HotNews : WHA ลั่นปี 63-67 อัดงบลงทุน5.2 หมื่นลบ.
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(29 มกราคม 2563) "จรีพร จารุกรสกุล" บิ๊กบอส WHA คาดปี 63 กำไรนิวไฮต่อเนื่อง-ตั้งเป้ารายได้โต 15% -Ebitda Margin ที่ 40% ตามการขยายธุรกิจ ส่วนเป้ายอดขายที่ดิน 1,400 ไร่ พร้อม ทุ่มงบปี 63-67 ที่ 5.2 หมื่นลบ. ลุยลงทุนขยายธุรกิจต่อเนื่อง เผย เล็งสร้างนิคมฯแห่งที่ 11 - ขยายนิคมฯดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด4 พร้อมพัฒนานิคมฯใหม่อีก 3 แห่งในปี 66 ทั้งยังเล็งออกหุ้นกู้ มูลค่า 7.5 พันลบ. ช่วงมี.ค.นี้ ระบุมีแผนซื้อโครงการน้ำปะปาในเวียดนาม คาดชัดเจน Q2/63 พร้อมเตรียมเซ็นสัญญาโซลาร์รูฟ 15 MW ดันกำลังการผลิตโซลาร์รูฟแตะ 50 MW จากปัจจุบัน 35 MW
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group เปิดเผยว่า สำหรับแผนการดำเนินงานปี2563 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ และส่วนแบ่งกำไรเติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 13,500 ล้านบาท ขณะที่มั่นใจว่ากำไรสุทธิจะสร้างสถิติสูงสุใหม่ต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) อยู่ที่ 40% ซึ่งเป็นไปตามการเติบโตของธุนกิจ รวมถึงโครงการใหม่ที่กำลังจะแล้วเสร็จ ซึ่งปีนี้บริษัทฯจะรักษายอดขายและรายได้ประจำให้มีความสมดุลกัน
ขณะที่ บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ 1,400 ไร่แบ่งเป็นในประเทศไทย 1,200 ไร่ และในเวียดนาม 200 ไร่ ส่วนการสร้างโครงการใหม่และยอดเช่าพื้นที่โลจิสติกส์รวม 250,000 ตารางเมตร ซึ่งบริษัทฯยังคงมองหาโอกาสจับมือกับพันธมิตรในระยะยาว โดยเฉพาะในด้านอีคอมเมิร์ซ โดยจะเน้นไปที่สินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดมูลค่าสูงในอุตสาหกรรมเป้าหมายต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ การแปรรูปอาหาร ตลอดจนการบิน โลจิสติกส์ และโรโบติกส์
นอกจากนี้ ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ จะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างคุณลักษณะใหม่ ๆ ให้กับคลังสินค้าอัจฉริยะ โครงการใหม่ ๆ ที่เตรียมเปิดตัว รวมถึงโครงการอีคอมเมิร์ซและการเช่าใหม่ นอกเหนือจากพื้นที่คลังสินค้าที่มีอยู่ในประเทศไทยและในอินโดนีเซียแล้ว ดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์ ยังมองหาโอกาสการขยายธุรกิจเพิ่มเติมในเวียดนามด้วย ทั้งนี้ในปี 2563 ยังมีแผนขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ราว 150,000 ตร.ม.
