Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: PTTGC ลั่นรายได้โตกว่า 10% ในปี 65 หลังซื้อ Allnex

2,489

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (13 กรกฎาคม 2564) ----PTTGC คาดปิดดีล Allnex ปลายปีนี้ มอง EBITDA margin เพิ่มไม่ต่ำกว่า 2% - รายได้โตกว่า 10% ในปี 65 คาด D/E จะเพิ่มเป็น 0.6-0.7 เท่า ยืนยันไม่กระทบจ่ายปันผล พร้อมเผยอยู่ระหว่างศึกษาทำ M&A ต่อ หลังวางเป้าเพิ่มสัดส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ HVB เป็น 25% ในปี 73

ดร. คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดว่ารายได้และกำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อมราคา​และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin ) ปี2565 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด และคาดว่าสิ้นปีนี้อง EBITDA Margin จะเพิ่มไม่ต่ำกว่า 2% เนื่องจากจะมีการบันทึกผลประกอบการของบริษัท Allnex Holding GmbH (Allnex) ภายหลังที่บริษัทได้เข้าซื้อกิจการ โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการซื้อกิจการ Allnex แล้วเสร็จทุกกระบวนการในช่วงปลายปี64


ด้านรายได้ที่คาดว่าจะได้รับจาก Allnex อยู่ที่ราว 2,133 ล้านยูโร/ปี ซึ่งจะเข้ามาช่วยหนุนรายได้รวมของ PTTGC ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกราว 10% และ EBITDA ของ Allnex อยู่ที่ระดับ 17% หรือมูลค่าราว 400 ล้านยูโร ซึ่งจะหนุนให้ EBITDA รวมของ PTTGC ปรับตัวสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 2% จากเดิมที่อยู่ราว 8-9% อย่างไรก็ตามในส่วนของกำไรสุทธิของ Allnex คาดว่าจะอยู่ระดับ 50% ของ EBITDA


“เรามองว่ามูลค่าซื้อหุ้นราว 4,000 ล้านยูโร ซึ่งคิดเป็นประมาณ 10 เท่าของ EBITDA อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยยังต่ำกว่าดีล M&A ของธุรกิจอื่นๆในกลุ่มเดียวกันที่อยู่ระดับ 12-13 เท่าของ EBITDA และคาดว่าการลงทุนในครั้งนี้จะได้ผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ประมาณ 13-15% ต่อปี และมี EBITDA เข้ามาเพิ่มเติมกว่า 400-500 ล้านดอลลาร์ต่อปีในอนาคต” ดร.คงกระพัน กล่าว


สำหรับแหล่งเงินทุนในการซื้อกิจการนั้น บริษัทยังมีกระแสเงินสดที่เพียงพอ โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน ซึ่งมีกระแสเงินสดในมือกว่า 1 แสนล้านบาท และมีเงินบางส่วนจากการขายหุ้นบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC รวมถึงยังมีวงเงินกู้จากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT อีก 73,920 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีวงเงินกู้จากสถาบันการเงินอีกราว 15,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังและ EBITDA ที่จะเพิ่มขึ้นมาหลังจากการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้

ด้านอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ภายหลังการเข้าซื้อกิจการ Allnex คาดว่าจะขยับขึ้นเป็น 0.6-0.7 เท่า จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 0.3 เท่า แต่ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งและยังมีความสามารถในการกู้เงินได้อีกพอสมควร จึงทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องการเพิ่มทุนและคาดจะไม่มีผลต่อการจ่ายเงินปันผลของบริษัท

 

ดร. คงกระพัน อินทรแจ้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า “ภายใต้วิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต และตามเป้าหมายกลยุทธ์เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตด้วยกลยุทธ์ Step Out ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องในธุรกิจที่มีมูลค่าสูงและการแสวงหาโอกาสเพื่อสร้างการเติบโตในต่างประเทศ และกลยุทธ์ Step Up ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนด้วยการสร้างสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social, Governance: ESG) GC มีความยินดีที่จะประกาศการขยายการลงทุนใน allnex ผู้นำอันดับหนึ่งของโลก ในอุตสาหกรรม Coating Resins ที่โดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์ ประวัติความเป็นมา และพันธสัญญา เพื่อเสริมสร้างสถานะที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในระดับนานาชาติ”


โดย allnex มีผลกำไรที่แข็งแกร่ง และยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังมีการวางกลยุทธ์ในการเจริญเติบโต 3 ด้านอย่างชัดเจน ได้แก่ ความเป็นผู้นำในตลาด Coating Resins คุณภาพสูง มุ่งแสวงหาการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดใหม่ๆ และมุ่งมั่นพัฒนาสารเคลือบที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม เราพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทีมงาน allnex เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ และสร้างคุณค่าให้กับสังคมร่วมกัน พร้อมทั้งให้การสนับสนุนชุมชนและสิ่งแวดล้อม”


ด้านมร. มิเกล แมนทัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Allnex Holding GmbH หรือ allnex กล่าวว่า “เราภูมิใจในความสำเร็จของการสร้าง allnex ให้เป็นผู้เล่นระดับโลก (Global Player) และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับ GC เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนและเติบโตไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ด้วยทรัพยากร เครือข่ายในอุตสาหกรรม และความชำนาญการในตลาดทวีปเอเชียแปซิฟิกของ GC จะช่วยให้เราสามารถลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ และขยายรากฐานความแข็งแกร่งสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้เป็นอย่างดี”


มร. โรนัลด์ อาลยส์ กรรมการผู้จัดการ และประธานฝ่าย Global Chemicals and Materials Practice บริษัท Advent International กล่าวว่า “ในฐานะผู้บริหารกองทุนที่มีประสบการณ์สูงสำหรับการลงทุนในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ระดับโลก Advent ได้สนับสนุนการดำเนินงานของ allnex ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ในการปรับโฉมองค์กรสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของโลก ด้านการผลิต Coating Resins ทำให้ allnex เติบโตด้วยจำนวนพนักงาน โรงงานการผลิต ศูนย์วิจัยและพัฒนา รวมถึงลูกค้าที่มีมากขึ้นกว่า 2 เท่า และการเข้ามาของ GC ทำให้เราได้พบกับพันธมิตรที่เหมาะสมที่สุดในการสนับสนุนการเติบโตก้าวใหม่ของ allnex และสืบทอดเรื่องราวความสำเร็จนี้ต่อไป”


การขายกิจการ allnex ให้กับ GC Inter B.V. คาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 หลังจากได้รับอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

พร้อมกันนี้ GC ยังคงมองหาและศึกษาการดีล M&A เพิ่มเติมเพื่อสร้างการเติบโตและต่อยอดประโยชน์ของธุรกิจเดิมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะเน้นในส่วนของธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงหรือ High Value Business (HVB) ภายหลังบริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนธุรกิจ HVB เป็น 25% ในปี 73 โดยภายหลังจากการซื้อกิจการ Allnex คาดว่าสัดส่วนธุรกิจ HVB จะเพิ่มขึ้นใกล้ระดับ 20% จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 10%

---จบ---

 

 

 

 

 

 

 

สิริวัฒนา กลางประพันธ์

สิริวัฒนา กลางประพันธ์ : รายงาน / อณุภา ศิริรวง : เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้