คาด January Effect หนุน SET Index ไปต่อ
กลยุทธ์เลือกหุ้นปันผลสูง Valuation ไม่แพง

คาด SET Index ในเดือน ม.ค. 2567 ยังอยู่ในช่วงปรับขึ้นแรงหนุนจากความเสี่ยง Recession ในเศรษฐกิจโลกลดลง เงินเฟ้อฯผ่านจุดสูงสุดและการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางต่างๆที่คาดว่าจะผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นบ้านเราหลังจากปีที่แล้วติดลบ -15% โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากทิศทางเศรษฐกิจในประเทศที่คาด GDP Growth 67E ขยายตัว 3.6% กำไรบริษัทฯจะกลับมาเติบโต 14% และ Valuation ที่ซื้อขายบน PER 67E 14.6 เท่าถือเป็นระดับไม่แพง อีกทั้งในทางสถิติ 10 ปีหลังสุด (2557-2566) SET Index มักมีเหตุการณ์ January Effect ให้ผลตอบแทนบวกเฉลี่ย 1.3% ด้วยโอกาสสูงถึง 70%

ส่วนทิศทาง SET Index วันนี้คาดแกว่งออกข้างตามกรอบ 1405-1430 จุด จากปัจจัยแวดล้อมอยู่ในช่วงติดตามความคืบหน้าประเด็นต่างๆ เริ่มจากต่างประเทศรายงานดัชนี CAIXIN PMI เดือน ธ.ค. ของจีนคาด 50.4 เทียบกับเดือนก่อนที่ 50.7 ขณะที่ฝั่งญี่ปุ่นประเมินผลกระทบของเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่จังหวัดอิชิคาวะ ส่วนในประเทศติดตามการประชุม ครม. นัดแรก

ด้านทิศทาง Fund Flow ยังมีสัญญาณบวกต่อเนื่องจากค่าเงินบาทเช้านี้ยังทรงตัวแข็งค่าที่ 34.31 บาท/USD หลังวันพฤหัสฯที่ผ่านมา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 3.97 พันล้านบาท ตลาดพันธบัตรฯ 2.6 พันล้านบาท และ Long สุทธิใน SET50 Index Futures 1.44 หมื่นสัญญา กลยุทธ์การลงทุนชอบหุ้นปันผลสูง Valuation ไม่แพง

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 5.42 จุด ปิดสิ้นปีที่ 1415.85 จุดหรือเพิ่มขึ้น 0.38% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.78 หมื่นล้านบาท โดยส่วนหนึ่งมาจากเม็ดเงินของ TESG ที่เข้ามาวันสุดท้าย หนุนดัชนี SETESG Index ปรับขึ้น 0.45% รวมถึงการปรับขึ้นเข้าออกในดัชนี SET50/SET100 รอบ 1H67 โดยกลุ่มที่ขึ้นเด่นกลุ่ม ธ.พ. +2.17% กลุ่มรับเหมาฯ +1.8% สวนทางกลุ่มอิเล็คฯที่ปรับลง 3% กดดันหลักมาจาก DELTA -3.56%

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ AP SCB
AP
ปันผลจูงใจ
กำไร New Highกำไร 4Q66 มีแนวโน้มขยายตัว YoY จากการทยอยรับรู้รายได้จาก Backlog เดิมรวมถึงการเร่งเปิดโครงการ 23 โครงการมูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาทที่กระแสตอบรับดี แต่กำไรมีโอกาสชะลอตัว QoQ จากค่าใช้จ่ายในการเปิดโครงการที่สูงขึ้น ซึ่งหนุนให้กำไรทั้งปี 2566 ของ AP ทำระดับ New High เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
ราคาหุ้นซื้อขายบน Forward PER67F ที่ 5.6 เท่า และจ่ายปันผลสูงที่ 6% โดยเป็นการจ่ายครั้งเดียว ถือเป็นจุดที่เด่นกว่าหุ้นกลุ่มอสังหาฯอื่นๆส่วนใหญ่จ่ายปีละ 2 ครั้ง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 12.50 บาท

SCB
คาดผลประกอบการปี 2566/67F ขยายตัว 15%YoY และ 8%YoY หนุนจากทิศทาง NIM ที่ปรับขึ้น โดยเราคาดปี 2567 อยู่ที่ 3.78% ดีขึ้นจากปี 2566 ที่ 3.67% ด้าน Credit Cost ที่คาด 1.85% ในปี 2567 ลดลงจากปี 2566 ที่อยู่ระดับ 1.9%
ในมุม Valuation ซื้อขายบน PBV67F ที่ 0.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ -1 S.D. นอกจากนี้การจ่ายเงินปันผลในระดับสูงโดยปี 2566/67 ในช่วง 7.1%-7.6% จะเป็นปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 120.00 บาท

KEY FACTOR
สัปดาห์แรกของปี 2567 มีทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เชื่อมโยงดอกเบี้ยและมาตรการภายในประเทศที่ต้องติดตาม
ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ (คืนวันที่ 28 และต่อเนื่องวันที่ 29 ธ.ค.) ตลาดหุ้นต่างประเทศแกว่งไร้ทิศทางก่อนเข้าสู่ช่วงหยุดยาว ทั้งบวกและลบคละกัน จีน +0.49%, สหรัฐฯแกว่งช่วง -0.58% ถึง +0.09%, อาเซียน -1.06% ถึง +0.8% ส่วนทิศทางราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI ปรับตัวลงค่อนข้างแรง -3.28% และ -3.32% ตามลำดับ

ในสัปดาห์แรกของปี 2567 ภาพรวม sentiment อาจโดนกดดันจากราคาพลังงานที่ย่อแรง และตลาดต่างประเทศที่ชะลอความร้อนแรง รวมทั้งน่าจะกลับมาให้น้ำหนักรอด฿การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เชื่อมโยงกับมุมมองดอกเบี้ยระยะยาว 1) ตัวเลขการจ้างงานเอกชนของ ADP Consensus คาด 1.13 แสนตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจาก 1.03 แสนตำแหน่ง ในเดือน พ.ย. 2) การจ้างงานนอกภาคเกษตร Consensus คาด 1.68 แสนตำแหน่ง ลดลงจาก 1.99 แสนตำแหน่ง 3) อัตราการว่างงาน Consensus คาดเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.8% จาก 3.7% ในเดือนก่อน รายงานการประชุม FOMC วันที่ 13-14 ธ.ค. ที่ผ่านมา

ในขณะที่ปัจจัยในประเทศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ 1) Easy e-Receipt ช่วง 1 ม.ค. – 15 ก.พ. น่าจะกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศให้กลับมาจากที่ชะลอในช่วง 4Q66 เพื่อรอใช้ในโครงการนี้ 2) ดัชนี SETESG และ SET50/100 รอบ 1H67 เริ่มมีผล 3) การกำหนดค่าไฟฟ้างวด ม.ค. – เม.ย. 4) แนวทางสูตรคำนวณค่าแรงขั้นต่ำ 5) ความคืบหน้าโครงการ Digital Wallet

EYES ON
1 ม.ค. เริ่มต้นมาตรการ Easy e-Receipt
2 ม.ค. Caixin PMI ภาคการผลิต
4 ม.ค. การจ้างงานเอกชน ADP, S&P Global PMI ภาคการผลิตและบริการของสหรัฐฯ, Caixin PMI ภาคบริการ
5 ม.ค. การจ้างนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