Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: PIN ลุยเทรดพรุ่งนี้ -แจ้งงบ6 เดือนกำไรพุ่ง 78.72 % /KUN โกยยอดขาย10เดือนแรก1.2พันลบ. เข้าใก้ลเป้าทั้งปี1.5พันลบ.

3,306

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(8พฤศจิกายน 2564)----------บมจ. ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค ผู้พัฒนาและบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรม พร้อมระบบสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก และพื้นที่พาณิชยกรรม พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 9 พ.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,524 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “PIN”

 


นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “PIN” ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 นี้

 

PIN ดำเนินกิจการพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ โดยเน้นการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมประเภทเขตอุตสาหกรรมทั่วไป พร้อมระบบสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่พาณิชยกรรม การพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ประเภทพื้นที่โลจิสติกส์ (Logistics park) อาคารโรงงาน คลังสินค้าเพื่อเช่าและขายสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ที่ตั้งโครงการอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและระยอง ภายใต้เขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ปัจจุบันมีโครงการนิคมอุตสาหกรรมที่ดำเนินการแล้วจำนวน 5 โครงการ โครงการ Logistics Park 1 โครงการ และนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 1 โครงการ กลุ่มลูกค้ามีการกระจายตัวหลากหลายอุตสาหกรรม โดยส่วนใหญ่ อยู่ในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ โลหะและพลาสติก ซึ่งเป็นกิจการข้ามชาติจากญี่ปุ่น ไทย และจีน

 

PIN มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้น 1,160 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 870 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 290 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2564 ในราคาหุ้นละ 3.90 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,131 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,524 ล้านบาท การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) 10.11 เท่า ซึ่งคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทฯ ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น (fully diluted EPS) เท่ากับ 0.39 บาท โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน)

 

นายพีระ ปัทมวรกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ PIN จะได้เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของบริษัท และเชื่อมั่นว่าจะช่วยเสริมศักยภาพในการแข่งขัน เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ และสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินทุน โดยบริษัทฯ มีแผนจะนำเงินจากการระดมทุนไปลงทุนในโครงการพัฒนาพื้นที่โลจิสติกส์ (Logistics Park) แห่งใหม่ นอกจากนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนหนึ่งจะใช้ในชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

 

PIN มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และทุนสำรองตามกฎหมาย ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงิน สภาพคล่อง แผนการขยายธุรกิจ ความจำเป็นและความเหมาะสมในอนาคตและปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการบริหารงานของบริษัทฯ ตามความเห็นสมควรหรือเหมาะสมของคณะกรรมการบริษัทฯ

 

ทั้งนี้ หลัง IPO จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ กลุ่มของนายพีระ ปัทมวรกุลชัย ถือหุ้นรวม 70.90% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว


---แจ้งงบ6 เดือนกำไรพุ่ง 78.72 % ---

นายพีระ ปัทมวรกุลชัย กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จํากัด (มหาชน) PIN เปิดเผยว่า ผลการดําเนินงานสําหรับบัญชีสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ซึ่งรายได้หลักจากการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ สําหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2563 จํานวน 28.69 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.36 โดยมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายที่ดินที่พัฒนาแล้วในนิคมอุตสาหกรรม โดยไตรมาส 2 ปี2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายที่ดินที่พัฒนาแล้วในโครงการ PIN4 และ PIN5 ได้จํานวน 48.17 ไร่ ในขณะที่ไตรมาส 2 ปี2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายที่ดินที่พัฒนาแล้วในนิคมอุตสาหกรรมโครงการ PIN5 ได้จํานวน 42.81 ไร่ ประกอบกับบริษัทฯ มีรายได้จากการให้เช่าและบริการเพิ่มขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าบริการพื้นที่ส่วนกลางและค่านํ้าประปา เนื่องจากมีจํานวนลูกบ้านเพิ่มขึ้น

 

กําไรขั้นต้น สําหรับงวด 6 เดือน ปี 2563 และปี 2564 ของบริษัทฯ เท่ากับ 117.09 ล้านบาท และ 154.84ล้านบาท คิดเป็น อัตรากําไรขั้นต้นร้อยละ 42.30 และร้อยละ 50.69 ตามลําดับกําไรขั้นต้นรวม งวด 6 เดือน ปี 2564 เพิ่มขึ้น 37.76 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปี 2563 คิดเป็นร้อยละ32.24 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้และอัตรากําไรขั้นต้นจากการขายอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากต้นทุนเฉลี่ยต่อไร่ของที่ดินที่ขายได้ในงวด 6 เดือน ปี 2564 ตํ่ากว่าต้นทุนเฉลี่ยต่อไร่ของที่ดินที่ขายได้ในงวด 6 เดือนปี 2563 ประกอบกับการเพิ่มขึ้นรายได้จากการให้เช่าและบริการตามการเพิ่มขึ้นของจํานวนลูกบ้านอีกด้วย

