Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : จับตา CPF กำไรโค้ง 3 ปังปุริเย่!!

4,382

HotNews : จับตา CPF  กำไรโค้ง 3 ปังปุริเย่!!

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(15ตุลาคม 2563) 6 โบรกเกอร์ ประเมิน CPF ประกาศไตรมาส3กำไรสุดปังๆ ปังปุริเย่ นำโดย บล.เคจีไอ เล็ง CPF เคาะกำไรแข็งแกร่งที่ 6.1 พันล้านบาท , บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมิน CPF โกยกำไรปกติ 5,541 ล้านบาท ใน Q3/63 โต 177%y-y +29%q-q , บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุ CPF ทำกำไรสุทธิ New High ที่ 6.74 พันล้านบาท ,บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดกำไรสุทธิงวดQ3/63 ที่ 6.9 พันล้านบาท สูงเป็นประวัติการณ์ ,บล.หยวนต้า ส่อง CPF จะรายงานกำไรสุทธิQ3/63 ที่ 7,048 ล้านบาท และกำไรปกติคาดที่ 6,618 ล้านบาท ทำระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ปิดท้ายที่กูรูทิสโก้ ทำนายกำไรโค้ง 3 CPF ที่ 6.87 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY และ 14% QoQ

 

 

 

 


บทวิเคราะห์ บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ(ประเทศไทย)

เปิดเผยว่า เราคาดว่ากำไรสุทธิของ CPF ใน 3Q63 จะออกมาแข็งแกร่งที่ 6.1 พันล้านบาท (+1.1% YoY, +1.6% QoQ) แต่หากไม่รวมรายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะอยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท (+108.0% YoY, +6.1% QoQ) เนื่องจากราคาหมูในเวียดนามและประเทศไทยขยับสูงขึ้น เราคาดว่ารายได้รวมของ CPF จะอยู่ที่ 1.444 แสนล้านบาทใน 3Q63 (+8.9% YoY, +0.4% QoQ) ในขณะที่คาดว่า GPM จะเพิ่มขึ้นเป็น 18.5% ใน 3Q63 จาก 13.5% ใน 3Q62 และ 18.1% ใน 2Q63 จากราคาหมูที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ เรายังคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม ใน 3Q63 จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.3 พันล้านบาท (+2.8% YoY, +46.7% QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก QoQ หลักๆมาจากผลการดำเนินงานของ CP ALL PCL (CPALL.BK/CPALL TB)* ที่ดีขึ้นหลังการผ่อนคลายมาตรการ lockdown

 

 


"เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี 2563F ของCPF ขึ้นอีก 17.5% เนื่องจากเราปรับสมมติฐาน GPM เพิ่มขึ้นตามราคาหมูที่สูงขึ้นทั้งในเวียดนามและประเทศไทย แต่ในอีกด้านหนึ่ง เราก็ปรับลดประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี 2564 ลง 2.9% และปี 2565 ลง 2.3% เพื่อสะท้อนถึงราคากากถั่วเหลือง และราคาข้าวโพดที่สูงขึ้น "บทวิเคราะห์ระบุ

 

 

เรายังไม่ได้ใส่ดีล M&A ที่กำลังเจรจาอยู่สองดีล (ได้แก่การเข้าซื้อกิจการ Tesco Asia และ Chia Tai Animal Husbandry Investment (Beijing) Co., Ltd. (CTAI)) เข้าไว้ในประมาณใหม่ของเราเนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ทั้งนี้ในขณะนี้ CPF กำลังรอคำตัดสินจากสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (OTCC) ว่าการเข้าซื้อ Tesco จะทำให้เกิดการผูกขาดหรือไม่ ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการชุดนี้จะมีข้อสรุปออกมาใน 4Q63 ในขณะเดียวกัน CPF ก็ประกาศออกมาเมื่อเดือนที่แล้วว่าบริษัทจะเข้าทำดีลแลกหุ้น ซึ่ง CPF จะเข้าถือหุ้น 35% ในกิจการเลี้ยงหมูครบวงจรระดับแนวหน้าของจีน ซึ่งดีลนี้ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) ในวันที่ 27 ตุลาคม 2563 ก่อน

 

 

