Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : เปิดโผ บจ. ปั้มกำไรโค้ง 2 โตแรง

3,661

HotNews : เปิดโผบจ. ปั้มกำไรโค้ง 2 โตแรง

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (9 สิงหาคม 2562) ทีมข่าวหุ้นอินไซด์ เฟ้นหา บจ.ปั้มกำไรโค้ง 2/62 โตแรง พบ TFG กำไรติดเทอร์โบ 133.41% , TITLE โชว์กำไร Q2/62 พุ่ง 624.40% , BIZ อวด Q2/62 มีกำไรสุทธิ 26.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 567.62% จากงวดเดียวกันปีก่อน ,WHA ประกาศกำไรQ2/62 โต 247.1 % ด้าน WHAUP ไตรมาส 2/62 มีกำไรเพิ่มขึ้น 189.8% , CBG ระบุ Q2/62 ติดปีกกำไรโต 163% , TBSP ประกาศQ2/62 กำไรสุทธิ 99 ลบ. โต 857% , NOBLE ฟันกำไร Q2/62 โต 137% ,SEAOILแจง Q2 กำไรติดจรวด 506.80% ,AMA ปลื้มกำไร Q2/62 โต 181.85%

 

 

 

 

 

 

TFG ติดเทอร์โบกำไรไตรมาส 2/62 โตสนั่น 133.41% หลังราคาขายไก่-สุกร ฟื้นตัวแรง

 

นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิ 518.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 133.41% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 222.14 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 7,290.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.61%จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 6,712.07 ล้านบาท

 


ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 62 มีกำไรสุทธิ 722.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 548.83 % จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 111.38 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 14,114.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.59% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 13,366.63 ล้านบาท "ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาเนื้อสัตว์ทั้งไก่ และสุกร ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการการบริโภคไก่มากขึ้น ภายหลังจากเกิดโรคระบาด ASF ของสุกรในประเทศจีน และเกิดภาวะขาดแคลนสุกรทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้น จึงเป็นตัวเร่งผลักดันให้ราคาขายและปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นมากในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้"นายวินัยกล่าว

 


ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ลดต้นทุนจากการบริหารจัดการให้ดีขึ้น เช่น การบริหารจัดการการเก็บสินค้าคงเหลือ การบริหารจัดการระบบการขนส่ง การจัดการสั่งซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์ รวมทั้งบริษัทฯยังลดต้นทุนจากการเพิ่มประสิทธิภาพของไลน์ผลิตจากการลงทุนในเครื่องจักร Automation ซึ่งจะทำให้ลดต้นทุนจากการดำเนินการได้ดีขึ้น จนทำให้ความสามารถทำกำไรมีทิศทางที่ดีขึ้นได้ในส่วนของธุรกิจอาหารสัตว์ในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น หลังจากที่บริษัทฯได้มีการเพิ่มกำลังการผลิตอาหารสัตว์ เพื่อขายให้กลุ่มลูกค้านอกเครือมากขึ้นนอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท โดยขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล ( XD) ใน วันที่ 22 สิงหาคม 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน 2562

 


อย่างไรก็ตาม แนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลัง ยังเชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ หลังจากที่บริษัทฯพยายามเจาะตลาดใหม่ๆ และส่งสินค้าใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) สูง เข้าไปบุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีดีมานด์เป็นจำนวนมาก โดยในช่วงที่ผ่านมาได้มีการขยายการลงทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และขีดความสามารถการแข่งขัน รองรับการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

 

 

 

 


TITLE โชว์กำไร Q2/62 พุ่ง 624.40% - ครึ่งปีแรกทะลัก


นายศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 179.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 715.75% จากงวดเดียวกันปีก่อนกำไรอยู่ที่ 21.96 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 883.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 431.30% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 166.35 ล้านบาท

 


ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิ 64.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 624.40% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 8.89 ล้านบาท และรายได้รวมเท่ากับ 357.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 343.19% จากงวดเดียวกันปีก่อนรายได้รวมเท่ากับ 80.68 ล้านบาท ปัจจัยที่ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตได้ดี เนื่องจาก บริษัทฯได้ทยอยรับรู้รายได้จากยอดโอนของโครงการคอนโดมิเนียม หาดในยาง จังหวัดภูเก็ต อย่างต่อเนื่องทั้ง 2 เฟส ซึ่งในโครงการดังกล่าว ยังมียอดโอนที่จะต้องรับรู้ไปจนถึงปีหน้า

