Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KCS Daily Strategy

312

 

"Rate Cut Cycle Plays"

 

KCS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ "ฟื้นตัว" ต้าน 1421/1428 จุด รับ 1409/1406 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัว หุ้นกลุ่ม Tech เด่นจากสัญญาณ Demand เร่งตัวหลัง TSMC บริษัทผลิตชิปไต้หวันเปิดเผยรายได้ 4Q23ดีกว่าคาด ส่วนปริมาณน้ำมันดิบในคลังสูงกว่าคาด บ่งชี้ความต้องการแผ่วลง น่าจะหนุนมุมมองเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯที่จะรายงานวันนี้มีและระยะถัดไปชะลอลงต่อเนื่อง เงินเฟ้อพื้นฐาน ตลาดคาด +0.2%m-m (Top Rank Economist คาด 0.1%m-m) vs prev. +0.3%m-m จะสร้างโอกาสดอกเบี้ยสหรัฐฯปี 2024 ลดลงราว 4-5 ครั้ง ลดรวมกัน >= 100 bps ส่วนภายในที่ต่างชาติซื้อพันธบัตร 1.4 หมื่นล้านบาท สูงสุดใน 4 เดือน บ่งชี้วงจรดอกเบี้ยภายในมี Downside Risk จะเป็น Upside ต่อตลาดระยะกลาง ผสาน กระแสบวกในรายกลุ่ม อาทิ โรงไฟฟ้า อสังหาฯ เกษตรฯ ชิ้นส่วนฯ มอง SET ฟื้นตัว กลุ่มนำ คือ กลุ่มได้ประโยชน์วงจรดอกเบี้ยขาลง และกลุ่มที่มีกระแสบวกเฉพาะตัวดังกล่าว วันนี้แนะนำ GPSC, MTC, AP

 

Daily outlook : "ฟื้นตัว" ต้าน 1421/1428 จุด รับ 1409/1406 จุด

What happened around the world ?

• (*/+) US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัว Dow jones +0.45%, S&P500 +0.57%, Nasdaq +0.75% โดย Sector ในดัชนี S&P500 กลุ่มที่นำตลาดคือกลุ่ม ICT, IT,Consumer Discretionary ฯลฯ โดย NVIDIA ยังทำ All Time High หลังจาก TSMC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปรายใหญ่เปิดเผยรายได้ที่ดีกว่าคาดใน 4Q23 กลุ่มที่ Underperform อาทิ Energy, Materials, Consumer staples

•(*) Fed Speaks : John Williams ประธาน Fed สาขา NewYorks (Voter) ออกมาให้สัมภาษณ์ในโทน Hawkish (สวนทางกับประธาน Fed ท่านอื่นๆที่ออกมาพูดในช่วงต้นสัปดาห์) โดยใจความสำคัญคือ "ยังเร็วเกินไปที่จะเรียกร้องให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากระดับเงินเฟ้อปัจจุบันยังห่างจากเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ Fed ตั้งไว้ที่ 2%+-

•(*/+) US GDP : Fed สาขา Atlanta เผยแบบจำลองGDP Now สหรัฐงวด 4Q23F +2.2%q-q (vs รอบต้นสัปดาห์คาด 2.2%) ชะลอจาก 3Q23 ที่ +4.9%q-q

•(*) MSCI: เราทำการประเมินหุ้นเข้า/ออก MSCI ACWI Index rebalance รอบถัดไป ซึ่งจะใช้ราคาปิดในช่วงปลายเดือนม.ค. ประกาศผลวันที่ 12 ก.พ. และมีผลวันที่ 1 มี.ค. พบว่ามีหุ้นเสี่ยงหลุด 3 ตัว ได้แก่ BANPU, OSP และ BJC (เรียงตามลำดับโอกาสหลุด)เราแนะนำระมัดระวังหุ้น 3 บริษัทดังกล่าว

