ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

สรุปภาพตลาดวานนี้ วานนี้ SET แกว่างตัวตามคาด หุ้นบวกพยุงตลาดพลิกกลับมาเป็น 3 สหาย กลุ่มพลังงาน PTT PTTEP BANPU คอมเมิร์ช CPAXT CRC CPALL ธนาคาร KTB TTB KBANK ขณะที่หุ้นกลาง-เล็กที่บวกแรงยังพอมีเหลือ KCG CIG ADD BIOTECส่วนที่กดดันตลาดวานนี้ ได้แก่ SCGP AOT TIDLOR SAWAD TLI GULF IVL OR

แนวโน้มตลาดวันนี้ Sideways down
กรอบดัชนีฯสัปดาห์นี้ เราคงคาดแกว่งออกข้าง แต่การสร้างฐานใหม่บนแนวรับ 1,555 จุด ที่หลุดต่ำกว่าลงมา อาจกระทบจิตวิทยาตลาดบ้าง แต่เราเชื่อว่าไม่นานตลาดจะฟื้นกลับมาบวกเหนือแนวรับ ได้อีกครั้ง

ส่วนประเด็นบวก ลบ ที่คละกันไป ย่อมส่งผลต่อการหมุนกลุ่มเล่นในช่วงนี้ ซึ่งจะช่วยพยุงดัชนี เช่น น้ำมันรีบาวด์ (บวกกลุ่มน้ำมัน กดดันกลุ่มที่ใช้พลังงานในการผลิต) วิกฤตศรัทธาตลาดหุ้นกู้ (เป็นลบกลุ่มสินเชื่อบุคคุล เป็นบวกแบงก์พาณิชย์) มาตรการรัฐเป็นบวก (เช่น ลดราคาน้ำมัน, อัดฉีดเม็ดเงินสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ) กระแสข่าวทางการจีนอาจห้ามพนักงานหน่วยงานรัฐใช้ไอโฟน ในที่ทำงาน (กระทบจิตใจราคาหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนฯ) เป็นต้น...

กลยุทธ์การลงทุน ดังนั้น กลยุทธ์ที่เราเน้นรอบนี้ คือเล่นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (หุ้นแถวสอง) โดยการเลือกเล่น จะเน้นไปตามกระแส ตามที่ยกตัวอย่างข้างต้น

วิเคราะห์ทางเทคนิค SET Index สู้ที่เส้นแดง & เขียว ( EMA 25 & 75 วัน) ไม่ยอมถอย! และยังคงปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยไว้ได้ต่อเนื่อง…ขณะที่ RSI recovery ฟื้นตัวขึ้นเล็กๆ ไม่หลุด 50 บ่งชี้โครงสร้างความแข็งแกร่งยังอยู่! แนะจับตา หากปลายสัปดาห์นี้ยืนไม่หลุดโซนแนวรับที่ให้ไว้ ตามเงื่อนไข มีลุ้นกลับตัวขึ้นได้ไม่ยาก ส่วนกราฟแท่งเทียน ชี้รูปแบบฟื้นตัว “Tweezers bottom” สรุป: ดัชนีเพิ่มโอกาสฟื้นตัวขึ้นจากโซนรับ 1,540-1,545 จุด....ไม่ยาก!

What to watch การเร่งเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่ทำได้ทันที จะส่งผลบวกต่อราคาหุ้นที่เชื่อมโยง (เช่น พักหนี้ ลดค่าไฟ (สินเชื่อ สินค้าอุปโภคบริโภค) ฟรีวีซ่า ลดภาษีน้ำมัน (สายการบิน โรงแรม ท่องเที่ยว) เป็นต้น

รายงานเงินเฟ้อไทยเดือน ส.ค. เร่งตัวขึ้นเกินคาด โดย Core CPI +0.79% เกินคาดที่ 0.7% ส่วนเงินเฟ้อทั่วไป เฉลี่ย 8 เดือน อยู่ที่ 2.01% เราคาดมีโอกาสที่ กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง เป็น 2.5% ก่อนจะยุติแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น (หากไม่ขึ้นดอกเบี้ยจะสร้าง Positive surprise ให้กับตลาด แต่กลุ่มแบงก์อาจพักฐานระยะสั้น)

กระแสข่าว จีนห้ามเจ้าหน้าที่รัฐบาลใช้ iPhone ของแอปเปิ้ลและอุปกรณ์สื่อสารแบรนด์ต่างชาติอื่น ๆ ในการทำงาน หรือพกเข้าสำนักงานในที่ทำงาน (ที่มา เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล (WSJ) โดยจีนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 19% ของรายได้โดยรวมของแอปเปิ้ล
วิกฤตศรัทธาตลาดหุ้นกู้...

แย้มมาตรการสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ สามารถใช้ซื้อสินค้าร้านสะดวกซื้อ, ห้าง, ซุปเปอร์มาเก็ต, เติมน้ำมัน ฯลฯ

หุ้นแนะนำวันนี้ AAV กระแสการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน
(S 2.8 R 2.96 SL 2.6)

รายงานพื้นฐานวันนี้

Beverage Sector
กลุ่มเครื่องดื่ม
ส่องผลกระทบจากราคาน้ำตาลปรับตัวขึ้น
เรามองว่าผลกระทบราคาน้ำตาลขึ้นต่อ CBG, OSP ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น โดยในภาพรวมๆ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การขึ้นของราคาน้ำตาลโลก จะกระทบกับต้นทุนเครื่องดื่มส่งออก ส่วนเครื่องดื่มขายในประเทศ อิงกับราคาน้ำตาลภายในประเทศ ซึ่งปรับขึ้นช้ากว่าและน้อยกว่ามาก อย่างไรก็ตาม เราได้จัดทำกรณีศึกษา Sensitivity analysis ของราคาน้ำตาลในประเทศสูงขึ้นทุกๆ 10% และราคาน้ำตาลโลกสูงขึ้นทุกๆ 20% จะกระทบกำไร OSP ราว 4% และ CBG ราว 5% (CBG มีสัดส่วนต้นทุนน้ำตาลต่อต้นทุนเครื่องดื่มรวมสูงกว่า และมีสัดส่วนรายได้ส่งออกสูงกว่า OSP)
แต่ในอีกด้านหนึ่ง เรามองว่า OSP ยังพอมีเรื่องยอดขายเพิ่ม และประสิทธิภาพดีขึ้น ช่วยหนุน Margin ขึ้นเป็นทุนเดิม ช่วยกลบผลกระทบน้ำตาลที่ขึ้นได้บ้าง เช่นกันกับ CBG ที่จะมีรายได้เพิ่มจากการเป็นผู้ผลิตขวดและขนส่งเบียร์ ซึ่งกำไรส่วนเพิ่มนี้ ก็ควรจะกลบผลกระทบได้เช่นกัน

Fundamental View: คงคำแนะนำ ซื้อ ทั้ง CBG และ OSP โดยเราชอบ CBG มากสุด