 


"ในครึ่งแรกของปีนี้มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะทยอยรับรู้ยอดโอนจากโครงการเดิม และคาดว่าครึ่งปีหลังยังจะรักษาการเติบโตที่ดีได้ต่อเนื่อง เพราะสามารถทยอยรับรู้ยอดโอนต่อไปได้อีกถึงต้นปีหน้า บริษัทฯมั่นใจว่ากำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตยังมีการเติบโตได้ดี และจะช่วยสนับสนุนให้มีผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้"

 


นายศศิพงษ์กล่าวต่อว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจปีนี้ มั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้แตะ1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากโครงการอสังหาฯที่เปิดในแต่ละหาด ได้รับการตอบรับจากชาวต่างชาติทั่วโลกอย่างดีเยี่ยม รวมถึงชาวไทยในตลาดกลางถึงบน ก็ให้การตอบรับดีเช่นกัน ถือเป็นอสังหาริมทรัพย์ทางเลือกของจังหวัดภูเก็ต ที่ตอบโจทย์ลูกค้าชาวต่างชาติ และชาวไทยได้อย่างลงตัว เปิดทางให้ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์โดยไม่ต้องเช่า แต่สามารถตีกลับเป็นรายได้จากการเช่า ซึ่งถือเป็นรูปแบบการลงทุนที่คุ้มค่านอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทฯเตรียมแผนงานที่จะเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลัง โดยขณะนี้ได้ทยอยซื้อที่ดินไว้แล้วประมาณ 70-80 ไร่ เพื่อใช้พัฒนาโครงการระยะยาว และสร้างการเติบโตในอนาคตได้เป็นอย่างดี

 

 

 

 

 


BIZ อวดกำไร Q2/62 โต 567.62%

นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIZ ดำเนินธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายและติดตั้งชุดเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยวิธีรังสีรักษา และให้บริการซ่อมบำรุงรักษาชุดเครื่องมือทางการแพทย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/62 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 26.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 567.62% จากงวดเดียวกันกับปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.90 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 207.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 225.96% จากงวดเดียวกันกับปีก่อนมีรายได้รวม 63.52 ล้านบาท

 

สำหรับผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 มีกำไรสุทธิ 30.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 17.79 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 303 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83% จากงวดเดียวกันกับปีก่อนมีรายได้รวม 165.5 ล้านบาท "การดำเนินธุรกิจในครึ่งแรกของปีนี้อยู่ในทิศทางที่ดีตามที่คาดการณ์ไว้ มีการส่งมอบงานโครงการใหญ่ตามกำหนด โดยบริษัทเดินหน้าประมูลงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลัง เชื่อว่ายังมีแนวโน้มที่ดี และจะทำให้ผลงานปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้" นายสมพงษ์กล่าว

 


ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 664.69 ล้านบาท เนื่องจากมูลค่างานในมือจำนวนมากที่ยังรอรับรู้รายได้จากการส่งมอบงาน อีกทั้งยังเดินหน้าขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โอกาสในการเติบโตในตลาดยังมีอีกมาก

 

 

รวมทั้งเร่งเดินหน้าสร้างโรงพยาบาล แคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี มูลค่า 500 ล้านบาท ขณะนี้มีความคืบหน้าเกือบ 100% คาดพร้อมเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้ อย่างแน่นอน จะแบ่งการรักษาออกเป็น 2 ประเภทได้แก่ การรักษาด้วยการฉายรังสี และการรักษาด้วยเคมีบำบัด เน้นการควบคุมคุณภาพการรักษาให้ได้มาตรฐาน โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งโดยเฉพาะ ทำให้มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ขนาดให้บริการรองรับผู้ป่วยพักค้างคืน จำนวน 30 เตียง และเครื่องฉายรังสีเริ่มต้น 1 เครื่อง

 

 

 

 

WHA ประกาศกำไร Q2/62 โต 247.1 %

 

 

บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) WHA เปิดเผยว่า สําหรับงวด 3 เดือนของไตรมาส 2 และ 6 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทฯ รายงานกําไรสุทธิ เท่ากับ 1,051.9 และ 1,458.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 748.9 และ 375.6 ล้านบาท หรือเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 247.1 และ 34.7 ตามลําดับ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ประเด็นสําคัญรายได้รวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 51.9 และ 25.7 สําหรับงวด 3 เดือนของไตรมาส 2 และ 6 เดือนแรกของปี 2562 ตามลําดับ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อ การลงทุน รวมถึงการเพิ่มขึ้นรายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม

