Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : NER ออเดอร์จีนทะลัก-ปิดดีลลูกค้าใหม่ 2 ราย ดันผลงาน H2/63 สวย ทั้งปีโกยรายได้ 1.7 หมื่นลบ.

3,214

HotNews : NER ออเดอร์จีนทะลัก-ปิดดีลลูกค้าใหม่ 2 ราย ดันผลงาน H2/63 สวย ทั้งปีโกยรายได้ 1.7 หมื่นลบ.

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (2 มิถุนายน 2563) "ชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ " บิ๊กบอส NER มั่นใจผลงาน H2/63 ปรับตัวดีขึ้น หลังจีนกลับมามีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น-คว้าลูกค้าใหม่ 2 ราย พร้อมคงเป้ารายได้ปี 63 โต 50% แตะ 1.7 หมื่นลบ. -ยอดขาย 3.65 แสนตัน

 

 

 


นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก เนื่องจาก โรงงานของลูกค้าในประเทศจีนเริ่มกลับมาเดินเครื่องผลิตอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงส่งผลให้บบริษัทฯได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น

 

 


อีกทั้งยอดจำหน่ายรถเพื่อการพาณิชย์ในจีนเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง ซึ่งจากรายงานขององค์การศึกษาเรื่องยางระหว่างประเทศ(IRSG)ระบุว่ายอดจำหน่ายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ในประเทศจีนเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้ปรับเพิ่มขึ้นถึง 31.5% และมีแนวโน้มดีต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคม ดังนั้นหากการผลิตรถยนต์กลับมาเติบโตจึงเป็นผลบวกต่อการผลิตยางล้อด้วยเช่นกัน

 

 


นอกจากนี้บริษัทฯยังได้สัญญาระยะยาวจากลูกค้าใหม่เพิ่มเข้ามาอีก จำนวน 2 ราย ได้แก่ Triangle tyre ซึ่งมีคำสั่งซื้อกับบริษัทฯประมาณ 24,000 ตัน/ปีและ LLIT ซึ่งมีคำสั่งซื้อกับบริษัทฯประมาณ 48,000 ตัน/ปี ดังนั้นบริษัทฯยังคงมั่นใจว่ารายได้ปี 2563 จะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้ 17,000 ล้านบาท หรือเติบโต 50% จากปีก่อนที่ทำได้ 13,107.15 ล้านบาท และมียอดขายอยู่ที่ 365,000 ตัน ประกอบกับจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการตั้งค่าเผื่อจะขาดทุนเข้ามาจากไตรมาส 1/2563 ซึ่งจะช่วยให้กำไรสุทธิในไตรมาส 2/2563 ปรับตัวดีขึ้น และมองว่าจะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนน้อยลง ซึ่ง ณ เดือน พฤษภาคม 2563 ค่าเงินบาทอยู่ที่ 31 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ถือว่าค่อนข้างทรงตัวล้ว จากเดือนมีนาคมอยู่ที่ 32 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ

 

 

 

 

"เรามองว่าไตรมาส 1 มาถึงจุดต่ำสุดแล้วในเรื่องของราคาและเศรษฐกิจโลก ตอนนี้เราค้าขายกับจีนและ Brightstoneเป็นหลัก ทีนี้ปัจจุบันสถานการณ์ในจีนเริ่มดีโควิด-19คลี่คลายลงจีนก็หันมาสั่งสินค้ากับเราเยอะขึ้น แต่ทั้งนี้จากสถานการณที่ไม่แน่นอนบริษัทฯได้ปรับตัวด้วยการตั้งทีมขึ้นมาเพื่อจัดหาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งไปเยี่ยมลูกค้าจากปกติไม่เคยไป เพื่อไปเช็คดูว่าลูกค้ามีของหรือไม่ เราก็เชื่อว่าหลังจากนี้กราฟของ NERจะเป็นตัวเลขขาขึ้นครับ" นายชูวิทย์ กล่าว

 


ด้านความคืบหน้าโรงงานห่งใหม่ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยางอัดแท่งและยางอัดแท่งแบบผสม โดยมีกำลังการผลิต 172,800 ตัน/ปี ขณะนี้ได้เริ่มมีการผลิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 465,600 ตัน/ปี จากก่อนหน้านี้มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 292,800 ตัน/ปี อย่างไรก็ตามปีนี้บริษัทฯจะมีการเดินเครื่องจักรโรงงานแห่งใหม่เพียงแค่ 70% เท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามออรเดอร์ในปัจจุบัน ส่วนปีหน้าคาดว่าจะเดินเครื่องจักร 100%

 

 

ขณะที่ความคืบหน้าโครงการผลิตก๊าซชีวภาพ 2 แห่ง ได้แก่ โครงการ BIOGAS ANC กำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์ ปัจจุบันได้มีการเทสรันและเริ่มรับรู้รายได้เป็นที่เรียบร้อยแแล้ว ส่วนโครงการ BIOGAS HOCHREITER กำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเทสรันคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนนี้ และพร้อมรับรู้เป็นรายได้เข้ามาทันทีในเดือนสิงหาคม 2563 นายชูวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์ภัยแล้งว่าปัจจุบันบริษัทฯไม่มีความกังวลจากสถานการณ์ดังกล่าว เนื่องจาก เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีฝนตกที่ภาคอีสานมากกว่าปกติดังนั้นภัยแแล้งจึงไม่มีผลกระทบต่อบริษัทฯมากนัก