• (*) To monitors : ฝั่งสหรัฐ วันนี้ (11 ม.ค.) ติดตามเงินเฟ้อ CPI ธ.ค. เงินเฟ้อทั่วไป ตลาดคาด +3.3%y-y vs prev. +3.1%y-y เงินเฟ้อพื้นฐาน ตลาดคาด +0.2%m-m (Top Rank Economist คาด 0.1%m-m) vs prev. +0.3%m-m ฝั่งจีน 12 ม.ค. เงินเฟ้อ CPI จีน ธ.ค. คาด -0.3%y-y vs prev. -0.5%y-y และยอดส่งออก คาดเร่งขึ้น +1.5%y-y prev. +0.5% นำเข้า ทรง y-y prev. -0.6%

• (*) US Bond & Dollar : แนวโน้มระยะสั้น Bond yields อายุ 10 ปีสหรัฐ ปรับขึ้นเล็กน้อยต่อ +2 bps อยู่ที่ 4.04% ขณะที่ 2 ปีปรับขึ้นเล็กน้อย 1 bps อยู่ที่ 4.37% ขณะที่ Dollar Index แกว่งตัวแข็งค่าบริเวณ 102.1 +/- จุด

• (*/+) Crypto Currency : ราคาบิทคอย +1.14%d-d ปิดที่ 45,945.6 USD ทิศทางเป็นขาขึ้น โดยมีแรงหนุนล่าสุดคือ SEC สหรัฐประกาศอนุมัติการจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอนุมัติทุกบริษัทที่ยื่นขอเข้ามา มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นที่เชื่อมโยง Cryptocurrency ในวันนี้ อาทิ BROOK, JTS, ZIGA

• (*/-) Oil : น้ำมันดิบ Brent -1.01%d-d ปิดที่ US$ 76.81/barrel, น้ำมันดิบ West Texas -1.20%d-d ปิดที่ US$ 71.37/barrel แรงกดดันหลักคือ EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ + 1.3 ล้านบาร์เรลในสวนทางตลาดคาด -6.75 แสนบาร์เรล สะท้อน Demand การบริโภคน้ำมันอ่อนแอ ระยะสั้นราคาน้ำมันที่ลงเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่ม Anticommodity อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ BGRIM, GPSC กลุ่มวัสดุก่อสร้าง TASCO กลุ่มสายการบิน ได้ประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันลง อาทิ AAV, BA กลุ่มเครื่องดื่ม ICHI

 

What happened in Thailand ?

• (*) SET: SET Index แกว่งตัวก่อนปิดลบเล็กน้อย -0.1% กลุ่มหนุน คือ กลุ่มพลังงาน (GULF, GPSC, BGRIM) รับข่าวบวก กกพ. มีมติค่าไฟ ม.ค. - เม.ย. 24 ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย กลุ่มการแพทย์ (BH, BDMS) ตลาดมองเป็นกลุ่มปลอดภัย หลังความผันผวนตลาดเพิ่มระยะหลัง กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB) ตลาดให้น้ำหนักนายกฯหารือ BOT เรื่องความเหมาะสมดอกเบี้ยนโยบาย กลุ่มสื่อสาร (JTS) ปรับลงตามจิตวิทยาลบราคา Bitcoin ปรับลง -3.58% ปิดที่ 45427.01 USD

• (*) Flow : เงินทุนต่างชาติไหลเข้า ขายหุ้น -30.3 ล้านเหรียญฯ, ซื้อพันธบัตร 410.5 ล้านเหรียญฯ TFEX Net Short ที่ -20,651 สัญญา เงินบาททรงตัว 35 +/- บาท

• (+) TH Bond:: วานนี้ต่างชาติเร่งซื้อพันธบัตรไทยมากถึง 1.43 หมื่นล้านบาท สูงสุดในรอบ 4 เดือนตั้งแต่ 12 ต.ค. 23 ถ่วง TH Bond Yield อายุ 10ปี ปรับตัวลง -3 bps สู่ 2.7% สะท้อนมุมมองบวกต่อตราสารหนี้ไทย และมุมมองโอกาสลดดอกเบี้ยนโยบาย มองเป็นภาพการซื้อระยะถัดไปจะยังต่อเนื่อง โดยรวมนำมาสู่ภาพการ Search for Yield ระยะถัดไป บวกต่อ SET เพราะ Bond Yield ที่จะลดระดับลง จะนำมาสู่ส่วนต่างผลตอบแทนลงทุนในหุ้น (Equity Risk Premium) ที่เพิ่มสูงขึ้น และหนุนหุ้นได้ประโยชน์จาก Cycle ดังกล่าว อาทิ หุ้นเช่าซื้อ เน้น MTC, JMT หนี้สูง เน้น MINT, CPALL, CPAXT Growth เน้น BE8