 

 


อย่างไรก็ตามถ้าไม่รวมผลกระทบ จากอัตราแลกเปลี่ยน รายได้รวมจากการดําเนินงานปกติจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.5 และ 19.6 ตามลําดับ รายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 48.2 และ 32.3 สําหรับงวด 3 เดือนของไตรมาส 2 และ 6 เดือนแรกของปี 2562 ตามลําดับ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจํานวนที่ดินที่โอนมาก ขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายที่ดินจํานวนมากในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้อัตรากําไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 61.4 และ 57.0

 


สําหรับงวด 3 เดือนของไตรมาส 2 และ 6 เดือนแรกของปี 2562 ตามลําดับ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกัน ของปีก่อน โดยสาเหตุหลักจากการปรับราคาขายที่ดินและการบริหารต้นทุนการก่อสร้างที่ดีขึ้น รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 45.0 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากบริษัทบันทึกรายได้รอการตัดบัญชีจากการจําหน่ายทรัพย์สินให้แก่ทรัสต์เพื่อการลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ (“WHABT") เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เพราะว่ายังคงมีภาระค่าใช้จ่ายในอนาคตตามสัญญารับประกันกําไรจากการดําเนินงานขั้นต่ํา

 

 

จึงพิจารณา ว่าความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีนัยสําคัญยังไม่ได้โอนไปยังผู้ซื้อ ต่อมาในระหว่างงวดพ.ศ. 2562 บริษัทกลับ รายการรายได้รอการตัดบัญชีดังกล่าว จํานวนเงิน 2,100.6 ล้านบาท เข้างบกําไรขาดทุนเบ็ดเสร็จในงวดนี้ เนื่องจากบริษัทพิจารณาทบทวนภาระค่าใช้จ่ายในอนาคตตามสัญญารับประกันกําไรจากการดําเนินงานคงเหลือ พบว่าความเสี่ยงและผลตอบแทนที่มีอยู่ไม่มีนัยสําคัญแล้ว ต้นทุนทางการเงินลดลงร้อยละ 17.6 และ 14.5 สําหรับงวด 3 เดือนของไตรมาส 2 และ 6 เดือนแรกของปี 2562 จากการลดลงของต้นทุนทางการเงินเฉลี่ย ซึ่งเป็นผลมาจากการคืนเงินกู้และหุ้นกู้ด้วยการออกหุ้นกู้ที่มีต้นทุน ทางการเงินที่ต่ํากว่า

 

 

 

 


WHAUP ไตรมาส 2/62 มีกำไรเพิ่มขึ้น 189.8%



นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2562 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม จำนวน 475.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนจำนวน 752.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 204.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เหตุผลหลักมาจากโครงการโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ได้กลับมาดำเนินการผลิตเต็มประสิทธิภาพได้ตามแผนบำรุงรักษา

 

 

พร้อมผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งตั้งแต่วันที่ 9 เดือนกุมภาพันธ์ 2562 กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 162.3 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2562 และโครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ เอ็นแอลแอล 2 ที่เริ่ม COD ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2562 โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 857.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (Normalized Net Income) ซึ่งเป็นการปรับด้วยกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 695.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

 


ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 934.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% เมื่อเทียบจากปีก่อน และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนจำนวน 1,091.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.5% เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยในจำนวนนี้ประกอบด้วยกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 256.9 ล้านบาทใน 6 เดือนแรกปี 2562 โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของจำนวน 1,281.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.6%

 

 

เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติของบริษัทฯ จำนวน 1,024.9 ล้านบาท มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 28.0% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ด้านธุรกิจพลังงาน โครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ เอ็นแอลแอล 2 มีกำลังการผลิตตามติดตั้งรวม 127 เมกกะวัตต์ หรือคิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 32 เมกะวัตต์ ได้เริ่ม COD ในเดือนมกราคม ปี 2562 และการทยอย COD ของโครงการ Solar Rooftop ส่งผลให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ อยู่ที่ 554 เมกะวัตต์

 

 


