Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : CPF ยัน COVID-19 ไม่สะกิด มั่นใจผลงานปีนี้โตต่อเนื่อง ด้านโบรกพร้อมใจเชียร์ ซื้อ

3,570

HotNews : CPF ยัน COVID-19 ไม่สะกิด มั่นใจผลงานปีนี้โตต่อเนื่อง ด้านโบรกพร้อมใจเชียร์ "ซื้อ"

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(30 เมษายน 2563) นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยถึงมุมมองผลกระทบของสถานการณ์โรคระบาดไวรัส Covid-19 ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลกว่า ธุรกิจอาจมีการชะงักงันบ้างขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละประเทศในการบริหารจัดการ และการยกระดับมาตรการป้องกันความเสี่ยงของการระบาดไวรัส Covid-19 รวมทั้งเรื่องการเตรียมการและความสามารถในการกระจายสินค้าของแต่ละบริษัท

 

 

สำหรับซีพีเอฟนั้น เราได้มีการยกระดับความเสี่ยงเรื่องการระบาดไวรัส Covid-19 เป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ในระยะแรกฯ ของการแพร่กระจาย และได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนการเตรียมความพร้อมร่วมกับหลายหน่วยงาน เช่น การปรึกษาและทำงานร่วมกับกรมอนามัยในเรื่องความเพียงพอของระบบการป้องกันการกระจายโรคในโรงงานและฟาร์มต่างฯ พร้อมกันนั้น ซีพีเอฟได้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในเรื่องดังกล่าวกับบริษัทของซีพีเอฟในต่างประเทศอีก 16 ประเทศ ด้วยการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี และเป็นความโชคดีประเทศที่เป็นรายได้หลักของซีพีเอฟ ได้แก่ ไทย จีน และเวียดนาม มีการบริหารจัดการเรื่องการแพร่ระบาดไวรัส Covid-19 ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ซีพีเอฟไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว

 

 


นอกจากนี้ ซีพีเอฟ กำลังติตตามปัญหาเรื่องการขาดแคลนอาหาร ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดไวรัส Covid-19 ในสหรัฐ ทำให้การดำเนินธุรกิจโรงงานชำแหละไก่และหมู ไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ เพราะมีคนงานจำนวนหนึ่งติดเชื้อ Covid-19 ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบการในจีนหันมาซื้อสินค้าไก่สดไทยมากขึ้น

 

 


ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็น "ครัวของโลก" ซีพีเอฟ ได้ขยายธุรกิจไปตั้งฐานการผลิตในประเทศต่างๆ อีก 16 ประเทศทั่วโลก เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ที่ทันสมัย สนับสนุนเนื้อสัตว์คุณภาพและการแปรรูปเนื้อสัตว์ การขยายการผลิตอาหารพร้อมรับประทานเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามการขยายตัวของสังคมเมือง รวมทั้งส่งออกสินค้าอาหารไปยังประเทศต่างๆ อีกมากกว่า 30 ประเทศ โดยให้ความสำคัญด้านนวัตกรรมเพื่อให้ได้มาซึ่งระบบการผลิตที่ปลอดภัย มีต้นทุนการผลิตที่ลดลง รวมถึงมีกระบวนการทำงานที่ปลอดภัยมีสุขอนามัยสำหรับพนักงานและคนงานทุกคน

 

 


ฐานการผลิตของซีพีเอฟในประเทศต่างๆ อันรวมถึง จีน เวียดนาม กัมพูชา รัสเซีย ตุรกี ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ลาว อินเดีย และอเมริกา ได้ดำเนินนโยบายรับผิดชอบต่อสังคมต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัส Covid-19 เช่นเดียวกับประเทศไทย มีการให้ทำงานร่วมกันกระทรวงสาธารณสุขให้การให้การสนับสนุนอาหารให้แก่โรงพยาบาลของรัฐที่มีผู้ป่วยโควิด จำนวน 301 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 260 แห่ง และ 33 แห่งเป็นโรงพยาบาลในสังกัดอื่นๆ ส่งอาหารให้ครอบครัวคุณหมอและพยาบาล 30,000 ครอบครัว ส่งอาหารให้ผู้เฝ้าระวังที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ 20,000 คน รวมทั้งทำงานกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อช่วยเหลือชุมชน เช่น ในชุมชนคลองเตย 8,499 ครอบครัว รวมทั้งการช่วยเหลือคนไทยในประเทศต่างๆ เหล่านั้นอย่างเต็มกำลัง

