AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่งออกข้าง
เลือกหุ้นที่ปัจจัยบวกเฉพาะตัว
Market Strategy
คาด SET Index แกว่งพักตัวในกรอบ 1400-1420 จุด การรายงานเฟ้อสหรัฐฯเดือน ธ.ค. วานนี้ขยายตัว 3.4%YoY มากกว่าตลาดคาด 3.2%YoY แต่อย่างไรก็ตามเงินเฟ้อพื้นฐานที่ขยายตัว 3.9%YoY ใกล้เคียงกับตลาดคาด 3.8%YoY และชะลอจากเดือนก่อนที่ 4%YoY สะท้อนทิศทางเงินเฟ้อที่อยู่ในช่วงปรับลง ทำให้มุมมองการปรับลดดอกเบี้ยฯ ของตลาดผ่าน FEDWATCH Tool ยังคงเดิมคือปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน มี.ค. 0.25%มาที่ 5.25% และทั้งปีปรับลง 6 ครั้งมาที่ 4% เทียบกับ FED ที่คาดดอกเบี้ยฯ สิ้นปี 4.75% การตอบสนองของตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้แกว่งทรงตัว แต่อย่างไรก็ตามประเมินโอกาสที่มุมมองดอกเบี้ยฯของตลาดจะปรับเข้าสู่ FED ยังคงมีอยู่อาจทำให้ตลาดหุ้นยังผันผวนไปตามการรายงานดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจในระยะถัดไป
ด้านราคาน้ำมันดิบวานนี้ปรับขึ้นแรง 1.89% จากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ยังสูงขึ้นจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานในวันนี้
วันนี้ติดตามการรายงานยอดส่งออก/นำเข้าจีน เดือน ธ.ค. คาดขยายตัว 1.7%YoY และ 0.3%YoY ฟื้นตัวขึ้นจากเดือนก่อน หากออกมาตามคาด น่าจะเป็นปัจจัยช่วยหนุนต่อภาคส่งออกบ้านเรา กลยุทธ์การลงทุนเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ
Market Summary
SET Index ปรับลง -0.37% หลังจากขาดปัจจัยขับเคลื่อน กลุ่มที่ปรับขึ้นสวนทางตลาดคือกลุ่มโรงไฟฟ้าจากการปรับขึ้นค่าไฟหนุน GPSC +1% BGRIM +1.9% กลุ่ม Defensive อย่างโรงพยาบาลบวกเล็กน้อย +0.1% ส่วนกลุ่มที่ปรับลง Underperform ส่วนใหญ่จะกังวลต่อการรายงานงบ 4Q66 ที่ฟื้นช้ากว่าคาดอย่างกลุ่ม Packaging จาก SCGP -2.9% กลุ่มค้าปลีก COM7 -5.7% และ JMART -5%
ATO Daily Stock Picks
แนะนำ PTTEP PR9
PR9 กำไรอาจมาดีแบบไม่มี Seasonal
ทิศทางรายได้ 4Q66E มีแนวโน้มขยายตัวจาก 3Q66 หนุนจากผู้ป่วยไทยที่มารักษาโรคไข้หวัดรวมถึง COVID-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ผู้ป่วยต่างชาติเติบโตได้ดีรวมกับรักษาโรคซับซ้อนมากขึ้นจะเป็นบวกต่อประสิทธิภาพการทำกำไร
การเติบโตในปี 2567 ยังมีต่อเนื่องจากการขยายฐานลูกค้าไปตะวันออกกลางและบริหารพื้นที่ภายในเพื่อรองรับผู้ป่วยได้มากขึ้น โดยอิง Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 67E ขยายตัว 13%YoY เด่นกว่า BH, BDMS ที่ตลาดคาดขยายตัวเฉลี่ย 7%YoY
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 18.00 บาท
PTTEP ไปตามน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นแรง 1.89% บนจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ขยายวงไปอ่าวโอมานจากประเด็นอิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันดิบจากอิรักไปตุรกี เป็น Sentiment หนุนต่อราคาหุ้น PTTEP ในวันนี้
ในมุมปัจจัยพื้นฐานคาดว่า PTTEP จะมีการผลิตที่เติบโตแข็งแกร่งที่ 11.5% CAGR ในปี 66-67 ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของการผลิตน้ำมันและก๊าซทั่วโลก โดยมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตจากสัญญาที่ต่ออายุในอ่าวไทย โดยเฉพาะแหล่งก๊าซเอราวัณ
ราคาหุ้นเทรดอยู่ที่ PER ปี 67E ที่ 7.8 เท่า (เทียบกับค่าเฉลี่ย 11 เท่า) โดยอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 6.6% เป็นตัวช่วยจำกัด Downside
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 194.00 บาท
KEY FACTOR
รายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. ขยายตัว +3.4% YoY และ +0.3% MoM (Consensus คาดที่ +3.2% YoY และ +0.2% MoM) ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) 3.9% YoY และ +0.3% MoM (Consensus คาดที่ +3.8% YoY และ +0.3% MoM)ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลดลงอย่างมีนัยสำคัญต่อเนื่อง (น้ำมันเตา -14.7% YoY, ก๊าซ -13.8% YoY) แต่ภาคบริการยังเร่งตัวขึ้นต่อ (ค่าที่อยู่อาศัย +6.2% YoY, ค่าขนส่ง +9.7% YoY)
ตัวเลขที่ออกมาแม้สูงกว่าคาดเล็กน้อย แต่ไม่มีผลเปลี่ยนมุมมองตลาด (Fed Watch Tool) ที่ยังคงให้น้ำหนัก Fed ลดดอกเบี้ย 6 ครั้งในปีนี้เช่นเดิม โดยคาดว่าจะเริ่มต้นในเดือน มี.ค. ด้วยความน่าจะเป็น 60-65% ดังนั้น ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นก็น่าจะจำกัดเช่นเดียวกัน โดยในวันนี้ตัวแปรสำคัญน่าจะกลับมาเป็นตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของจีน เดือน ธ.ค. โดย Consensus คาด นำเข้า -0.5% YoY และส่งออก +1.5% YoY
Eyes on
12 ม.ค. ดัชนี PPI สหรัฐฯ, เงินเฟ้อจีน, ส่งออกและนำเข้าของจีน
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