 

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร สําหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2563 จํานวน 4.01 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.22 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของค่าใช้จ่ายค่านายหน้าเนื่องจากที่ดินบางแปลงที่ขายได้ในงวด 6 เดือน ปี 2564 เป็นการขายโดยไม่ผ่านนายหน้า ประกอบกับการลดลงของค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขาย ค่าเช่า ค่าใช้จ่ายเดินทาง ค่าเช่าและค่าบริการ และค่าธรรมเนียมธนาคาร เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้รวม พบว่า อัตราส่วนดังกล่าวในงวด 6 เดือน ปี 2563 และปี 2564 เท่ากับร้อยละ 25.89 และร้อยละ 22.32 ตามลําดับ

 

กําไรสุทธิสําหรับงวด 6 เดือน ปี 2563 และปี 2564 ของบริษัทฯ เท่ากับ 55.57 ล้านบาท และ 99.31 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากําไรสุทธิ ร้อยละ 18.74 และร้อยละ 30.47 ตามลําดับกําไรสุทธิของบริษัทฯ สําหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เพิ่มขึ้นจากปี 2563 จํานวน43.74 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 78.72 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมและการลดลงของต้นทุนขายและบริการ รวมถึงการลดลงของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของบริษัทฯ

 


สินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 เพิ่มขึ้น 89.67 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.92 จาก ณ วันที่ 31ธันวาคม 2563 โดยมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของลูกหนี้การค้าค่าที่ดิน จํานวน 30.69 ล้านบาท ที่จะชําระและโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในเดือนกรกฎาคม 2564 และการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จากการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคของโครงการ PIN6 ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา


หนี้สินรวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 เพิ่มขึ้น 164.36ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9.30 จาก ณ วันที่ 31ธันวาคม 2563 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยืมระยะสั้นเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ และการเพิ่มขึ้นของเจ้าหนี้การค้า-รายได้รับล่วงหน้าค่าที่ดิน จากการทําสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและรับชําระเงินบางส่วนจากลูกค้าแล้ว แต่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์

 

ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ลดลง 74.69 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.58 จาก ณ วันที่31 ธันวาคม 2563 โดยเป็นผลจากการประกาศจ่ายเงินปันผลประจําปี จํานวน 174 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทฯ มีผลประกอบการจากการดําเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 จํานวน 99.31 ล้านบาท

 

อัตราส่วนสภาพคล่อง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของหนี้สินระยะสั้น จากการกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินมาเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการและการเพิ่มขึ้นเจ้าหนี้การค้า ประเภทรายได้รับล่วงหน้าค่าที่ดิน จากการที่บริษัทฯ ได้รับชําระค่าที่ดินจากลูกค้าแต่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์

 

อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ของบริษัทฯ สําหรับไตรมาส 2 ปี 2564 เพิ่มขึ้นจากงวดปี 2563 โดยมีสาเหตุมาจากเพิ่มขึ้นของกําไรสุทธิในงวด 6 เดือนปี 2564 เทียบกับกําไรสุทธิสําหรับงวด 6 เดือนปี 2563 ซึ่งส่งผลให้กําไรสุทธิสําหรับงวด 12 เดือนย้อนหลังของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น ในขณะที่สินทรัพย์ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย


อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ สําหรับงวด 6 เดือน ปี 2564 คํานวณด้วยวิธีการปรับยอดรายงานในงบกําไรขาดทุนให้เป็นยอดเต็มปี (Annualized) เพิ่มขึ้นจากงวดปี 2563 โดยมีสาเหตุมาจากการที่บริษัทฯ มีกําไรสุทธิในงวด 6 เดือนปี 2564 เพิ่มขึ้นจากงวด 6 เดือน ปี 2563 ซึ่งเป็นผลจากการที่มีรายได้เพิ่มขึ้นและมีอัตรากําไรสุทธิเพิ่มขึ้น


อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563โดยมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน เพื่อนํามาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ ในขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจากการประกาศจ่ายเงินปันผล ในช่วงเดือนมีนาคม 2564

 

 


KUN เดินหน้าอัดแคมเปญโค้งสุดท้าย “ผ่อนบ้านล้านละพัน”สอดรับ มาตรการ LTV กระตุ้นความต้องการซื้อช่วงท้ายปีเพิ่ม ล่าสุดตุนBack log 280 ล้านบาท ขณะที่ยอดขาย 10 เดือน ทำได้แล้ว 1,200 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80% ของเป้าทั้งปีที่ 1,500 ล้านบาท ย้ำผลงานปีนี้มาตามนัดรายได้ส่อแววแตะนิวไฮ มั่นใจตลาดอสังหาฯ เริ่มฟื้นตัว

