Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : PTT กำไรปีหมูทรุด 22.3% โบรกฯส่อง Q1/63 ไร้วี่แววฟื้นตัว

3,879

 HotNews : PTT กำไรปีหมูทรุด 22.3% โบรกฯส่อง Q1/63 ไร้วี่แววฟื้นตัว

 

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า บริษัทฯขอรายงานผลประกอบการปี 2562 โดยบริษัทฯมีกำไรสุทธิ ในปี 2562 มีจำนวน 92,951 ล้านบาท ลดลง 26,696 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 22.3 เนื่องจาก EBITDA ที่ลดลง และค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นของ GPSC และ PTTEP แม้ว่ามีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นจากค่าเงินบาทในปี 2562 ที่แข็งค่ามากกว่า ปี 2561 และผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ลดลง แม้ว่าค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ลดลงตามผลการดำเนินงาน

 

ทั้งนี้ ในปี 2562 ปตท. และบริษัทย่อยมี EBITDA จำนวน 288,972 ล้านบาท ลดลง 62,424 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 17.8จาก 351,396 ล้านบาท ในปี 2561 สาเหตุหลักจากผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นปรับลดลง เนื่องจากส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปกับน้ำมันดิบที่ลดลงในทุกผลิตภัณฑ์ แม้มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันในปี 2562 ขณะที่ปี 2561 มีขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน รวมถึงส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ปรับลดลง เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่มีผลการดำเนินงานลดลง โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ เนื่องจากราคาขายอ้างอิงปิโตรเคมีปรับลดลงมาก ในขณะที่ต้นทุนก๊าซธรรมชาติสูงขึ้น แม้ว่าปริมาณขายเพิ่มขึ้น

 


อย่างไรก็ตาม EBITDA ของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมปรับเพิ่มขึ้น โดยหลักจากการเข้าซื้อ GLOW ของ GPSC รวมถึง EBITDA ของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ นจากปริมาณขายเฉลี่ยเพิ่มขึ นจากการเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนเพิ่มในโครงการบงกช และการเข้าซื อกิจการของบริษัท Murphy และ Partex ของ PTTEP ทั งนี ในปี 2562กลุ่ม ปตท. มีค่าใช้จ่ายชดเชยพนักงานเพิ่มเติมตามประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ รวม 4,219 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการสำรวจปิโตรเลียมของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ น 2,470 ล้านบาทรวมถึง ปตท. รับรู้ค่าความเสียหายของคดีความ จ านวน 2,105 ล้านบาท และมีการตั งค่าเผื่อด้อยค่าท่อส่งก๊าซฯ จำนวน 498 ล้านบาท ในขณะที่ ปี 2561 มีการบันทึกค่าใช้จ่ายจากความเสียหายจากวัตถุดิบคงคลังของบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด(มหาชน) (GGC) จำนวน 2,004 ล้านบาท และการรับรู้ผลขาดทุนจากการขายสินทรัพย์แหล่งมอนทาราของ PTTEP จำนวน 1,886 ล้านบาท

 


พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ(บอร์ด) มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตรา 1.10 บาทต่อหุ้น พร้อมกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 4 มีนาคม 2563

 

 

 

**บล.เคทีบี ระบุ PTT ปี62 กำไรต่ำคาด แนะ "ถือ" ราคาพื้นฐาน 45 บ. ***

 

PTT เราคงคำแนะนำ "ถือ" และปรับลดราคาเป้าหมายมาที่ 45.00 บาท (เดิมที่ 47.75 บาท) อิง SOTP PTT รายงานกำไรสุทธิ 4Q19 ที่ 17,446 ล้านบาท (-11% YoY , -14% QoQ) ต่ำกว่าตลาดคาด -7% โดยมีรายการพิเศษค่าใช้จ่ายตามคำพิพากษา และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 1,626 ล้านบาท ถ้าไม่นับกำไรพิเศษ กำไรปกติจะอยู่ที่ 16,373 ล้านบาท -6% YoY, -6% QoQ โดยหลักมาจาก 1) ธุรกิจโรงแยกก๊าซที่ราคาขายอิงตามราคาปิโตรเคมีปรับลดลง และ2) ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่มีการปิดซ่อมบำรุงและส่วนต่างราคาปิโตรเคมีลดลง เราปรับประมาณการกำไรปี 2020E ลง -5% เหลือ 101,438 ล้านบาท +9% YoY โดยเป็นการปรับ 1) EBITDA ของธุรกิจก๊าซธรรมชาติลงจากราคาปิโตรเคมีที่อยู่ในระดับต่ำ 2)ปรับธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นลงตามที่เราปรับประมาณการบริษัทลูก แนวโน้ม 1Q20E คาดว่าจะยังอ่อนตัวจากโรงแยกก๊าซ 5 ที่มีการปิดซ่อม 20 วัน และธุรกิจปิโตรเคมีที่จะยังอ่อนตัวจากผลกระทบ COVID-19



ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1 เดือนปรับลดลง -3% จากผลประการของบริษัทลูกที่ออกมาทั้งดีและไม่ดีผสมกัน ปัจจุบันราคาหุ้นยังซื้อขายใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย EV/EVBITDA ที่ 5.7 เท่า

 


กำไรสุทธิต่ำตลาดคาด -7% PTT รายงานกำไรสุทธิ 4Q19 ที่ 17,446 ล้านบาท (-11% YoY , -14% QoQ) ต่ำกว่าตลาดคาด -7% โดยมีรายการพิเศษค่าใช้จ่ายตามคำพิพากษาข้อพิพาทกับ บริษัท Nacap 2,100 ล้านบาท และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 1,626 ล้านบาท ถ้าไม่นับกำไรพิเศษ กำไรปกติจะอยู่ที่ 16,373 ล้านบาท -6% YoY, -6% QoQ โดยหลักมาจาก 1) ธุรกิจโรงแยกก๊าซที่ราคาขายอิงตามราคาปิโตรเคมีปรับลดลง ในขณะที่ต้นทุนก๊าซปรับเพิ่มขึ้น และ 2) ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่มีการปิดซ่อมบำรุงและส่วนต่างราคาปิโตรเคมีลดลง

 


ปรับประมาณกำไรปี 2020E ลง 5% เราปรับประมาณการกำไรปี 2020E ลง -5% เหลือ 101,438 ล้านบาท +9% YoY โดยเป็นการปรับ 1) EBITDA ของธุรกิจก๊าซธรรมชาติลง -4% หรือประมาณ 3 พันล้านบาทจากราคาปิโตรเคมีที่อยู่ในระดับต่ำ และ 2)ปรับธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นลงตามบริษัทลูก (TOP,PTTGC และ IRPC) ที่เราปรับประมาณการลงไปก่อนหน้านี้ แนวโน้ม 1Q20E คาดว่าจะยังอ่อนตัวจากโรงแยกก๊าซ 5 ที่มีการปิดซ่อม 20 วัน และธุรกิจปิโตรเคมีที่จะยังอ่อนตัวจากผลกระทบ COVID-19

 


ปรับลดราคาเป้าหมายมาที่ 45.00 บาท (เดิมที่ 47.75 บาท) อิง SOTP ความเสี่ยงจากผลกำไรในธุรกิจปิโตรเคมีที่ยังไม่ฟื้นตัว โดยส่วนต่างราคายังอยู่ระดับต่ำ

 

 

 

**บล.ทิสโก้ แนะ "ถือ" ราคาพื้นฐาน 43 บ. **

 

PTT รายงานผลประกอบการที่ 1.74 หมื่นล้านบาท ลดลง 14% QoQ และ 11% YoY ในขณะที่มีการบันทึกกลับสต็อคและการดำเนินงานของธุรกิจนอกตลาดหนุนแล้ว แต่ PTT มีการบันทึกค่าใช้จ่ายจากคดีท่อก๊าซ 2 พันล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษแล้ว กำไรจากการดำเนินงานจะอยู่ที่ 1.65 หมื่นล้านบาท ลดลง 17% QoQ และ 42% YoY โดยการดำเนินงานที่แย่ลงมาจากธุรกิจโรงกลั่น และปิโตรเคมี ด้านผลประกอบการทั้งปีอยู่ที่ 1.19 แสนล้านบาท ลดลง 22% YoY และกำไรปกติ 8.69 หมื่นล้านบาท ลดลง 31% YoY

 

ธุรกิจก๊าซของ PTT เป็นปัจจัยกดดันหลัก โดยคิดเป็นสัดส่วนของ EBITDA ที่ 14% QoQ และ 27% YoY ด้านอัตรากำไรของโรงแยกก๊าซ (GSP) อยู่ที่ 20% QoQ และ 43% YoY ในขณะที่ราคาปิโตรเคมีลดลง แต่ต้นทุนเพิ่มขึ้น ด้านความสามารถในการทำกำไรลดลงจากน้ำมันที่กำมะถันสูง, รายได้จากก๊าซของกลุ่มนิคมที่ลดลง ในขณะที่ธุรกิจน้ำมันถูกกระทบจากอัตรากำไรที่ลดลง QoQ จากการปรับราคาช่วงปีใหม่ และมีต้นทุนการตลาดที่เพิ่มขึ้น