บทวิเคราะห์ระบุว่า เมื่ออิงจากประมาณการใหม่ของเราทำให้ได้ราคาเป้าหมาย SoTP ใหม่ที่ 38.00 บาท ลดลงจากเดิมที่ 39.50 บาท เราเชื่อว่าราคาหุ้นที่อ่อนลงมาในช่วงที่ผ่านมาแรงเกินไป และสะท้อนถึงผลจากการที่ราคาอาหารสัตว์อาจจะขยับสูงขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ CPF

 

 

Risks ราคาหมูต่ำเกินคาด และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมต่ำกว่าที่คาดไว้

 

 

 

 

 

 

บทวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า CPF

เรามีมุมมองเป็นกลาง คาดกำไรปกติ 5541 ล.บ. ใน 3Q20F (+177%y-y +29%q-q) เพิ่ม y-y ยังมีอานิสงส์ราคาสุกรเวียดนามเพิ่ม +98%y-y ส่วนการเพิ่ม q-q เกิดจากการส่งออกไก่เพิ่มขึ้นและราคาไก่-สุกรในประเทศฟื้นตัว ส่วนแบ่งกำไรจาก CPALL ฟื้นตัว อย่างไรก็ตามเราแนะนำ Neutral CPF ด้วย TP 26.5 บาท แนวโน้มราคาสุกรเวียดนามและจีนอ่อนตัวลงในปี21F จากการเพิ่มการเลี้ยง ขณะที่แนวโน้มราคาถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นจะเพิ่มภาระต้นทุนและทำให้ GPM ในปี 21F ลดลง y-y ส่วนฐานะทางการเงินของ CPF อ่อนแอลง อัตราเงินกู้ต่อทุนสูงขึ้น (1.78x ใน 2Q20)และสูงกว่าใน 1Q17(1.6x) ที่เพิ่มทุน

 

 

 

 


บทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า CPF

 

เราคาดกำไรสุทธิ 3Q20 ทำ New High ที่ 6.74 พันลบ. +12% Q-Q, +11% Y-Y จากปริมาณขายที่ดีขึ้นแทบทุกประเทศหลัง Reopen และราคาเนื้อสัตว์ปรับขึ้นโดยเฉพาะราคาหมูไทยและหมูเวียดนาม ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังทรงตัวต่ำ และส่วนแบ่งกำไรของบ.ร่วม (CPALL, Hylife) ฟื้นตัว บริษัทอยู่ระหว่างขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น 27 ต.ค. เพื่อซื้อธุรกิจสุกรในจีนจาก CPG และอยู่ระหว่างรอผลการเข้าซื้อ Tesco จาก OTCC คาดได้เห็นข้อสรุปในเดือนนี้ อย่างช้าต้น พ.ย. ซึ่งจะมีผลต่อกำไรปีหน้า เราอยู่ระหว่างทบทวนกำไรและราคาเป้าหมายปีหน้า แนะเก็งกำไรผลประกอบการ 3Q20

 

 

 

 

 

บทวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด

ระบุว่า เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ CPF แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 38.50 บาท อิง SOTP จากเดิมที่ 35.00 บาท เราคาดกำไรสุทธิงวด 3Q20 เท่ากับ 6.9 พันล้านบาท สูงเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 15% QoQ และ 16% YoY หากไม่รวมรายการกำไรจากสินทรัพย์ชีวภาพประมาณ 950 ล้านบาท CPF จะมีกำไรปกติที่ 6.0 พันล้านบาท (+108% YoY, +41% QoQ) จากธุรกิจสุกรและไก่ในไทยฟื้นตัวขึ้น เช่นเดียวกับธุรกิจสุกรในเวียดนามยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบกากถั่วเหลืองที่ปรับสูงขึ้นในปัจจุบัน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ CPF มากเพราะ CPF ได้ทำสัญญาซื้อกากถั่วเหลืองล่วงหน้าไว้ไปถึงต้นปี 2021 แล้วรวมถึงมีการใช้วัตถุดิบอื่นทดแทน เราปรับกำไรสุทธิในปี 2020E เพิ่มขึ้น 21% อยู่ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท +27% YoY (และปรับเพิ่มกำไรปกติ 24% ที่ 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น +62% YoY) ใน 2Q20 บริษัทได้รับผลกระทบมากจากการปิดตัวของภาคโรงแรมห้างสรรพสินค้าและร้านอาหาร หลังจากนั้นกลับมาดีขึ้นในไตรมาสสาม รวมถึงราคาปศุสัตว์สูงกว่าที่เราคาดเดิม

