลักที่ 1,370 จุด และเครื่องชี้สัญญาณทางเทคนิคสำคัญ อาทิ RSI เพิ่งเริ่มเข้าเขต Oversold Area ทำให้โอกาสที่ดัชนีฯ ลงไปทดสอบแนวรับหลักมีความเป็นไปได้สูง

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้
 -US: จับตาสัญญาณแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ จากสุนทรพจน์ FED สาขาแอตแลนต้า Raphael Bostic (Voter) โดยคาดว่าจะมีสัญญาณไม่เร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ คล้ายกับคณะกรรมการท่านอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อข่าวดี โอกาสที่เฟดปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในเดือน มี.ค. มีความเสี่ยงมากขึ้น
 +/-World Economic Forum เมืองดาวอส: นายกเศรษฐาฯ เดินทางร่วมประชุมวันที่ 15-19 ม.ค. และเตรียมหารือ 8 บริษัทชั้นนำของโลก เพื่อหนุนการค้าและการลงทุน ส่วนวันนี้จับตาสุนทรพจน์ของประธานอีซีบี ลาการ์ด คาดส่งสัญญาณเตือนภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงชะลอตัว

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ มีจำนวนมาก
 -US: รายงานยอดขายบ้าน Housing Starts เดือน ธ.ค. มีแนวโน้มชะลอตัวหลังจากพุ่งขึ้นแรงสูงสุดรอบ 6 เดือนในเดือนก่อนหน้า โดย Consensus คาดว่าจะรายงานยอดขายลดลง -8.3% MoM เป็น 1.426 ล้านหลัง (Vs เดือน พ.ย. +14.8% เป็น 1.56 ล้านหลัง) และ Building Permits เดือน ธ.ค. Consensus คาดดีขึ้นเล็กน้อยเป็น +0.9% MoM เป็น 1.48 ล้าน (Vs เดือน พ.ย. -2.1% MoM เป็น 1.467 ล้าน) ส่วนตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น +207k (Vs สัปดาห์ก่อน +202k)
 +/-US: ผลประกอบการบจ. สหรัฐฯ จับตารายงานผลกำไรของ Truist Financial Corp, M & T Bank Corp, Norhtern Trust, Hunt (JB) Transport Service ฯลฯ โดยคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นรายตัว หากกำไรออกมาดีหรือแย่กว่าคาดการณ์
 +EU: รายงานดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน พ.ย. คาดปรับเพิ่มขึ้นมาก โดย Consensus คาดว่าเพิ่มขึ้นเป็น 39 พันล้านยูโร (Vs เดือน ต.ค. 30.5 พันล้านยูโร) ช่วยหนุนทิศทางค่าเงินอียู แข็งค่าระยะส้นเทียบ USD

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นบลูชิพที่มีประเด็นบวก ได้แก่ GFPT KBANK WHA

Strategic daily picks
GFPT ปิด 11.20 บาท/แนวรับ 10.70 บาท แนวต้าน 11.90 บาท
คาดผลการดำเนินงาน 4Q23 มีแนวโน้มเติบโตทั้งยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น เมื่อเทียบ QoQ หนุนจากปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ปรุงสุกแปรรูปไปยังอังกฤษ, ญี่ปุ่น และการส่งออกชิ้นส่วนไก่ไปยังจีนที่สามารถเร่งตัวได้ดีกว่าช่วงปี 2019 เล็กน้อย รวมถึงราคาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศปรับตัวสูงขึ้น KTX คงคำแนะนำ “Neutral” มูลค่าเหมาะสม 12.03 บาท อิงวิธี Earning yield และอัตราผลตอบแทนคาดหวัง 9.5%
KBANK ปิด 131.00 บาท/แนวรับ 128.50 บาท แนวต้าน 136.00 บาท
KBANK เดินหน้าผลักดันลูกค้าให้ร่วม GO GREEN Together อย่างต่อเนื่อง เพื่อสู่เป้าหมาย Net Zero ขณะเดียวกันยังไม่มีการขายหุ้น KAsset (บลจ.กสิกรไทย) ให้กับผู้สนใจรายใด ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวพาร์ตเนอร์ใหม่ในช่วงเดือน ม.ค. 2024 นอกจากนี้ ธนาคารมีเป้าหมายสนับสนุนสินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืนราว 1-2 แสนล้านบาท ภายในปี 2030 Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 4.21 หมื่นล้านบาท (+17.57% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 154.89 บาท
WHA ปิด 4.56 บาท/แนวรับ 4.38 บาท แนวต้าน 4.82 บาท
คาดผลการดำเนินงานปี 2023 มีรายได้ทำ New high จากการขยายตัวของธุรกิจทั้ง 4 กลุ่ม ขณะที่ปี 2024 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง (เตรียมเปิดเผยแผนดำเนินงาน 31 ม.ค.) ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนา 4 โครงการ (เป็นส่วนต่อขยายจากนิคมอุตสาหกรรมเดิมและใหม่) ซึ่งภายใน 2-3 ปีข้างหน้า บริษัทจะมีทั้งหมด 18 โครงการที่อยู่ในการดำเนินงานของบริษัท ขณะที่ในพื้นที่เวียดนามอัตราการขายมากกว่า 80% ของพื้นที่ทั้งหมด Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 4.27 พันล้านบาท (+5.44% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 5.82 บาท

• ตลาดหุ้นไทย ปิดลบเป็นวันที่สาม และดิ่งลงแรงหลุดระดับ 1,400 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็น 5.67 หมื่นล้านบาท จากแรงขายเพิ่มขึ้นของนักลงทุนต่างชาติ โดยเป็นการปรับลงตามตลาดหุ้นภูมิภาค หลัง4Q23 GDP ของจีน ขยายตัว 5.2% ต่ำกว่าคาดที่ 5.3% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี กลับมายืนเหนือ 4% อีกครั้ง รับโอกาสลดดอกเบี้ยเดือน มี.ค. ของเฟด มีความเป็นไปได้น้อยลง
• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ โดยหุ้นทั้ง 11 กลุ่มอุตสาหกรรมที่คำนวณดัชนี S&P500 ปรับลดลง นำโดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ -1.87% กลุ่มสาธารณูปโภค -1.5% หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค. แข็งแกร่งเกินคาด +0.6% MoM (Vs คาด +0.4% MoM และเดือน พ.ย. +0.3% MoM) ทำให้นักลงทุนกังวลว่า Fed ยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. ตามที่ตลาดคาดการณ์
• ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ โดยถูกกดดันจากความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ทำลายความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และได้รับผลกระทบจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอกว่าคาดด้วย
• ราคาน้ำมัน ปิดผสมผสาน ปัจจัยบวก คือ การผลิตน้ำมันในรัฐ South Dakota ต้องลดการผลิต 6.5-7.0 แสนบาร์เรล/วัน เนื่องจากเผชิญอากาศหนาวต่ำกว่า 0 องศา อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวก หลังจีนเผย GDP ต่ำกว่าคาด ทำให้นักลงทุนวิตกแนวโน้มอุปสงค์พลังงานในจีน
• ราคาทองคำ ปิดร่วงแรงต่อเนื่อง กดดันจากความกังวลว่าเฟด อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานาน หลังสหรัฐฯ เผยยอดค้าปลีกแข็งแกร่งเกินคาด