Today’s NEWS FEED

News Feed

HOTNEWS : กลุ่ม SAMART ปี 2020 กวาดรายได้ 2 หมื่นลบ.

2,814

กลุ่มสามารถปี 2020 กวาดรายได้ 2 หมื่นลบ.

 

 

กลุ่มสามารถ วางเป้ารายได้ปี 63 แตะ 2 หมื่นลบ.  พร้อมคาดมีรายได้ประจำเพิ่มเป็น 6.2 พันลบ.จากปีก่อนอยู่ที่ 5.4 พันลบ. ลั่นปี 63 ลุยประมูลงาน ราว 2 หมื่นลบ. คาดได้งาน 60-70% ขณะที่คาดส่งสามารถ เอวิเอชั่น (SAV) เข้า SET ปลายมี.ค.นี้  เล็งจ่ายปันผลงวดปี 62 หลังพลิกฟื้นผลงานเทิร์นอะราวด์

 

 

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปี 2563 กลุ่มบริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 40% มาอยู่ที่ระดับ 20,000 ล้านบาท จากปี2562 ที่คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 15,000-16,000 ล้านบาท โดยยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ประจำและการเติบโตแบบยั่งยืนด้วยการเน้นโซลูชั่นและเทคโนโลยีที่หลากหลาย หรือ Unlimited Solutions ขณะที่สัดส่วนรายได้ของบริษัทยังมาจากงานภาครัฐประมาณ 75%

 

สำหรับปี 2020 นี้ แม้จะมีการคาดการณ์ว่าสภาพเศรษฐกิจอาจจะยังไม่สดใสนัก แต่ “กลุ่มสามารถ” มั่นใจที่จะให้เป็นปีแห่งการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและขยายธุรกิจด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยชูกลยุทธ์นำเสนอ โซลูชั่นและเทคโนโลยีที่หลากหลาย หรือ Unlimited Solutions จากปัจจัยที่มาจากนโยบายภาครัฐที่จะก้าวสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) ด้วยการส่งเสริมด้านเทคโนโลยี ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตและการแข่งขัน ทั้ง E-Public Services , Critical Infrastructure , Cyber Security , Green Technology และ Human Transformation ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจของ “สามารถ” เราจึงตั้งเป้ารุกธุรกิจ

 

 

 


โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

 

1. กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ (High Demand Solutions for Critical Infrastructure)

 

• Finance/Banking Solutions อาทิ Core Banking , Payment Service , Data Center for Banks จากลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายทั้งธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ธนาคารเอสเอ็มอี ฯลฯ รวมมูลค่ากว่า 3,000-4,000 ล้านบาท

• Airport Solutions จากโครงการระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (CUTE) และ ระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย ที่มีมูลค่ารวมกว่า 8,000 ล้านบาท

• Cyber Security เฝ้าระวัง ป้องกันและแก้ไขภัยคุกคามทางไซเบอร์ ที่ส่งผลกระทบกับธุรกิจต่างๆ สูงขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงการที่ พรบ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ 2562 จะบังคับใช้กับหน่วยงานต่าง ๆ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจึงมีทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมมูลค่า 200-300 ล้านบาท

• Network Solution ที่เกี่ยวข้องกับ Nationwide Fiber Optic , IP Telephony จากกระทรวงมหาดไทย , การรถไฟแห่งประเทศไทย และอื่นๆ รวมมูลค่า 2,000 ล้านบาท

 

 

2. กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (High Recurring Rev. Projects) โดยในปี 2019 กลุ่มสามารถมีรายได้ประจำอยู่ที่ 5,400 บาท และในปี 2020 นี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 6,200 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโครงการของสายธุรกิจ ICT ที่คาดว่าปีนี้จะมีโอกาสเข้าร่วมประมูลอีกประมาณ 2 หมื่นล้านบาท อาทิ โครงการกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บมจ.ท่าอากาศยานไทย ธนาคารและสถาบันการเงิน เป็นต้น

 

3. กลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูง หรือ High Future Growth Business ที่นอกจากเราลงทุนในธุรกิจสถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) และการนำสายไฟลงดิน หรือ Underground Cable รวมถึงธุรกิจด้านพลังงาน หรือ Solar Energy แล้ว ปีนี้ กลุ่มสามารถจะนำบริษัทในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงไตรมาส 2 คือ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ หรือ SAV ที่ดำเนินธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น (Holding company) โดยเน้นลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจการจราจรทางอากาศ หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการจราจรทางอากาศ โดย SAV ถือสัดส่วนร้อยละ 100.00 ในบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด “CATS” เพียงบริษัทเดียว โดยธุรกิจของ CATS เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำและมีการเติบโตขึ้นทุกปี จากการเติบโตท่องเที่ยวของประเทศกัมพูชา และเศรษฐกิจของเพื่อนบ้าน ที่ส่งผลต่อจำนวนเที่ยวบินที่ขึ้นลงในสนามบินและเที่ยวบินที่บินผ่านน่านฟ้ากัมพูชาที่เพิ่มขึ้น