 

 

 

 


กุนซือหุ้นฟิลลิปฯ แนะซื้อ NER คาดกำไรปกติ 608 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 35% y-y

 


บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ (NER) สถานการณ์ COVID-19 ที่เกิดขึ้นส่งผลต่อบริษัททั้งลูกค้าเก่าและใหม่ โดยลูกค้าเก่าได้รับผลจากการล็อกดาวน์ในสหรัฐและยุโรปทำให้ลูกค้าจีนในประเทศไทยไม่สามารถส่งออกได้ ขณะที่ลูกค้าใหม่ก็ไม่สามารถเข้ามาตรวจโรงงานเพื่อทำการส่งมอบได้ อย่างไรก็ตาม มีลูกค้าใหม่ 2 รายที่จะส่งออกไปจีนที่จะเริ่มส่งออกในเดือน ก.ค. เป็นต้นไป ขณะที่โรงงานแห่งใหม่จะเริ่มผลิตได้ช้ากว่าแผนเดิมเล็กน้อย

 



ปรับลดประมาณการปี 2563 ลงจากเดิม การดำเนินงาน 1Q63 ออกมาต่ำกว่าคาด ประกอบกับแนวโน้มการขายในช่วงที่เหลือของปีดูอ่อนลงจาก COVID-19 ที่เกิดขึ้นทำให้การส่งออกของลูกค้าทำได้ยากขึ้นจากการล็อกดาวน์ในสหรัฐและยุโรป รวมถึงลูกค้าใหม่ที่จะมาตรวจโรงงานของบริษัทก็ไม่สามารถทำได้จึงส่งผลให้ปริมาณขายน้อยลงกว่าที่เคยคาดไว้ ประกอบกับการเริ่มต้นผลิตของโรงงานใหม่ทำได้ช้ากว่าที่เคยคาดเช่นกันทำให้ทางฝ่ายปรับลดประมาณการปี 2563 ลงจากเดิม ปรับยอดขายลงเหลือ 15,057 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 16% y-y ภายใต้การปรับลดปริมาณขายลงเหลือ 330,000 ตันเพิ่มขึ้น 18% y-y และปรับราคาขายลง 2% และมีการปรับ margin ขึ้นจากเดิมจากการขายยาง Mixture มากขึ้น คาดกำไรปกติ 608 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 35% y-y แต่การทำสัญญาการเงินภายใต้เงินบาทอ่อนค่าคาดว่าจะต้องรับรู้ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน โดยสัญญาดังกล่าวจะใช้หมดในครึ่งแรกของปี 2563 ส่งผลให้ปรับกำไรสุทธิลงเหลือ 458 ล้านบาทลดลง 15% y-y

 

 

 


แม้ในปีนี้ผลผลิตยางอาจไม่ได้รับผลจากภัยแล้งที่เกิดขึ้น แต่จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจาก COVID-19 ที่เกิดขึ้นทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทได้รับผลกระทบจากฐานลูกค้าหลักที่อยู่ในกลุ่มยานยนต์ ณ ราคาปัจจุบันทางฝ่ายคงแนะนำ "ซื้อ" แต่ปรับลดราคาพื้นฐานลงเหลือ 2.96 บาท

 

 

 

 

 

CMNT> NER: บล.เคทีบี (ประเทศไทย) แนะนำ "BUY" ราคาเป้าหมาย 3.10 บาท/หุ้น

North East Rubber

Sector : Agriculture


Bloomberg ticker NER TB
Recommendation BUY (maintained)
Current price Bt2.22
Target price Bt3.10 (maintained)
Upside/Downside +39%

 



กำไร 1Q20 ใกล้เคียงเราคาดแต่ต่ำกว่าตลาดคาด คาดฟื้นตัวในปลายปี
เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายที่ 3.10 บาท อิง PER ที่ 9x (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มยางที่ 13x) NER รายงานกำไรสุทธิใน 1Q20 ที่ 60 ล้านบาท -41% YoY และ -52% QoQ จากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ประมาณ 127 ล้านบาท เพราะค่าเงินบาทอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ประมาณ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯจากปีก่อนที่อยู่เพียง 29 บาท สำหรับกำไรปกติ = 187 ล้านบาท +113% YoY และ +91% QoQ กำไรปกติที่ออกมาดีเนื่องจากธุรกิจยางธรรมชาติได้ผลดีจากต้นทุนที่อ่อนตัวลง ผู้ประกอบการหลายรายออกจากอุตสาหกรรมไป ทำให้การแข่งขันแย่งซื้อวัตถุดิบยางธรรมชาติลดลง โดยบริษัทสามารถขายล่วงหน้าตั้งแต่เดือนพย.ปลายปีก่อนในราคาที่สูงขณะที่สามารถควบคุมต้นทุน ส่งผลให้ gross margin มีการปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 13.5% จาก 8.2% ใน 1Q19 และ 7.7%.ใน 4Q19 เราคงกำไรสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 546 ล้านบาท ทรงตัว YoY