 

 

ราคาหุ้น CPF ปัจจุบัน underperform SET -7% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จากความกังวลราคากากถั่วเหลืองปรับตัวขึ้น ทั้งนี้เรายังแนะนำ ซื้อ โดยเราคาดว่าราคาหุ้นจะยังปรับตัวขึ้นได้จากการคลาย Lock down คู่แข่งขันในต่างประเทศติด COVID-19 ตลอดจนราคาหมูเวียดนามยังคงอยู่ในระดับสูงจากผลของ ASF ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายกันที่ PER 10x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มอาหารที่ 17x

 

 

 

 


บทวิเคราะห์ บจ.หลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย)

 

ระบุว่า ราคาหมูในประเทศเฉลียใน 3Q63 อยู่ที่ 80 บาท/ก.ก. (+14.3% QoQ, +21.8% YoY) ราคาไก่ในประเทศอยู่ที่ 33.7 บาท/ก.ก. (+6.9% QoQ, -7.3% YoY) ราหมูเวียดนามอยู่ที่ประมาณ 80,000 ดอง/ก.ก. (+7.6% QoQ, +123.9% YoY) คาดรายได้ 3Q63 ของCPF ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 1.55 แสนลบ. (+7.6% QoQ, +16.7% YoY) คาด GPM ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 19.3% จาก 18.1% ใน 3Q63 และ 13.5% ใน 3Q62 จากธุรกิจสัตว์บก และสัตว์น้ำในประเทศ รวมถึงธุรกิจหมูในทุกประเทศยังทรงตัวสูง พร้อมกับต้นทุนที่ทรงตัวในระดับต่ำ ค่าใช้จ่าย SG&A/Sales คาดที่ 9.2% จาก 9.5% ใน 2Q63 ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมคาดที่ 1,741 ลบ. เพิ่มขึ้น 10% QoQ ตามการฟื้นตัวของส่วนแบ่งกำไรจาก CPALL หลังคลาย Lockdown คาดกำไรจากสินทรัพย์ชีวภาพที่ 200 ลบ. กำไรจากการขายเงินลงทุนที่ 350 ลบ. คาดกำไรสุทธิที่ 7,048 ลบ. และกำไรปกติคาดที่ 6,618 ลบ. (+35.0% QoQ, +118.4% YoY) ทำระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์

 

 

 

ปัจจัยที่ตลาดกังวลไม่ได้มีผลกระทบขนาดนั้น และเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว

 

ราคาหุ้น CPF ปรับตัวลงมากกว่า 20% จากราคาสูงสุดที่ 35 บาท จากประเด็นหลัก 3 ประเด็นดังนี้


1) การปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคากากถั่วเหลือง แต่เป็นการปรับตัวขึ้นจากระดับราคาต่ำกว่าปกติสู่ระดับราคาปกติ และคาดว่าจะเริ่มเห็นการชะลอลงในช่วงปลายปีจากแรงขายทำกำไร นอกจากนี้ส่วนประกอบในการผลิตอาหารสัตว์ใช้กากถั่วเหลืองเพียง 25% ส่วนใหญ่เป็นข้าวโพดซึ่งใช้วัตถุดิบในประเทศราคาข้าวโพดในตลาดโลกที่ปรับขึ้นจึงไม่มีผลกระทบ

 

2)ราคาหมูในเวียดนาม ลดลง แต่เป็นการลดลงเพียงเล็กน้อยจากระดับ 80,000 ดอง/ก.ก. มาที่ 75,000 80,000 ดอง/ก.ก. ยังเป็นระดับที่สูงมากเมื่อเทียบกับต้นทุนที่ 36,000 ดอง/ก.ก. และบริษัทมองว่าเป็นการลดลงชั่วคราวเพราะเกิดจากการที่เกษตรกรในบางพื้นที่เร่งกดราคาขายหมู เนื่องจากมีการระบาดของ ASF ในพื้นที่ของตนเอง

 

