HotNews : SAMART จ่อบิด Project ใหญ่ปลายปีนี้  / ปี 62 ดันรายได้ใกลัเคียงเป้า 1.8 หมื่นลบ.

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (29 ตุลาคม 2562) SAMART  คาดผลงาน H2/62 ดีกว่า H1/62 ดันทั้งปี 62 ดีกว่าปีก่อน ตามทุกกลุ่มธุรกิจหนุน - SDCผ่านจุดต่ำสุดแล้ว  พร้อมตั้งเป้าปี 63 เพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำแตะ 50% หลังเน้นรับงานบริการ หนุนมาร์จิ้น แย้ม 1-2 เดือนนี้ประมูลงานใหญ่ 2-3 โครงการ หวังเพิ่ม Backlog สิ้นปีนี้ทะลุ1 หมื่นลบ.     ขณะที่เตรียมส่ง”สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่น”เข้าตลาดหุ้น ใน มี.ค.ปี 63

 

 

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังของปี2562 จะดีกว่าครึ่งปีแรกที่ทีรายได้อยู่ที่ 7.78 พันล้านบาทและมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 256 ล้านบาท โดยเชื่อว่าภาพรวมผลประกอบการทั้งปี 2562 จะดีกว่าปีก่อนที่บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 1.29 หมื่นล้านบาท ขณะที่มีผลขาดทุน 1.07 พันล้านบาท เป็นผลมาจากทุกกลุ่มธุรกิจมีการเติบโตดี ประกอบด้วยสายธุรกิจ ICT Solution and Service ที่ดำเนินการโดย บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) SAMTEL ซึ่งมีสัดส่วนรายได้หลักอยู่ที่ประมาณ 55% ที่ปัจจุบันมีโครงการในมือแล้วมูลค่ารวมกว่า 9 พันล้านบาท

 

 

ขณะที่สายธุรกิจ Contact Center ที่ดำเนินการโดยบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) OTO รวมทั้ง สายธุรกิจ Utilities and Transportations มีการเติบโตดีต่อเนื่อง ด้านสายธุรกิจ Digital ที่ดำเนินการโดยบริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) SDC ปีนี้เริ่มมีผลประกอบการที่ดีขึ้น หลังจากผ่านจุดต่ำสุดแล้วในปีก่อน โดยคาดว่าปีนี้จะมีผลขาดทุนที่ลดลงจากปีก่อนที่มีผลขาดทุน1,596.68 ล้านบาท และในงวด 6 เดือนแรกมีผลขาดทุน 144.15 ล้านบาท ขณะที่ในปีหน้า(2563) SDC ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 4 พันล้านบาท จาก ปี 2560 ที่มีรายได้อยู่ที่ 770 ล้านบาท ส่วนปี 61 คาดว่า SDC จะมีรายได้อยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท

 

 

ทั้งนี้บริษัทฯ ประเมินรายได้รวมทั้งปีนี้(2562) จะทำได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท และยังประเมินถึงทิศทางปีหน้า (2563) บริษัทฯ เชื่อว่าจะเห็นการเปลี่ยนที่มีนัยสำคัญของกลุ่มบริษัทฯ เช่นการประมูลงานโครงการใหม่ รวมทั้งการนำบริษัทลูก บริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่น จำกัด หรือ SAV เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย เพื่อแยกธุรกิจในกลุ่มสามารถให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

 

 

 

 

 

 

โดยขณะนี้ บริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่น จำกัด หรือ SAV ได้ผ่านขั้นตอนการยื่นแบบคำขอและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา และคาดว่าจะทำการซื้อขายหุ้นได้ในช่วงเดือนมีนาคมปี 63

 

 

สำหรับ SAV จะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทที่ 5 ของกลุ่มบริษัทสามารถ โดยเน้นลงทุนในบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิก เซอร์วิส จำกัด หรือ CATS ซึ่งได้รับสัปทานจากรัฐบาลกัมพูชาในการบริหารจัดการการจราจรทางอากาศ ทั่วน่านฟ้ากัมพูชา เป็นเวลารวม 39 ปี นับจากปี 2545 ถึง 2584 ทั้งนี้การนำ SAV เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นการ Unlock Value คือ การสะท้อนมูลค่าที่ควรจะเป็น และเหมาะสม ของ CATS โดย วัตถุประสงค์ของการระดมทุน ก็เพื่อเพิ่มเงินทุนหมุนเวียน ชำระคืนเงินกู้ ลดภาระดอกเบี้ย และรองรับการขยายธุรกิจใหม่ๆของกลุ่มบริษัทสามารถในอนาคต

 

 

 

 

 

พร้อมกันนี้ ในระยะ 1-2 เดือนจากนี้ บริษัทฯ มีแผนเข้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ 2-3 โครงการ อาทิ งานของ กรมสรรพสามิต ,โครงการพัฒนาซอฟต์แวร์ด้าน Finance Solution ให้กับลูกค้ากลุ่มธนาคาร งานโครงการของกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทฯ คาดวามีโอกาสที่จะได้รับงาน 60-70% โดยหากได้รับงานคาด่าจะช่วยสนับสนุนงานในมือหรือ Backlog ในสิ้นปีนี้อยู่ที่ระดับมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ที่มี Backlog อยู่ที่ 9 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี Backlog อยู่ที่ประมาณ 7 พันล้านบาท

 

 

สำหรับในปี 2563 บริษัทฯ วางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำให้อยู่ที่ระดับ 50% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ประมาณ 20% โดยบริษัทฯ จะเน้นการรับงานบริการ อาทิเช่นงานบริการหลังการขาย(Service) ในการให้บริการดูแลระบบเป็นต้น ซึ่งคาดว่างานดังกล่าวจะสนับสนุนมาร์จิ้นให้ดีขึ้นด้วย ขณะที่สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ มาจากงานภาครัฐเป็นส่วนใหญ่ โดยมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ราว 70-80% และงานของภาคเอกชนประมาณ 20%

 

 

SAMART