ส่วนการลงทุนโครงการ Solar Rooftop ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการเซ็นสัญญาใหม่ในปีนี้ทั้งหมด 13.9 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าทั้งปีจะทะลุเป้า 15.0 เมกะวัตต์ โดยมีโครงการที่ COD แล้วทั้งหมด 7.1 เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 20.3 เมกะวัตต์ ซึ่งตามแผนจะทยอย COD ในไตรมาส 3/2562 –ไตรมาส 1/2563 อีกทั้งโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ขนาด 8.6 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4/2562

 


นอกจากนี้ธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติโครงการ ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด เอ็นจีดี 4 ในนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งสามารถรองรับการจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติได้ถึง 2,000,000 ล้านบีทียูต่อปี และถือเป็นโครงการที่ 2 หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติโครงการ ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด เอ็นจีดี 2 ในช่วงปลายปี 2561

 


สำหรับภาพรวมธุรกิจบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าการขยายธุรกิจสาธารณูปโภคทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยในส่วนของการดำเนินการธุรกิจสาธารณูปโภคด้านน้ำล่าสุดบริษัทฯ ได้เซ็นต์สัญญาขาย Demineralized Water กับ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC โดยมีปริมาณการรับซื้อเริ่มต้นประมาณ 1.5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี รวมทั้งยังมีการเซ็นสัญญาขายน้ำเพื่ออุตสาหกรรมกับบริษัท จีซี ออกซีเรน จำกัด (GCO) ผู้ผลิตและจำหน่ายโพรพิลีนออกไซต์ โดยมีความต้องการใช้น้ำที่ประมาณ 3.6 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และบริษัท จีซี โพลีออลส์ จำกัด หรือ GC Polyols Company Limited (GCP) ผู้ผลิตและจำหน่ายโพลีอีเทอร์ โพลีออลส์ มีความต้องการใช้น้ำประมาณ 0.3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี

 

 


สำหรับการเข้าลงทุนในโครงการน้ำประปาในประเทศเวียดนามซึ่งทางคณะกรรมการได้อนุมัติไปในวันที่ 8 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมานั้น การลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นการเข้าลงทุนในโครงการน้ำภาคครัวเรือน-ขนาดใหญ่เป็นโครงการแรกของบริษัทฯ ซึ่งทางบริษัทฯ มองว่าการลงทุนในโครงการดังกล่าวมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคตนอกเหนือจากกำลังการผลิตของโครงการที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วและที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยการเข้าลงทุนครั้งนี้ บริษัทฯ จะใช้กระแสเงินสดจจากการดำเนินของบริษัทฯ และเงินกู้ โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเท่ากับ 0.76 เท่าซึ่งเป็นระดับต่ำ

 

 

 

 

 


CBG ระบุ Q2/62 ติดปีกกำไรโต 163%

 

นายวรัญชัย เจนศิริวณิชย์ เลขานุการบริษัท บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2562 มีกำไร 552.17 ล้านบาท หรือ 0.55 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 163% จากงวดเดียวกันปี 2561 ที่กำไร 209.94 ล้านบาท หรือ 0.21 บาท/หุ้น โดย ไตรมาส 2/2562 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 3,754 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140 ล้านบาทหรือ 3.9% เป็นธุรกิจในประเทศและต่างประเทศที่อัตราส่วนร้อยละ 53:47 เป็นรายได้จากการขายเครื่องดื่มบำรุงกำลัง 3,247 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137 ล้านบาทหรือ 4.4% ขณะที่ งวด 6 เดือนปี 2562 มีกำไร 971.60 ล้านบาท หรือ 0.97 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปี 2561 ที่กำไร 390.46 ล้านบาท หรือ 0.39 บาท/หุ้น ขณะที่ คณะกรรมการมีมติ จ่ายปันผลเป็นเงินสด จำนวน 0.50 บาท/หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 22 ส.ค. 2562 วันที่จ่ายปันผล 5 ก.ย. 2562

 

 

 

 

 


.TBSP แจงไตรมาส 2 กำไรพุ่ง เหตุกำไรพิเศษหนุน

 

นายณฐพงศ์ พินิตพงศ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีบีเอสพี จำกัด (มหาชน) หรือ TBSP ผู้ดำเนินธุรกิจการผลิตสิ่งพิมพ์ปลอดการปลอมแปลงอย่างครบวงจร ที่นำการพัฒนาใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดประจำไตรมาส 2/2562 บริษัทฯ และบริษัทย่อย ในงบการเงินรวมมีรายได้จากการขายและให้บริการ 276 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยราว 1%