ขณะที่วางงบลงทุน 5 ปี ( 2563-2567 ) จำนวน 52,000 ล้านบาท รองรับขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯยังตั้งเป้าอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุนไม่เกิน 1 เท่า พร้อมกันนนี้บริษัทฯยังมีแผนออกหุ้นกู้มูลค่ากว่า 7,500 ล้านบาท ในช่วงเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งบริษัทฯยังคงมีแผนออกหุ้นกู้อย่างต่อเนื่อง
"สำหรับไวรัสโคโรนามองว่ามีผลกระทบกับเราช่วงนึง คือทำให้ลูกค้าที่จะเดินทางมาเซ็นสัญญากับเรา เลื่อนไปก่อนแต่มองว่ากระทบไม่มากนัก ก็มั่นใจในตัวประธานนาธิบดี สี จิ้น ผิง ว่าจะสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้ ส่วนเรื่องอาลีบาบา เราก็พูดได้ไม่เยอะแต่เอาเป็นว่าทุกอย่างดำเนินการตามแผน รวมถึงลูกค้ารายอื่นๆด้วย" นางสาวจรีพร กล่าว
ส่วนดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ (WHAID) ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำในประเทศไทย ด้วยการสร้างนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 11 ของกลุ่ม (นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36) ในช่วงปลายปี 2563 และขยายนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 4 และพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหม่อีก 3 แห่งภายในปี 2566
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเปิดรับนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้งานเพื่อประโยชน์ของลูกค้า ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จะพัฒนาแนวคิด “Smart Eco Industrial Estates” ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เร่งนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้กับทุกบริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ตั้งแต่ระบบการติดตามออนไลน์ เพื่อมุ่งสู่การพัฒนา “ระบบขนส่งอัจฉริยะ” (Smart Mobility) ไปจนถึงการควบคุมจราจรและการใช้โดรนเพื่อสร้าง “ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ” (Smart Security) หรือระบบ FTTx และคลาวด์ เพื่อขับเคลื่อน “การสื่อสารอัจฉริยะ” (Smart Communication) พร้อมนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้กับระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ด้วย อาทิ การวัดมิเตอร์น้ำ สมาร์ทกริดและการวัดการใช้ไฟฟ้า
สำหรับในเวียดนาม WHAID จะพยายามเร่งยอดขายเพื่อดึงดูดนักลงทุนมายังเขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1 – เหงะอาน หนึ่งในโครงการที่ได้มาตรฐานสูงสุดในพื้นที่ภาคกลางตอนเหนือ ของประเทศเวียดนาม ในขณะเดียวกันบริษัทจะพัฒนาพื้นที่ส่วนที่เหลือของเขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1 – เหงะอาน เฟส 1 ทั้งนี้ยังอยู่ในระหว่างการขออนุมัติใบอนุญาตจากรัฐบาลเวียดนาม
ด้าน ดร.นิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) กล่าวว่า บริษัทฯจะขยายธุรกิจ พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการน้ำรูปแบบใหม่ และเสริมพอร์ทด้านพลังงานด้วยนวัตกรรมโซลูชันพลังงาน ด้านสาธารณูปโภค ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จะขยายการให้บริการไปยังกลุ่มลูกค้านอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม และจะให้บริการโซลูชันทรัพยากรน้ำหลากหลายรูปแบบ ทั้งการบำบัดน้ำเสียและปรับปรุงคุณภาพน้ำ (Wastewater Reclamation) การผลิตน้ำที่ปราศจากแร่ธาตุ (Demineralized Water) และการนำน้ำทะเลมาผลิตเป็นน้ำจืด
พร้อมกันนี้ บริษัทฯยังมีแผนซื้อโครงการน้ำปะปาในเวียดนามด้วยเช่นกัน คาดเห็นความชัดเจนไตรมาส2/2563 ซึ่งในปีนี้บรษัทฯตั้งเป้ามีปริมาณน้ำอยู่ที่ 147 ล้านลูกบากศ์เมตร เติบโตจากปีก่อนที่ทำได้ 110 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนปัญหาภัยแล้ง มองว่าไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจเนื่องจากบริษัทฯได้มีแผนสำรองด้วยการกักเก็บน้ำในนิคมทุกแห่งรวมกว่า 1 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมองว่าเพียงพอต่อการความต้องการ