 

 


บริษัทให้ความสำคัญเสมอด้านกระบวนการผลิตที่ปลอดภัยสำหรับพนักงานทุกคน ที่ไม่ก่อให้เกิดภาวะธุรกิจหยุดชะงัก ด้วย Covid-19 การดำเนินงานอาจมีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ความชะงักงันของการดำเนินการบางอย่างอาจเกิดขึ้น แต่เราจะต้องปรับตัวและวางแผนต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งแน่นอนเราได้เห็นความต้องการบริโภคลดน้อยลง แม้แต่ในธุรกิจเกษตรและอาหาร จากพฤติกรรมทางสังคมและการดำเนินการด้านการส่งออกของแต่ละประเทศที่เปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เหล่านี้เป็นผลกระทบระยะสั้น ดังนั้น เราต้องประเมินสถานการณ์และวางแผนงานปรับตัวให้สอดคล้องกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

 


นายประสิทธิ์ กล่าวปิดท้ายถึง ซีพีเอฟว่า ผลการดำเนินงานจะเติบโตจากปีที่แล้ว โดยหลังจากภาวะขาดแคลนสุกรที่เกิดขึ้นในประเทศจีน เวียดนาม ที่มีสัดส่วนยอดขายประมาณ 40% ของยอดขายรวมของบริษัท และการอ่อนค่าของเงินบาทที่จะเป็นผลบวกจากการแปลงค่าเงินรายได้จากกิจการต่างประเทศที่มีสัดส่วนประมาณ 67% ของยอดขายรวม ผลกระทบช่วงสั้นนี้อาจเกิดขึ้นจากภาวะเนื้อไก่ล้นตลาดในประเทศไทย แต่เชื่อว่าจะสามารถปรับตัวได้ในอนาคต

 

 

 

***บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน ที่ 35.80 บ.*****

 

คาดกำไรปกติ 1Q63 เติบโตสูงจากราคาหมูในเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและเริ่มรับรู้กำไรจาก HyLife ผลประกอบการปีนี้ยังมีแนวโน้มแข็งแกร่งจากราคาหมูในไทยและเวียดนามที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ขณะที่คาดว่าการระบาดของโควิด-19 มีผลกระทบจำกัด เราคงคำแนะนำ ซื้อ CPF ราคาเป้าหมาย 35.8 บาท ประกอบด้วย CPF 11.1 บาท ประเมินด้วย PER 15 เท่า (อ้างอิง PER เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี) และ CPALL 24.7 บาท จาก DCF (WACC 7.2%, LTG 4%)

 


เราประเมินว่ากำไรปกติเพิ่มขึ้น 17% QoQ และ 48% YoY เป็น 4,846 ล้านบาท แม้ยอดขายอาหารให้กลุ่ม Food Service ลดลงจากการระบาดของโควิด-19 แต่ถูกชดเชยด้วยยอดขายให้ร้านค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นจากการตุนสินค้าของผู้บริโภค อีกทั้งราคาเนื้อสัตว์อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะราคาหมูที่เวียดนามซึ่งเพิ่มขึ้น 15% QoQ และ 60% YoY เป็น 75,000 VND/กก. ราคาหมูในไทยอยู่ในระดับค่อนข้างสูงที่ 72 บาท/กก. (+20% QoQ, -1% YoY) ราคาไก่ทรงตัวที่ 35 บาท/กก. แต่ยังสูงกว่าต้นทุนซึ่งอยู่ที่ 33 บาท/กก. เราจึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 200bps YoY เป็น 16.1% นอกจากนั้น HyLife ซึ่งทำธุรกิจหมูครบวงจรที่แคนาดา ผลประกอบการดีกว่าคาดจากการส่งออกไปจีนและญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น โดย CPF เริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก HyLife ตั้งแต่ต้นปีนี้หลังจากเข้าลงทุนเมื่อปลายปีก่อน

 