 

จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 278 ล้านบาท กำไรสุทธิ 99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 857% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 10 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ รับรู้กำไรในรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำในการขายสินทรัพย์สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส 2 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท มีกำไรที่เติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากรับรู้กำไรพิเศษในการขายสินทรัพย์ในธุรกิจการให้บริการจัดเก็บเอกสารและทำลายข้อมูลอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตในอนาคต โดยมูลค่าที่ขายออกไปอยู่ที่ 162.40 ล้านบาท

 


ขณะที่ ยอดขายปรับลดลงราว 1% เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 2/2561 เนื่องจาก ช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มียอดขายพิเศษจากโปรเจ็กต์งานพิมพ์โปรษณียบัตรทายผลฟุตบอลโลก หากหักโปรเจ็กต์พิเศษดังกล่าวออกไป ภาพรวมไตรมาส 2 ปีนี้ ยังคงเติบโตขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจงานพิมพ์ฉลากสินค้าป้องกันการปลอมแปลง ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง และมีคำสั่งซื้อเข้ามาจนถึงปลายปีแล้ว โดยงานพิมพ์ป้องกันฉลากปลอมแปลงมีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ประมาณ 15-16% ของยอดขายรวม และจะเป็นธุรกิจดาวเด่นต่อเนื่องในปี 2563 ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 560 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 6% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 530 ล้านบาท กำไรสุทธิ 113 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,229% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 8.5 ล้านบาท

 

 


NOBLE ฟันกำไร Q2/62 โต 137%

 

บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) NOBLE รายงานผลประกอบการ ไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิ 164.47 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำรไรสุทธิ 69.14 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 137.68% ขณะที่งวด 6 เดือน ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 1,473.82 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำรไรสุทธิ 199.79 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 640% เนื่องจากในปีนี้บริษัทฯ มีการรับรู้ รายได้จากโครงการ โนเบิลรีวอลฟ์ รัชดา และโครงการโนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา2 รวมถึงโครงการ โนเบิล เพลินจิต

 

 

 




บิ๊ก SEAOIL แจง Q2 กำไรติดจรวด 506.80% เหตุขายน้ำมันเชื้อเพลิงให้ลูกค้าตปท.



นางสาวนิรชา ปานบุญห้อม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีออยล์ จํากัด (มหาชน) SEAOIL เปิดเผยว่า ขอรายงานผลการดําเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย สําหรับไตรมาส ที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ดังนี้
บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกําไรสุทธิสําหรับไตรมาสที่ 2 จํานวน 54.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 506.80 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นกําไรสุทธิในส่วนที่เป็นของผู้เป็นเจ้าของของบริษัทใหญ่ 48.90 ล้านบาท ซึ่งกําไรสุทธิรวมที่เพิ่มขึ้นเกิดจากสาเหตุหลัก ดังนี้


1. บริษัทฯ และบริษัทย่อย รับรู้ส่วนแบ่งกําไรจากกิจการร่วมค้าธุรกิจสํารวจและผลิตปิโตรเลียม แพน โอเรียนท์ เอ็นเนอยี (สยาม) ลิมิเต็ด จํานวน 39.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2,395.07 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น


2. บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและบริการ จํานวน 1,643.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 65.89 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เกิดจากรายได้การจําหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่ลูกค้าต่างประเทศเป็นหลัก


3. บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกําไรขั้นต้น จํานวน 57.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.39 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เกิดจากกําไรขั้นต้นจากธุรกิจการจําหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง


4. บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้อื่น 38.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 898.45 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เกิดจากค่าชดเชยจากธุรกรรมการซื้อขายน้ำมันเป็นส่วนใหญ่ สรุปผลการดําเนินงาน สําหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562
บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกําไรสุทธิจํานวน 67.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 847.13 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกัน ของปีก่อน โดยเป็นกําไรสุทธิในส่วนที่เป็นของผู้เป็นเจ้าของของบริษัทใหญ่ 59.62 ล้านบาท

 

 

 

AMA แจงกำไร Q2/62 โต 181.85% ตามรายได้พุ่ง

 


นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาม่า มารีน จํากัด (มหาชน) AMA เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2 ปี 2562 บริษัท อาม่า มารีน จํากัด (มหาชน) (“บริษัท”) และบริษัทย่อย มีกําไรสุทธิ 68.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.99 ล้านบาท หรือร้อยละ 181.85 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าบริษัทขอแจ้งสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงผลการดําเนินงานเกินกว่าร้อยละ 20 ของบริษัทและบริษัทย่อยดังนี้

 


ในไตรมาส 2 ปี 2562 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้า จํานวน 501.46 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 60.90 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.82 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 74.80 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.53 จากไตรมาสก่อนหน้า โดยสัดส่วนรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือของบริษัท และการให้บริการขนส่งสินค้าทางรถของบริษัทย่อย คิดเป็นร้อยละ 68.83 และร้อยละ 31.17 ตามลําดับ การเติบโตของรายได้จากการขนส่งสินค้าทางเรือเพิ่มขึ้นจํานวน 21.86 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.76 จากช่วง เดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากอัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยในไตรมาสนี้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รวมถึงมีอัตราการใช้งานกองเรือที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 ปี 2562 บริษัทมีอัตราการใช้งาน กองเรือเฉลี่ย (fleet utilization) ร้อยละ 98.12 สูงกว่าไตรมาส 2 ปี 2561 ที่ ร้อยละ 97.57

 


สําหรับการขนส่งสินค้าทางรถ บริษัทย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้น 39.04 ล้านบาท หรือร้อยละ 33.29 จากช่วง เดียวกันของปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 15.40 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.93 จากไตรมาสก่อนหน้า รายได้ที่ เพิ่มขึ้นเกิดจากการบริหารจัดการกองรถบรรทุกได้เต็มประสิทธิภาพ โดยมีปริมาณการใช้งานกองรถเฉลี่ยใน ไตรมาส 2 ปี 2562 ที่ 161 คัน

 


บริษัทและบริษัทย่อยมีกําไรขั้นต้น จํานวน 125.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.84 ล้านบาท หรือร้อยละ 57.49 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นอัตรากําไรขั้นต้น ร้อยละ 25.04 เทียบกับอัตรากําไรขั้นต้นใน ไตรมาส 2 ปี 2561 ที่ ร้อยละ 18.10 อัตรากําไรขั้นต้นของการขนส่งสินค้าทางเรือในไตรมาส 2 ปี 2562 อยู่ที่ร้อยละ 21.86 ปรับตัวดีขึ้นจาก ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่ร้อยละ 18.24 อัตรากําไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นนี้ มีสาเหตุหลักจากราคา น้ํามันซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการขนส่งสินค้าลดลงรวมถึงมีอัตราการใช้งานกองเรือดีขึ้น ทั้งนี้ ต้นทุนการ ให้บริการขนส่งสินค้าประกอบไปด้วยค่าใช้จ่ายหลัก คือ (1) ค่าน้ํามันเชื้อเพลิง (2) ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ พนักงาน และ (3) ค่าเสื่อมราคา 

 


ขณะที่อัตรากําไรขั้นต้นของการขนส่งสินค้าทางรถในไตรมาส 2 ปี 2562 นี้ อยู่ที่ ร้อยละ 32.07 สูงขึ้นจาก ไตรมาส 2 ปี 2561 ที่ร้อยละ 17.70 และสูงขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2562 ที่ ร้อยละ 25.99 ในไตรมาส 2 ปี 2562 อัตรากําไรสุทธิต่อรายได้ของบริษัทและบริษัทย่อย อยู่ที่ร้อยละ 13.60 เทียบกับอัตรา กําไรสุทธิต่อรายได้ในไตรมาส 2 ปี 2561 ที่ ร้อยละ 5.49 ส่งผลให้บริษัทและบริษัทย่อยมีกําไรสุทธิรวม จํานวน 68.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.99 ล้านบาท หรือร้อยละ 181.85 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

HotNews: IND เตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด

IND เตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 15%

สถานบันเทิงครบวงจร By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ยินดี สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ลงมติ รายงานผลการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร...

มัลติมีเดีย

QTCG กระแสตอบรับดี/เปิดพื้นฐานก่อนเทรดวันที่ 4 เม.ย. - สายตรงอินไซด์ - 29 มี.ค.67

QTCG กระแสตอบรับดี/เปิดพื้นฐานก่อนเทรดวันที่ 4 เม.ย. - สายตรงอินไซด์ - 29 มี.ค.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้