Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ทิสโก้ : CBG คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 95 บาท

365

 

สรุปจากการประชุมนักวิเคราะห์
ผู้บริหารคาดผลประกอบการ 4Q23 ฟื้นตัวต่อเนื่องทั้งในประเทศและส่งออกจนถึงปีหน้า บริษัทมองผ่านจุดต่ำสุดใน 1Q23 แล้ว จาก
• ยอดขายเครื่องดื่มพลังงานในประเทศ บริษัทมีการทำการตลาดร่วมกับไทยรัฐฯทีวีต่อเนื่อง การคงราคาขายปลีก 10 บาท และการได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการช่วยจำหน่ายสินค้าเบียร์ ช่วยการเพิ่มช่องทางจำหน่ายให้กลุ่มเครื่องดื่มพลังงาน ส่งผลส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นมาสูงสุดในรอบ 2-3 ปี ณ ต.ค.23 อยู่ที่ 22.7% จากสิ้นปี 2022 อยู่ที่ 20.7%
• ยอดการส่งออก คาดเพิ่มขึ้นจากประเทศกัมพูชาเริ่มกลับมาฟื้นตัว (สัดส่วนรายได้ 60-70% ของกลุ่ม CLMV) ในส่วนเวียดนามรายได้เพิ่มขึ้นจากการได้ distributor รายใหม่ และเมียนมาจะเริ่มดำเนินงานโรงงานใหม่ในประเมียนไตรมาส 2 ปีหน้า
• ธุรกิจรับจ้างส่งสินค้าประเภทเบียร์ บริษัทจะรับรู้รายได้จากรับจ้างส่งสินค้าเบียร์ให้กับ บ.ตะวันแดง ตั้งแต่เดือน พ.ย.23 เป็นต้นไป โดยอุตสาหกรรมตลาดเบียร์ไทยมีมูลค่าราว 2.6 แสนล้านบาท/ปี ปัจจุบันบริษัทมียอดขาย 2 ล้านลัง/เดือน และคาดจะต้องใช้เวลา 3-4 เดือนจึงจะเห็นความชัดเจนของยอดขายที่แน่นอน คาดอัตรามาร์จิ้นประมาณ 5% และบริษัทจะรับรู้รายได้จากการผลิตขวดและกระป๋องรวมถึงแพคเกจจิ้งเพิ่มขึ้น คาดอัตรามาร์จิ้น 1-2 บาท/ขวด และยังได้รับค่าลิขสิทธิ์จากการใช้แบรนด์คาราบาวในสินค้าเบียร์ รวมถึงช่วยลดค่า sponsorship กีฬาฟุตบอล EFL ได้ 50% เหลือ 3 ล้านปอนด์/ปี จากการแบ่งค่าใช้จ่ายให้กับบ.ตะวันแดง ผู้ผลิตเบียร์เพื่อทำการตลาด
• ความคืบหน้าแผนขยายโรงงานในเมียนมา คาดจะเริ่มดำเนินงานได้ใน 2Q24F เป็นต้นไป โดยบริษัทถือหุ้น 70% ร่วมกับ local partner ในเมียนมาถือหุ้น 30% ด้วยงบลงทุน 7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็นเงินทุนหมุนเวียนบริษัท 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 4-5 ล้านเหรีญสหรัฐฯ คาดกำลังการผลิต 200 ล้านหน่วย/ปี (ปัจจุบันยอดขายสินค้าที่ประเทศเมียนมาประมาณ 200 ล้านหน่วย โดยหากเกินกำลังการผลิตจะสามารถนำเข้าสินค้าจาก CBG ประเทศไทยได้) สำหรับ CBG จะการรับรู้รายได้ควบรวมงบจากการร่วมทุน, การได้ประโยชน์ในการขายหัวเชื้อเครื่องดื่มพลังงาน, ช่วยลดต้นทุนในการขนส่งและค่าแรงงานที่ถูกกว่าไทย และช่วยแก้ปัญหาเรื่องกฎระเบียนในการนำเข้าสินค้าในเมียนมา

 

• ราคาน้ำตาลปรับเพิ่มขึ้น 2 บาท จะส่งผลกระทบปีหน้าในส่วน GPM ไม่ถึง 1% ของธุรกิจกลุ่มเครื่องดื่ม จากปัจจุบันบริษัทมีต้นทุนน้ำตาลประมาณ 12% ของกลุ่มเครื่องดื่ม แต่สามารถชดเชยกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนแพคเกจจิ้งที่ลดลงได้

เรายังคงประมาณการเดิม ผลประกอบการปีนี้ลดลงและจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า
เราคาดแนวโน้มกำไร 4Q23F เพิ่มขึ้น QoQ จากคาดรายได้ในประเทศจะเพิ่มขึ้นจากรายได้ธุรกิจเบียร์รับรู้เต็มไตรมาส และส่งออกจะทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่คาดอัตราทำกำไรจะเพิ่มขึ้น จากต้นทุนวัตถุดิบที่เริ่มลดลงโดยเฉพาะต้นทุนอะลูมิเนียมกระป๋อง -9%YTD สัดส่วน 15% ของต้นทุนกลุ่มเครื่องดื่ม ช่วยชดเชยกับต้นทุนน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นได้ (สัดส่วน 13% ของกลุ่มเครื่องดื่ม) เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ลดลง -15%YoY และปี 2024F -25F คาดเพิ่มขึ้น 40% และ 12% ตามลำดับ จาก 1) คาดส่งออกปีนี้ลดลง 11% จากเศรษฐกิจในกลุ่ม CLMV ที่ชะลอตัว แต่คาดปีถัดไปจะเพิ่มขึ้นปีละ 11% จากกัมพูชาที่เริ่มดีขึ้น การขยายตลาดเวียดนาม การวางแผนการผลิตในประเทศเมียนมาช่วยลดต้นทุน 2) คาดยอดขายเครื่องดื่มพลังงานในประเทศจะดีขึ้นจากการคงราคาขายปลีก 10 บาท และการทำโปรโมชั่นร่วมกับไทยรัฐฯทีวี 3) ธุรกิจรับจ้างส่งสินค้าประเภทเหล้าและเบียร์เพิ่มขึ้นจากสินค้าใหม่ต่อเนื่อง คาดอัตรามาร์จิ้นลดลงจากสัดส่วนกลุ่มรายได้การรับจ้างส่งสินค้าประเภทเหล้า/เบียร์ที่มีอัตรามาร์จิ้นต่ำเพิ่มขึ้น

ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 95 บาท
เราคาดผลประกอบการ CBG จะกลับมาเติบโต จากสถานการณ์ต่างๆเริ่มปรับดีขึ้นทั้งในประเทศและส่งออกและต้นทุนวัตถุดิบและแพคเกจจิ้งเริ่มปรับลดลง รวมถึงโอกาสการเติบโตของธุรกิจเบียร์ที่มีตลาดใหญ่ เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 95 บาท อ้างอิง PER เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของ CBG ที่ 35X ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายอยู่ PER24F ที่ 29X, Dividend Yield 24F ที่ 2.3% ความเสี่ยง : ยอดขายและต้นทุน commodities ที่ไม่เป็นตามคาด, ภาพรวมเศรษฐกิจที่ซบเซา

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้