ภาวะตลาดที่ผ่านมา : วันปิดสิ้นปี SET Index ปิด +5.42 จุด ที่ 1,415.85 มูลค่าซื้อขาย 47.793 หมื่นลบ. แรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร BBL KBANK SCB หนุน ในขณะที่ DELTA ปรับตัวลง -3.25 บาท กดดัน SET ที่ -3.28 จุด นลท.ต่างชาติซื้อสุทธิ +3,972 ลบ. ในขณะที่สถาบันซื้อสุทธิ +52 ล้านบาท

ปัจจัยต่างประเทศ
- จิตวิทยาตลาดหุ้นสหรัฐทรงตัว บวก/ลบเล็กน้อยช่วงปิดสิ้นปี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง จากสัญญาณการลดดอกเบี้ยที่มีมากขึ้นจากทั้ง DotPlot และ PCE ที่ลดลง แต่ตลาดหุ้นสหรัฐรับรู้ข่าวบวกไประดับหนึ่งเช่นกัน ในขณะที่ตลาดเอเชียยังปรับตัวขึ้นน้อยกว่าส่วนหนึ่งเนื่องจากสหรัฐมีหุ้นเทคฯที่เป็นโครงสร้างของเศรษฐกิจโลก แนวโน้มการลดดอกเบี้ยปีนี้ส่งผลให้เงินสกุลเอเชียแข็งค่า เงินทุนไหลเข้าตลาดเอเชีย/ตลาดเกิดใหม่ได้

- Earning Yield Gap ดีขึ้นมากหลังผลตอบแทนพันธบัตรลงเร็ว…เงินทุนไหลเข้าหุ้นได้ ที่ผ่านมา PCE สหรัฐออกมาต่ำกว่าคาดมากออกมาที่ 2.6% จากที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.8% และเริ่มเข้าใกล้เป้าหมายเฟดที่ 2% เข้าไปทุกที ความจำเป็นในการคงดอกเบี้ยสูงมีน้อยลง โอกาสลดดอกเบี้ยมีมากขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลงเร็ว ในขณะที่ปีหน้าการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นดีขึ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง DotPlot ที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 75bps ทำให้มีโอกาสเห็นเม็ดเงินจะไหลเข้าตลาดหุ้นแทนตลาดพันธบัตร ต่างจากช่วงก่อนหน้านี้ที่เม็ดเงินเข้าล๊อคยิวด์พันธบัตรที่สูงและพีค

- ตลาดคาดเฟดลดดอกเบี้ย มี.ค. เบื้องต้นตลาด CME ประเมินว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือน มีค. มีความเป็นไปได้ถึง 73.5% ถือว่าเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นภาระของบริษัทจดทะเบียนในการจ่ายดอกเบี้ยลดลง ติดตามตัวเลข Non-Farm ในคืนวันศุกร์นี้ หากตัวเลขออกมาชะลอตัวลงตามคาด จะส่งผลให้ความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ยมีมากขึ้น ซึ่งเบื้องต้นตลาดคาดว่าจะลดลงจากเพิ่มขึ้น 1.99 แสนตำแหน่งเหลือเพิ่มขึ้น 1.63 แสนตา แหน่ง

ปัจจัยในประเทศ
- นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิ 3.9 พันล้านบาท…ลุ้นเงินทุนไหลเข้าต่อ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีช่วงปิดสิ้นปี ปกติแรงซื้อในปลายปีอาจจะเป็นสัญญาณการชี้นำการทิศทางในปี 67 ว่าเงินทุนจะเป็นอย่างไร และปี 66 ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยลง -15.2% รับข่าวลบไปในระดับหนึ่งแล้ว