3) ผลประกอบการปี 2563 ผ่านจุดที่ดีที่สุดไปแล้ว แต่ตลาดมองข้ามธุรกิจหมูในจีน ที่แม้ถือในสัดส่วนเพียง 35% แต่จะมีกำลังการผลิตเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว ซึ่งราคาหมูจีนยังสูงจะส่งผล เต็มปีในปี 2564 ยังมีการกลับมาเติบโตของ CPALL และการซื้อกิจการ Tesco หนุนส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม ขณะที่คาดว่าปริมารบริโภคสัตว์บกอาจยังเติบโตได้จากฐานที่ต่ำในปีนี้ แม้ว่าราคาอาจขยับขึ้นอีกได้ไม่มากแต่คงไม่ลดลงแบบมีนัยยะเพราะ Supply ยังไม่เป็นปกติ และธุรกิจสัตว์น้ำในประเทศกลับมาทำกำไรได้ ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงกรณีแย่ที่สุดคือกลับไปเท่ากับปี 2562 ซึ่งรวมในประมาณการแล้ว

 

 


บทวิเคราะห์ระบุว่า หากประมาณการ 3Q63 ของ CPF ใกล้เคียงคาดจะส่งผลให้กำไรปกติ 9M63 คิดเป็นสัดส่วน 83% ของประมาณการกำไรทั้งปีของเรา จึงมีโอกาสที่กำไรปี 2563 อาจสูงกว่าที่เราคาดได้ โดยคาดกำไรปกติใน 4Q63 เบื้องต้นที่ 5,000 ลบ.+/- เติบโต 15 20% YoY แต่ลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล เรามองว่าตลาดกังวลมากเกินไปต่อการปรับขึ้นของราคากากถั่วเหลือง ซึ่งบริษัทล๊อคราคาไว้แล้วถึง 1Q64 และราคาหมูเวียดนาม ยังสูงมาก แม้ว่าจะลดลงบ้าง แต่ก็เพียงชั่วคราวเท่านั้น ทำให้ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER64 ต่ำเพียง 9.75x ต่ำที่สุดในกลุ่มอาหาร มองเป็นโอกาสลงทุนคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 ที่ 49.50 บาท

 

 

 

 

 


สำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด

 

ระบุว่า จากมาตรการของ COVID-19 ที่ผ่อนคลายลง ทำให้การบริโภคหมูและไก่เพิ่มขึ้นจากจุดต่ำสุดในเดือน เม.ย. โดยเราเชื่อว่าราคาหมูจะเพิ่มขึ้นต่อในช่วง Q4 จากการบริโภคที่แข็งแกร่ง และการส่งออกที่เพิ่มขึ้น แต่มีปัจจัยกดดันจากต้นทุนอาหารสัตว์ แต่อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวโพดและกากถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นในเดือน ก.ย. ส่วนหนึ่งมาจากราคาหุ้นของ CPF ที่เพิ่มขึ้น 17% หลังเดือน ก.ย. อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวโพดเพิ่มขึ้น 2% ในช่วง Q3 ในขณะที่กากถั่วเหลืองลดลง 1% YoY ทำให้เราเชื่อว่าอัตรากำไรของ CPF ยังดี

 

 

ผลประกอบการไตรมาส 3

เราคาดผลประกอบการของ CPF ในช่วง 3Q20F ที่ 6.87 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY และ 14% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษต่างๆ แล้ว การดำเนินงานจะอยู่ที่ 5.44 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 172% YoY และ 27% QoQ เราคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 9% ในขณะที่อัตรากำไรเพิ่มขึ้น 460 bps YoY เป็น 18.1% ในช่วง 3Q20 (เทียบกับ 13.5% ในช่วง 2Q19) ในขณะที่การควบคุมต้นทุนจะต่อเนื่องจากช่วง 2Q20

 

เราแนะนำให้ ซื้อ โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 38 บาท อิง SOTP โดยมีความเสี่ยงคือ โรคระบาด และราคาสินค้าโภคภัณฑ์

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

TMILL ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผู้ถือหุ้นโหวตรับปันผลอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น

TMILL ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผู้ถือหุ้นโหวตรับปันผลอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น

ไปไม่ไกล By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ ภาพรวมหุ้นไทย คงวิ่งไม่ไกล ไม่แรง ด้วยทั่วโลก จับตา ประธานเฟด แถลงผลประชุม 1พ.ค.67 ...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้