ปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ” รอให้เกิด S-curve ใหม่ๆ
COM7 รายงานกำไรสุทธิ 611 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด 22% จากรายได้ที่ต่ำกว่าคาด 9% และ GPM ที่อ่อนแอกว่าคาด 20bps โดยสาเหตุที่รายได้อ่อนแอมาจากสาขาที่ปิดปรับปรุงเปิดได้ไม่เต็มไตรมาส, การยกเลิกการขายสินค้า Realme (ยอดขายราว 455 ลบ. ใน 3Q22) ของ ADEPT ขณะที่ธุรกิจ Ufund มีการตั้งสำรอง 37 ลบ. โดยมี SSG อยู่ที่ 9.3% (ไม่รวมสาขาปิดปรับปรุง) และจำนวนสาขาที่ 1,318 สาขา เราปรับประมาณการกำไรปี 2023/24F ลง 9%/6% เพื่อสะท้อนการเติบโตของยอดขายที่ลดลงและปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ”

กำไรสุทธิ 611 ล้านบาท (-16% YoY, -13% QoQ) หลักๆจากยอดขายอ่อนกว่าคาด
รายได้อยู่ที่ 16,321 ล้านบาท (ต่ำกว่าที่เราคาด 9%) เติบโต 10% YoY จากการขยายสาขาและการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆของทั้ง Vivo, Xiaomi, Samsung, OPPO และ Apple โดยเฉพาะ Iphone15 PM ที่ได้รับการตอบรับที่ดีแม้จะมีเวลาขายน้อยกว่าปีก่อนราว 1 สัปดาห์แต่มีสินค้าพร้อมจำหน่ายมากขึ้น ขณะที่ GPM ลดลงเป็น 13.4% (vs. คาด13.6%) จาก 13.9% เพราะ product mix ที่มีอัตรากำไรต่ำมากขึ้นและค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสาขา รวมถึงการตั้งสำรองสินค้าล้าสมัยของ iPhone 14 เครื่อง Demo ซึ่งใน 3Q22 ไม่มี (ตั้งใน 4Q22)

ปรับประมาณการลง 9%/6% ตามลำดับ สะท้อนยอดขายที่ชะลอตัว
จากผลประกอบการ 3Q23 ที่อ่อนแอกว่าคาด รวมถึงแนวโน้มการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญของ Ufund ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากภาวะดอกเบี้ยและการดำเนินธุรกิจที่มีกำลังซื้อชะลอตัวลง เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2023-24F ลง เป็น 3.1-3.7 พันล้านบาท โดยเราคาดการเติบโตปี 2024F ที่เพียง 19.5% (PC และ Smartphone มีแนวโน้มกลับมาเติบโตในปี 2024F; รูปที่ 3)เทียบกับเฉลี่ย 35% ในช่วง 2019-22 จากฐานที่สูงและศักยภาพของธุรกิจใหม่ๆที่ลงทุนยังไม่ออกผลเต็มที่

ประเมินมูลค่าเหมาะสมด้วยวิธี SOTP ปรับคำแนะนำเป็น “ถือ”
เราประเมินมูลค่าของ COM7 ที่ 29.5 บาท (จากเดิม 37.5 บาท) ด้วยวิธี SOTP โดยประกอบด้วย 1)ธุรกิจหลักของ COM7 29.2 บาท P/E 19x จากเดิม 25x, 2)มูลค่าของ NCAP (ถือ 34%) 0.34 บาท และ 3)มูลค่าของ SABUY (ถือ 3.32%) ที่ 0.1 บาท ด้วย Holding discount 15% ความเสี่ยงได้แก่ 1)การเปลี่ยนแปลงความนิยมของสินค้า 2)กำลังซื้อชะลอตัว และ 3)การลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