 

 

 

 

“ปีนี้เป็นปีที่ดีขึ้นและมองว่าความสามารถในการทำกำไรก็จะดีขึ้นด้วยไม่ใช่แค่รายได้ จากปี 2017,2018 ที่ขาดทุนคิดว่าปี2019,2020เราจะมีการเทิร์นอะราวด์กลับมา”นายวัฒน์ชัย กล่าว

 


ทั้งนี้ปีนี้บริษัทฯ คาดว่าเม็ดเงินลงทุนของภาครัฐที่จะลงมาสู่โครงการICT น่าจะมีออกมามากขึ้นหลังจากชะลอลงในปีก่อนเนื่องการผ่านร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี2563 มีความล่าช้า อย่างไรก็ตามล่าสุดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้มีการพิจารณาผ่านร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี2563 แล้ว ซึ่งภาคอุตสาหกรรมICT เป็นภาคธุรกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ มองว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนอีกทางหนึ่ง แม้ว่าภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยจะชะลอตัวลง สำหรับปีนี้บริษัทฯ มีแผนประมูลงานมูลค่ารวมประมาณ20,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานของภาครัฐ โดยคาดว่ามีโอกาสได้รับงานประมาณ 60-70%

 

 

นายวัฒน์ชัย กล่าวต่อว่าธุรกิจสายธุรกิจ ICT ที่ดำเนินการโดยบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) SAMTEL ปัจจุบันมีมูลค่างานในมือประมาณ 9,500 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง5 ปีจากนี้อย่างต่อเนื่อง ด้านบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) OTO ซึ่งดำเนินธุรกิจ Call center มีการเติบโตดีเช่นกัน ส่วนบริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) SDC คาดว่าปีนี้ผลประกอบการจะขาดทุนลดลง โดยคาดว่าจะสามารถพลิกมีกำไรได้ในปี 64

 

 

 


นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมนำ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ หรือ SAV บริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) โดยคาดว่าจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก(IPO)ในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้
ขณะที่วันที่ 28 มกราคมนี้ SAV จะมีการนำเสนอข้อมูลบริษัทที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้นักลงทุนได้รับทราบข้อมูลมากขึ้น

 

 

ทั้งนี้ SAV ที่ดำเนินธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น (Holding company) โดยเน้นลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจการจราจรทางอากาศ หรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการจราจรทางอากาศ โดย SAV ถือสัดส่วนร้อยละ 100.00 ในบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด “CATS” เพียงบริษัทเดียว โดยธุรกิจของ CATS เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำและมีการเติบโตขึ้นทุกปี จากการเติบโตท่องเที่ยวของประเทศกัมพูชา และเศรษฐกิจของเพื่อนบ้าน ที่ส่งผลต่อจำนวนเที่ยวบินที่ขึ้นลงในสนามบินและเที่ยวบินที่บินผ่านน่านฟ้ากัมพูชาที่เพิ่มขึ้น

 

 

  

 


นายวัฒน์ชัย กล่าวเพิ่มเติมว่าบริษัทฯ คาดว่าจะประกาศผลประกอบการปี 62 ประมาณช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยคาดว่า ภาพรวมผลประกอบการจะเติบโตดีกว่าปีก่อน ขณะที่บริษัทฯ อาจมีการพิจารณาจ่ายปันผลด้วย

 

 


ส่วนแผนการสร้างรายได้ประจำคาดว่าปีนี้จะมีรายได้ประจำเพิ่มเป็น 6,200 ล้านบาท จากปี 2562 อยู่ที่ 5,400 บาท

 

นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนปรับโครงสร้างภายในกลุ่มบริษัทฯ โดยควบรวมบริษัทลูกกลับเข้ามาอยู่ภายใต้บริษัทแม่ เพื่อเป็นการลดต้นทุน อย่างไรก็ตามแผนดังกล่าวเป็นเพียงการศึกษาเท่านั้น ยังไม่มีความชัดเจน

 

SAMART

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

เกาะเส้นกราฟ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ นักลงทุน คงต้องเกาะเส้นกราฟ เทรดตามกรอบแนวรับ แนวต้าน....

SPREME โรดโชว์หาดใหญ่คึกคัก

SPREME โรดโชว์หาดใหญ่คึกคัก

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้