• (+) Utilities: วันนี้ (10 ม.ค.) กกพ. มีมติค่าไฟฟ้างวด ม.ค. - เม.ย. 24 กำหนดอัตราค่าไฟสำหรับประชาชนทั่วไปที่ 4.18 บาทต่อหน่วย จากมติครั้งแรกที่ 4.68 บาท โดยปรับปรุงสูตรการคำนวณผ่านกลไกหลักๆ คือ ให้ กฟผ. รับภาระเงินคงค้างสะสมเพิ่ม, ปรับปรุงราคา SPOT LNG, ปรับปรุงโครงสร้างราคา Pool Gas ใหม่ โดยถัวเฉลี่ยส่วนต้นทุนถูกเข้ามาเพิ่ม และให้ PTT ส่งผ่านค่า Shortfall 4.3 พันล้านบาท ประเมินบวกต่อหุ้นโรงไฟฟ้า เพราะเดิมตลาดมองค่าไฟฟ้ารอบนี้บริเวณ 4.1 +/- บาท และการปรับขึ้นค่าไฟสะท้อนภาพความเสี่ยงกฎระเบียบผ่านจุดต่ำสุด นอกจากนี้ ระยะถัดไปยังมีภาพบวกต้นทุนที่ดีขึ้น จากการปรับโครงสร้าง Pool Gas และราคาก๊าซมีแนวโน้มลดลง มองกลุ่มที่มีลูกค้าอุตสาหกรรมสูงได้ประโยชน์มาก อาทิ GPSC BGRIM เน้น GPSC(TP-65)

• (+) Property: นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยเข้าพบ นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ทำเนียบรัฐบาลเพื่อหารือแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตราการอสังหาริมทรัพย์ KCS ประเมินเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มมีปัจจัยหนุนจากคาด dividend yield ที่สูงในช่วงตลาดผันผวนเน้น AP(TP-15.5), SIRI(TP-2.2), SC(TP-4.5)

• (*) PM x BOT: นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวภายหลังหารือกับนายเศรษฐพุฒิ ฯ ผู้ว่าการ BOT ว่า ได้มีการพูดคุย 1) เรื่องอัตราดอกเบี้ย แต่ไม่ได้มีอำนาจเข้าไปก้าวก่าย เพราะ BOT เป็นองค์กรอิสระ ซึ่งการพูดคุยวันนี้ เป็นการพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล ทั้งนี้ ในส่วนของ BOT จะมีการพูดคุยถึงทิศทางดอกเบี้ยเพิ่มเติมในงาน "BOT Policy Breifing" 15 ม.ค. นี้ 2) เรื่อง Digital Wallet แม้หารือแล้วเห็นตรงกันในรายละเอียดเกี่ยวกับการขับเคลื่อนโครงหาร แต่จุดที่ต้องพิจารณาต่อจากความเห็นกฤษฎีกาจะขอให้นำไปพูดคุยกันอีกครั้งในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบาย Digital Wallet ชุดใหญ่อีกครั้ง

• (*/+) Food: กลุ่มส่งออกอาหารมีแรงสนับสนุนบวก 1.)แนวโน้มค่าเงินบาทระยะสั้นมีทิศทางอ่อนค่าต่อ ล่าสุดยืนเหนือ 35.0+- อ่อนค่ามากสุดในรอบ 1 เดือน 2.)ทิศทางราคาสุกรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเดือน ม.ค.-ก.พ.เพราะการซื้อขายคล่องตัวในช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ทั้งปีใหม่ ตรุษจีน วาเลนไทน์ นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย และมาตรการกระตุ้น Easy E-Receipt ล่าสุด ผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศจะขอปรับฐานราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ในขั้นแรกที่ 68-74 บาทต่อกิโลกรัม (จากราคาเป้าหมายตามต้นทุนการผลิต ที่ 80 บาท/กิโลกรัม) ผสานทิศทางต้นทุนมีแนวโน้มปรับลง ล่าสุด ราคาถั่วหลือง ปรับลง -4.74%นับตั้งแต่ต้นปี (ytd) ล่าสุดอยู่ที่ 1236.5 เหรียญ และ ราคาข้าวโพด -3%ytd อยู่ที่ 459.5 เหรียญ โดยรวมมองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออกสุกร และไก่ อาทิ CPF, TFG,BTG, GFPT แนะนำเน้นไปที่ CPF (TP 20.0) ได้ผลดีจากราคาไก่-สุกรไทยฟื้นตัว