- ในระยะกลาง-ยาว เฟดลดดอกเบี้ยเป็นบวก หลังดอกเบี้ยสหรัฐพีคทำให้มีเม็ดเงินกลับเข้ามาในภูมิภาคเอเชีย ค่าเงินสกุลเอเชีย/บาทแข็งค่าในระยะกลาง-ยาวหนุนหุ้นเอเชียและหุ้นไทย / ธปท. ประเมิน GDP ไทยปีหน้ายังเติบโตจาก 2.4% ในปี 66 เป็น 3.2%(ไม่รวม DW) และ 3.8%(รวม DW) ในปี 67

ปัจจัยติดตาม: 1. ตัวเลข Non-farm ในวันศุกร์นี้ 5 มค 2. แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ 3. พรบ. เงินกู้ 5 แสนล้าน

กลุยทธ์: ถือ/ซื้อ หากยังไม่หลุดต่ำกว่า 1410/1405 คาดยังแกว่งทางขึ้น การปรับตัวขึ้นของ SET จะมีแนวต้านหลักที่ 1420/1427-1430 ที่เป็นจุดสูงสุดเดิมที่จะทำให้มีช่วงชะลอตัวสั้นหากเป็นการพักฐานสั้นหลังจากทดสอบใกล้แนวต้านดังกล่าว ต้องไม่หลุดต่ำกว่า 1410/1405 หากยังไม่หลุดต่ำกว่ายังเป็นการแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านได้ และการผ่านแนวต้านได้จะเป็นการแกว่งตัวขึ้นรอบใหม่ในระยะกลาง คำแนะนำซื้ออ่อนตัว/ถือ หากไม่หลุดต่ำกว่า 1410/1405 หุ้นที่มีสัญญาณบวกตามรายงานวิเคราะห์ทางเทคนิควันนี้เป็น GFPT, IVL

Update อุตสาหกรรม & หลักทรัพย์ : 1. หุ้นกลุ่มธนาคายังซื้อขายต่า Book มาก ล่าสุดซื้อขายที่เพียง 0.66 เท่าของมูลค่าทางบัญชี หากเศรษฐกิจไม่ได้ชะลอตัวลงมากและมีการเติบโตตามที่หลายค่ายประเมิน GDP ปี 67 เพิ่มขึ้นจากปี 66 กลุ่มธนาคารที่ปรับตัวลงไปก่อนหน้านี้รับข่าวลบไปในระดับหนึ่งแล้ว ยังคงให้น้ำหนักลงทุน Overweight กลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยให้ KTB และ BBL เป็นหุ้น Top Picks ทั้งนี้ถึงแม้สินเชื่อปี 66 จะเติบโตจา กัด แต่กา ไรสุทธิทั้งหมดของ 7 ธนาคารคาดว่าจะเติบโตราว +20% ในปี 66 2. ระยะกลาง-ยาวหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยพีค/ขาลง โรงไฟฟ้าที่มีหนี้และกลุ่มไฟแนนซ์ยังได้ประโยชน์
ในระยะกลาง-ยาว BGRIM GPSC และ MTC (มีปัจจัยเฉพาะตัวตั้งเป้า 600 สาขาปีหน้าและอาจมีผู้ร่วมทุน) SAWAD 3.ราคาน้ำมันกลับมาลดลง ส่งผลกระทบเชิงลบสั้นๆ ต่อหุ้นพลังงานต้นน้า และกลุ่มโรงกลั่นผ่านสต๊อก

Stock Pick Today : GFPT คาดธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดและมีแนวโน้มฟื้นตัวในปี 67 คาดรายได้ส่งออก 4Q66F ฟื้นตัว QoQ อัตรากำ ไรขั้นต้นขยับขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง กำไรมีแนวโน้มดีขึ้น QoQ ส่วนปี 67F พลิกกลับเป็นเติบโต 13% จากรายได้และมาร์จิ้นที่ดีขึ้น ราคาหุ้นปัจจุบันมี P/E ปีหน้าเพียง 9 เท่า,PBV 0.7 เท่า แนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 12.8 บาท

นักวิเคราะห์ : พงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ : pongpats@th.dbs.com : Tel. 02 857 7825