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN เปิดเผยถึงกลยุทธ์ช่วงโค้งสุดท้ายของปี2564 ว่า บริษัทฯออกโปรแกรมทางการเงินร่วมกับพันธมิตร ภายใต้ชื่อโครงการ “ผ่อนบ้านล้านละพัน” เพื่อเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งแคมเปญดังกล่าวคาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายให้กับ KUN ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะสอดรับกับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ประกาศผ่อนคลายมาตรการ LTV เป็นการชั่วคราว โดยกำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน เป็น 100% จากเดิมที่ระดับ 70-90% สำหรับสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยได้เพิ่มขึ้น และจะส่งผลดีกับลูกค้าในกลุ่มคนที่ต้องการซื้อบ้านหลังที่ 2 และ 3 เนื่องจากปัจจุบันKUNมีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 20% ซึ่งจะทำให้ลูกค้าในกลุ่มนี้ตัดสินใจซื้อมากขึ้น

ทั้งนี้ KUN ได้เตรียมความพร้อม เพื่อรับมือกับการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์หลังจากนี้ โดยการเตรียมสินค้าไว้รองรับการขายในอนาคต ด้วยมีที่ดินที่อยู่ระหว่างการรอพัฒนา รวมมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท และในปี 2565 จะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าดังกล่าวจะรองรับการเติบโตในอนาคตได้ต่อเนื่อง พร้อมกันนี้บริษัทฯจะยึดกลยุทธ์การยืดหยุ่นในการขยายธุรกิจ ตามสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความเสี่ยงน้อยที่สุด ขณะเดียวกันก็มองหาโอกาสในการทำกำไรที่ดี

พร้อมกันนี้ ยังได้เดินหน้าตอกย้ำภาพรวมผลการดำเนินในปี 2564 ว่า บริษัทฯได้วางเป้าหมายรายได้ เติบโตเพิ่มขึ้น 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 803.79 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ซึ่งเป็นผลจากความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปหลังจากสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากเริ่มมีความต้องการพื้นที่ใช้สอยและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับการ Work From Home ซึ่งจากประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ยอดขายในแต่ละโครงการของKUN เพิ่มสูงขึ้น เพราะในทุกโครงการของวิล่าคุณาลัย สามารถตอบโจทย์ความต้องการในทุกพื้นที่การใช้สอยตรงตามความต้องการของลูกค้า

บริษัทฯทยอยส่งมอบบ้านให้ลูกค้าได้ตามแผนที่กำหนดไว้ โดยในช่วงไตรมาส 4/2564 บริษัทฯได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการก่อสร้าง ด้วยการเริ่มก่อสร้าง เพื่อจะส่งมอบให้กับลูกค้าได้ตามกำหนด รวมถึงงานเก็บรายละเอียด ซึ่งเป็นหน้าที่ของทีมบริการหลังการขายที่จะต้องเข้ามาดูแลลูกค้ามากขึ้น หลังจากมีการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในช่วงไตรมาส 3/2564 ที่ผ่านมา โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 บริษัทฯมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวม 280 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในไตรมาส 4/2564

อย่างไรก็ตาม สำหรับยอดขาย (Presale) ในปี 2564 บริษัทฯได้วางเป้าหมายยอดขาย (Presale) ไว้ที่ระดับ 1,500 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯยังคงเชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยล่าสุด (ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2564) บริษัทฯ มียอดขายสะสมแล้วประมาณ 1,200 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 80% ของเป้าหมายทั้งปี ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4/2564 จะเป็นการขายเพื่อรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/2565

โดยในช่วงที่ผ่านมา KUN ก็มาได้เปิดตัวโครงการใหม่แล้ว 2 โครงการ อาทิ คุณาลัย PARCO มูลค่าโครงการประมาณ 600 ล้านบาท และ โครงการ คุณาลัย Daisy มูลค่าโครงการกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งทั้ง2 โครงการปัจจุบันมียอดขายเข้ามาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนโครงการคุณาลัย นาวาร่า จำนวน 431 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,780 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในทิศใต้ โซนพระราม 2 ซึ่งถือเป็นทิศใหม่ในการขยายโครงการของบริษัทฯคาดจะเปิดขายในช่วงต้นปี 2565ซึ่งถือว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของKUN

 

---จบ---

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ยังไหว By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม มอง ตลาดหุ้นไทย ยังคงไหว ระหว่างรอ ซึ่งช่วงนี้ บริษัทจดทะเบียน ก็ทยอยแจ้งงบไตรมาสแรกปีนี้ออกมาแล้ว ขณะที่...

HotNews: MTC กำไร Q1/67 โต 29.8% ดีกว่าโบรกฯคาด ทั้งปีคาดพุ่ง 22%

MTC ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่ไมโครไฟแนนซ์มาตรฐานระดับโลก เน้นจุดแข็งความยั่งยืน.....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้