 

Daily Strategy : GPSC, MTC, AP

ระยะสั้น วันนี้มองภาพตลาด "ฟื้นตัว" มอง SET วันนี้ฟื้นตัว หนุนจากจิตวิทยาบวกต่างประเทศที่ฟื้นตัว ขณะที่วันนี้ภาพเงินเฟ้อ CPI ฟื้นฐานสหรัฐฯที่จะรายงานเชื่อว่ามีโอกาสอ่อนตัวลงตามตลาดประเมิน จากสัญญาณความต้องการใช้น้ำมันที่แผ่ว ส่วนภายในภาพบวกภาวะ Search for Yield กำลังจะเข้ามาหนุน SET หลังต่างชาติเร่งซื้อพันธบิตร มองหุ้นนำ 1) กลุ่มที่ได้ประโยชน์วงจรดอกเบี้ยขาลง (เช่าซื้อ Growth หนี้สูง) 2) กลุ่มที่มีประเด็นบวกเฉพาะ อาทิ โรงไฟฟ้า (ปรับเพิ่มค่าไฟรอบ ม.ค. - เม.ย. 23) อสังหาฯ (ลุ้นรัฐฯออกมาตรการกระตุ้น) 3) กลุ่มเกษตรฯ (ปรับเพิ่มราคาหมู)

 

หุ้นได้รับประโยชน์มาตรการฟรี วีซ่าจีน รัสเซีย ไต้หวัน อินเดีย (CPALL, CPAXT, ERW, ADVANC, ERW, CRC)
หุ้นกลุ่มเก็งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ Digital Wallet+E-Refund, เร่ง FDI และ สร้าง S Curve จาก Soft Power (CPALL, CPAXT, HMPRO, DOHOME, GLOBAL, ADVANC, WHA, AMATA, MAJOR)
หุ้น China Plays ที่เริ่มเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแรงขึ้นและเริ่มเห็นการฟื้นตัวภายใน (PTTGC, IVL, SCGP, DOHOME, GLOBAL, AOT, ERW)
หุ้นได้ประโยชน์ภาคผลิตโลกเริ่มฟื้น และพอประคองได้ (KCE, IVL, SCGP, PTTGC, SJWD, MENA, WICE)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, GPSC ,SAWAD, JMT, CPALL, TRUE, MINT, ERW, CK, BGRIM)
กลุ่มที่ได้ประโยชน์น้ำมันแกว่ง 75-80 เหรียญฯ ภายใต้ภาพความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มโตแผ่ว จีนค่อยๆฟื้นตัว ขณะที่การคุมซัพพลายต่อเนื่อง (CPALL, CPAXT, SCGP, GULF, IVL)
• JAN24 Best Picks: CPALL, HMPRO, GPSC, IVL, MINT, MTC, SIRI

• 1Q24/2024 Stock Picks : GPSC, MTC, IVL, PTTGC, CPALL, AOT, AMATA, SCGP, SCC, MINT Mid-Small Cap Play : SJWD, DOHOME, BE8, SPA, PLANB

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไต่เส้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองดูหุ้นไทยไต่เส้น แถว 1370 +/- แบบพยาบามฝ่าด่าน 1380 จุด โดยเช้านี้ พี่ DELTA..

ต่างชาติ ลุยซื้อหุ้นไทย By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็นนักลงทุนต่างชาติ กลับมาซื้อหุ้นไทย วานนี้ จัดไป เกือบ 3,600 ล้านบาท ส่วนในประเทศ พร้อมใจขายอย่าง...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้