ราคาหมูในเวียดนามปัจจุบันอยู่ที่ 72,000 VND/กก. และคาดว่าจะยืนในระดับสูงตลอดปี เนื่องจาก Supply ลดลงไปราว 30% จากโรค ASF ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงยังต่ำโดยอยู่ที่ 36,000 VND/กก. ส่วนราคาหมูในไทยลดลงเล็กน้อยมาที่ 68 บาท/กก. แต่ยังสูงกว่าต้นทุนที่ 58-60 บาท/กก. เราคาดว่าราคาหมูจะยังทรงตัวในระดับค่อนข้างสูงได้ในปีนี้ เนื่องจากภาวะภัยแล้งอาจกระทบต่อการเลี้ยงหมูของเกษตรกรรายย่อย อีกทั้งในต่างประเทศยังคงประสบปัญหาขาดแคลนหมูจากการระบาดของโรค ASF

 


การระบาดของโควิด-19 มีผลกระทบจำกัดต่อ CPF โดยในด้านการผลิตยังคงเป็นไปตามปกติ ด้านการขนส่งได้รับผลกระทบในบางช่วงแต่เป็นเพียงระยะสั้น ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ทั้งข้าวโพดและกากถั่วเหลืองยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งมีการลดค่าใช้จ่ายการตลาดลง อย่างไรก็ดี บริษัทให้ความระมัดระวังในการลงทุนโดยอาจชะลอการลงทุนบางส่วนในปีนี้



ความสี่ยง: ราคาเนื้อสัตว์ตกต่ำ ราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจโลกชะลอ โรคระบาด

 

 

 


***บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส แนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐาน ที่ 38.00 บ.***

 

คาดการณ์กำไร 1Q63 ออกมาน่าประทับใจเป็น 4.6 พันล้านบาท (+40.7% y-o-y, +9.4% q-o-q) แรงผลักดันมาจากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น ธุรกิจเนื้อหมูที่ไทยและเวียดนามมีราคาขายยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูงเป็นแรงหนุนนำ โดยเฉพาะราคาเนื้อหมูที่เวียดนามสูง ยังผลให้อัตรากำไรขั้นต้นออกมามาก อีกทั้งกำไรตามส่วนได้เสียจากบริษัทร่วมไตรมาสนี้ดีขึ้นเพิ่ม 8.5% เพราะรับรู้กำไรจาก Hylite ที่ซื้อมาปลายปีที่แล้วเต็มไตรมาส

 

เป็นหลักทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำกัด ปรากฎว่าราคาเนื้อสัตว์ยังแข็งแกร่งในสถานการณ์เช่นนี้เช่นเดียวกับราคาเนื้อไก่ในประเทศที่ฟื้นตัวดีขึ้นมาตั้งแต่กลางปี 62 สินค้าอาหารถือว่ามีความจำเป็น แม้ได้รับผลกระทบจากธุรกิจโรงแรมที่ซบเซาลง แต่ยิ่งกว่าทดแทนด้วยการจำหน่ายผ่านช่องทางการค้าปลีกต่างๆ ซึ่งจำหน่ายได้ดีมาก

 

งบดุลก็มีความแข็งแกร่ง คาดว่าจะยังช่วยสนับสนุนการเข้าซื้อเทสโก้ โลตัสให้เป็นไปอย่างราบรื่นได้ ณ สิ้นปี 62บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนเป็น 1.2 เท่า และมีข้อจำกัดกับสถาบันการเงิน (Debt Covenant) ที่ 2.0 เท่าหากต้องใช้เงินกู้ในการซื้อที่ราว 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนจะเพิ่มเป็น 1.5 เท่า ซึ่งยังต่ำกว่าข้อจำกัด

 

คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาพื้นฐานใหม่ปรับขึ้นเป็น 38.00 บาท จากเดิมที่ 37.00 บาท ซึ่งปรับขึ้นเพราะจำนวนหุ้นจะลดลงจากโปรแกรมการซื้อหุ้นคืน ทำให้กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เพิ่มขึ้นมา และประเมินด้วย P/E ปี 63 ที่ระดับ 20.0เท่า (-0.25 SD จากค่าเฉลี่ย 5 ปี) ราคาปิดมีส่วนเพิ่มได้อีกถึง 53% นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จาก Unlock Valueของ CPALL ที่ CPF ถืออยู่ด้วย

 

 

CPF

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

น้ำขึ้นให้รีบตัก By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดบวก หุ้นขึ้น วันนี้ น้ำขึ้นให้รีบตัก หรือเทขายกำไรไว้ก่อน ด้วยพรุ่งนี้ ตลาดเรา ...........

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้