ส่วนธุรกิจพลังงานปีนี้บริษัทฯจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าขยะ กำลังการผลิต 8.6 เมกะวัตต์ เข้ามาแบบเต็มปีหลังจากได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปเมื่อปี 2562 ส่วนโครงการโซลาร์รูฟท็อปบริษัทฯมีแผนเซ็นสัญญาติดตั้งเพิ่ม 15 เมกะวัตต์ ภายในปีนี้ โโยจะเริ่มทยอยติดตั้งแต่ไตรมาส1/2563 จำนวน 5 เมกะวัตต์ ซึ่งจะส่งผลให้ปีนี้บริษัทฯมีกำลังการผลิตโซลาร์รูฟท็อปทั้งสิ้น 50 เมกะวัตต์ จากปัจจุบัน 35 เมกะวัตต์
บล.เคจีไอ แนะซื้อ WHA เคาะเป้าปี 63 ที่ บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า คาดว่ากำไรสุทธิของ WHA ใน 4Q62 จะอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท (-20% YoY, +106% QoQ) ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิปี 2562F เป็นไปตามประมาณการของเราที่ 3.2 พันล้านบาท (+10% YoY) เราคาดว่ายอดขายที่ดินใน 4Q62 จะอยู่ที่ 500 ไร่ จากอุปสงค์ของลูกค้าชาวจีน ซึ่งเป็นสัญญาณดีต่อทิศทางอุปสงค์ปี 2563 ราคาหุ้นลดลงมาถึงกว่า 20% ในช่วงเดือนที่ผ่านมาทั้งที่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไป โดยเราคาดว่าราคาหุ้นที่ตกลงมาเป็นการสะท้อนถึงกระแสข่าวลบ (การเมือง) เรายังคงคำแนะนำซื้อ WHA และให้ราคาเป้าหมาย SOTP ปี 2563 ที่ 5.60 บาท
คาดว่ากำไรสุทธิของ WHA ใน 4Q62 จะอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท (-20% YoY, +106% QoQ) ทำให้กำไรสุทธิปี 2562F เป็นไปตามประมาณการของเราที่ 3.2 พันล้านบาท (+10% YoY) ทั้งนี้ บริษัทจะทำธุรกรรมขายสินทรัพย์ออกไปให้ WHART ใน 4Q62 (พื้นที่รวม 157,000 ตรม.) ทำให้กำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ QoQ แต่อย่างไรก็ตาม
เนื่องจากไม่มีการขายสินทรัพย์ออกไปให้ HREIT ใน 4Q62 จากที่มีการขายออกไป 16,000 ตรม. ใน 4Q61 จึงทำให้กำไรลดลง YoY
ยอดขายที่ดิน: เราคาดว่ายอดขายที่ดินใน 4Q62 จะอยู่ที่ 500 ไร่ (-29% YoY, +63% QoQ) จากอุปสงค์ของลูกค้าชาวจีน (~70%% ของยอดขายที่ดิน) ส่งผลให้ยอดขายที่ดินในปี 2562 อยู่ที่ 1,065 ไร่ (+15% YoY) จากสมมติฐานของเราที่ 1,000 ไร่ และเป้าของบริษัทที่ 1,400 ไร่ (ในประเทศไทย)ยอดโอนที่ดิน: เราคาดว่ายอดโอนที่ดินใน 4Q62 จะอยู่ที่ 200 ไร่ (ทรงตัว YoY แต่ลดลง 17% QoQ) จาก backlog ที่ ~350 ไร่เมื่อสิ้นงวด 3Q62 ทำให้ยอดโอนที่ดินปี 2562 เพิ่มขึ้น 67% YoY เป็น 1,075 ไร่ จากสมมติฐานของเราที่ 1,058 ไร่
คาดผลการดำเนินงานใน 1Q63 ดีขึ้น YoY จากฐานยอดโอนที่ดินที่ต่ำเพียง 150 ไร่ใน 1Q62 ในขณะที่ผลการดำเนินงานจะลดลง QoQ เนื่องจาก i) ไม่มีการขายสินทรัพย์ให้กอง REIT และ ii) ธุรกรรมขาย e-commerce park ยังไม่เรียบร้อย (พื้นที่รวม 130,000 ตรม.) ตามกำหนด (14 มกราคม 2563) โดยมีการขยายเวลาไปจนถึงสิ้นปี 2563 ซึ่งหากลูกค้าทำธุรกรรมไม่เสร็จภายในกำหนด บริษัทก็อาจจะนำออกขายให้กองทุน WHART แทน
ราคาหุ้นร่วงแรงแต่ปัจจัยพื้นฐานยังเหมือนเดิม ราคาหุ้นลดลงมาถึงกว่า 20% ในช่วงเดือนที่ผ่านมาทั้งที่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไป โดยเราคาดว่าราคาหุ้นที่ตกลงมาเป็นการสะท้อนถึงกระแสข่าวลบ (การเมือง) เรามองว่ายอดการยื่นขอสิทธิประโยชน์ BOI ในปี 2562 ที่สูงถึง 7.56 แสนล้านบาท (เกินเป้าของ BOI ที่ 7.50 แสนล้านบาท) เป็นสัญญาณดีสำหรับอุปสงค์ที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ดังนั้น เราจึงยังคงสมมติฐานยอดขายที่ดินในประเทศไทยในปี 2563 ที่ 1,200 ไร่ และปี 2564 ที่ 1,500 ไร่ และยอดขายที่ดินในประเทศเวียดนามไว้ที่ปีละ 200 ไร่ โดยคาดว่กำไรสุทธิในปี 2563 จะโต 29%
ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" WHA และให้ราคาเป้าหมาย SOTP ปี 2563 ที่ 5.00 บาท เราแนะนำให้จับตาดูยอดขายที่ดินที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นใน 2H63 ซึ่งจะช่วยยืนยันแนวโน้มที่เป็นบวกของอุตสาหกรรมจากการย้ายฐานการผลิต และนโยบาย EEC
Risks : ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical risks) เศรษฐกิจชะลอตัว ภัยธรรมชาติ การซื้อที่ดิน การกระจุกตัวของอุตสาหกรรม เงินทุนไม่เพียงพอ
WHA