 

เราเชื่อว่าผลประกอบการของ PTT จะถูกกดดันต่อใน 1Q20F จากอัตราการผลิตของ GSP ที่ลดลงจากการปิดปรับปรุงตามกำหนดการ และราคากลางที่ต่ำกดดันอัตรากำไร และสุดท้ายการดำเนินงานของบริษัทลูกถูกกดดันจากการปิดปรับปรุง



เราแนะนำให้ "ถือ" โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 43 บาท (SOTP) มีความเสี่ยงคือ การปิดปรับปรุงโรงงานนอกกำหนดการ และประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม

 

 


**บล.ธนชาต แนะ "ขาย " ราคาพื้นฐาน 40 บ. **


PTT รายงานกำไรสุทธิ 4Q19 ที่ 17.45 พันลบ. (กำไรต่อหุ้น 0.61บาท) ลดลง 11% y-y, 14% q-q ไม่รวมกำไร/ขาดทุนที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงาน แต่รวมถึงผลจากสินค้าคงคลัง เราคาดว่ากำไรปกติจะอยู่ที่ 15.97 พันลบ. (กำไรปกติต่อหุ้น 0.56 บาท) ลดลง 12% y-yและ 12% q-q หากเราต้องปรับผลกระทบจากมูลค่าสินค้าคงคลังที่บริษัทร่วม กำไรจะอยู่ที่ราว 16.95 พันลบ. -44% y-y, -14% q-q ผลการดำเนินงานต่ำกว่าที่เราคาดไว้ เนื่องจากผลกำไรจากธุรกิจก๊าซที่อ่อนตัวนอกเหนือจากธุรกิจปลายน้ำที่พลาดเป้า แนะนำ “ขาย”

 

ก๊าซ: EBITDA ของก๊าซลดลงมาอยู่ที่ 15.5 พันลบ. ลดลง 27% y-y,14% q-q กดดันโดยโรงแยกก๊าซ (GSP) โดย EBITDA ลดลง 59%y-y, 37% q-q เหลือเพียง 2.58 พันลบ. เนื่องจากราคา HDPE และPP ที่ลดลง ยอดขายก๊าซให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมยังได้รับผลกระทบในทางลบจากราคา HSFO ที่ลดลง EBITDA ของ S&Mลดลง 33% y-y, 6% q-q เป็น 3.49 พันลบ. ปริมาณขายก๊าซรวมอยู่ที่ 4,704mmcfd, flat y-y และ q-q

 

น้ำมัน: EBITDA จากธุรกิจน้ำมันอยู่ที่ 3.36 พันลบ. เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% y-y (ฐานที่ต่ำใน 4Q18) แต่ลดลง 22% q-qเนื่องจากอัตรากำไรที่ลดลงและขาดทุนจากสต็อก อัตรากำไรอยู่ที่1.03 บาทต่อลิตร ใน 4Q19 เทียบกับ 1.07 บาทต่อลิตร ใน 3Q19ปริมาณการขายรวมอยู่ที่ 6.78 พันล้านลิตร +4% y-y, +9% q-qPTT มีสถานีบริการ 2,200 แห่ง (ทั้งในและต่างประเทศ) ณ ปลายปี 2019 เพิ่มขึ้นประมาณ 170 แห่ง y-y

 

ธุรกิจ downstream : ส่งนแบ่งกำไรจากธุรกิจเคมีภัณฑ์และการกลั่นยังคงอ่อนแอ โดยรายงานผลขาดทุนจากการดำเนินงาน -1.64 พันลบ. เทียบกับขาดทุน 227 ลบ. ใน 3Q19

 

รายการที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงาน ประกอบด้วยกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 3.7 พันลบ. และขาดทุนจากการทำการป้องกันความเสี่ยง 1.66 พันลบ., ค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องดำเนินคดี รวมทั้งการตั้งสำรองสำหรับผลกระทบท่อก๊าซจากการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง 2.6 พันลบ.

 

 

PTT

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ลุ้น กันต่อ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็น นักลงทุนยังคงชะลอลงทุน หลังมีข่าว อิสราเอล จะตอบโต้อิหร่าน ......

ขายทำรอบ By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง เห็นวานนี้ ต่างชาติทิ้งหนักเกือบ 6.4 พันล้านบาท แต่รายย่อยซื้อสุทธิ 6.8 พันล้านบาท ท่ามกลางความ..

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้