 

 

โดยผลประกอบการอาจจะอ่อนลงหลังผ่านพ้นช่วงคำสั่งซื้อล่วงหน้าประมาณเดือนส.ค. ซึ่งเราได้มีการปรับลดกำไรไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าความต้องการจะฟื้นกลับมาในปลายปีจากการสถานการณ์ COVID-19 ผ่านพ้นจุด Peak และเริ่มฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้กำไรปกติในปี 2020F อยู่ที่ 546 ล้านบาท +20% YoY ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น +8% และ outperform SET +3% ใน 1 เดือนเพราะแนวโน้ม COVID-19 คลี่คลาย เรายังแนะนำ "ซื้อ" ปัจจุบัน NER เทรดที่ 2020E PER ที่ 6.0x ต่ำกว่ากลุ่มยางที่ 13x โดยมี key catalyst คือ ลูกค้าเริ่มกลับมาเดินการผลิตหลังจาก COVID-19 ผ่านพ้นจุด Peak

 

 

Event: 1Q20 Results review
กำไรสุทธิ 1Q20 ใกล้กับที่เราประเมินแต่ต่ำกว่าตลาดคาด กำไรปกติเติบโตดี แต่ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน NER รายงานกำไรสุทธิใน 1Q20 ที่ 60 ล้านบาท -41% YoY และ -52% QoQ จากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ประมาณ 127 ล้านบาท และรับรู้อีกประมาณ 29 ล้านบาทเพราะค่าเงินบาทอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ประมาณ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯจากปีก่อนที่อยู่เพียง 29 บาท สำหรับกำไรปกติ = 187 ล้านบาท +113% YoY และ +91% QoQ กำไรปกติที่ออกมาดีเนื่องจากธุรกิจยางธรรมชาติได้ผลดีจากต้นทุนที่อ่อนตัวลง

 

 

ผู้ประกอบการหลายรายออกจากอุตสาหกรรมไป ทำให้ภาวะการแข่งขันแย่งซื้อวัตถุดิบยางธรรมชาติลดน้อยลงไป โดยบริษัทสามารถขายล่วงหน้าตั้งแต่เดือนพย.ปลายปีก่อนในราคาที่สูงในช่วงประมาณ 139-143 เหรียญต่อกก.ขณะที่สามารถควบคุมต้นทุนยางอยู่ที่ประมาณ 125-130 เหรียญต่อกก ส่งผลให้ gross profit margin มีการปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 13.5% จาก 8.2% ใน 1Q19 และ 7.7%.ใน 4Q19 จากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น คงกำไรสุทธิปี 2020E เราคงกำไรสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 546 ล้านบาท ทรงตัว YoY โดยผลประกอบการอาจจะอ่อนลงใน 2Q20-3Q20F จากผลกระทบ COVID-19 รวมถึงช่วงหลังผ่านพ้นช่วงคำสั่งซื้อล่วงหน้าประมาณเดือนส.ค. ซึ่งเราได้มีการปรับลดกำไรไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าความต้องการจะฟื้นกลับมาในปลายปีจากการสถานการณ์ COVID-19 ผ่านพ้นจุด Peak ส่งผลให้กำไรปกติในปี 2020F อยู่ที่ 546 ล้านบาท +20% YoY

 

 

 

 

Valuation/Catalyst/Risk
ราคาเป้าหมายที่ 3.1 บาท อิง PER ที่ 6x (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มยางที่ 13x) โดยมี key catalyst คือ บริษัทยังมีเติบโตต่อเนื่องจากการขยายกำลังผลิต รวมถึงโรงงานของลูกค้าในจีนเริ่มกลับมาเดินการผลิต ขณะที่ความเสี่ยงคือ การฟื้นตัวจาก COVID-19 ล่าช้ากว่าที่คาดไว้

 

 

Analyst : Athipu Visavaveja, (Reg. no. 002546)

ที่มา: บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 12 พ.ค. 2563 บทวิเคราะห์ฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอและเผยแพร่บทวิเคราะห์ให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนทั่วไป โดยจัดทำขึ้นบนพื้นฐานของข้อมูลที่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชนอันเชื่อถือได้ และมิได้มีเจตนาเชิญชวนหรือชี้นำให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์แต่อย่างใด ดังนั้นบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้บทวิเคราะห์ฉบับนี้ทั้งทางทางตรงและทางอ้อม และขอให้นักลงทุนใช้ดุลพินิจพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุน

 

 

NER

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หุ้นใหญ่ มีแรง By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง มองเห็นหุ้นใหญ่หลายตัว เริ่มมีแรง มีเรี่ยวแรง กำลังวังชาอีกครั้ง เมื่อต่างชาติ เลี้ยวรถ ...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้