Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : IVL โปรย 5 พันล้านเหรียญฯ ไล่ซื้อกิจการต่อเนื่อง

2,344

HotNews : IVL โปรย 5 พันล้านเหรียญฯ ไล่ซื้อกิจการต่อเนื่อง

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (8 สิงหาคม 2562)  "อาลก โลเฮีย" บิ๊ก  IVLวางงบลงทุน 5 พันล้านเหรียญฯ ใน 5 ปี (62-66) รองรับขยายธุรกิจ-ซื้อกิจการ   พร้อมคาด Core Ebitda ปี 62 อยู่ที่ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากปีก่อน 1.44 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ระบุมีกระแสเงินสดพอ ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน หลังเข้าซื้อกิจการธุรกิจผลิตออกไซด์จาก Huntsman  เผยดีลซื้อ "Huntsman" คุ้มสุดตั้งแต่ลงทุนมามี EV/EBITDA 5.7 เท่า 

 

นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส หรือ IVL เปิดเผยว่า ปี 2562 บริษัทฯ คาดว่ากำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย( Core EBITDA) ของบริษัทฯ จะอยู่ที่ประมาณ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แม้ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทฯจะได้รับผลกระทบจากการปิดซ่อมบำรุงโรงงานผลิตออกไซด์ไป 4 เดือนตามแผน รวมถึงบริษัทฯยังได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุเพลิงไหม้คลังสินค้าพร้อมส่งผลิตภัณฑ์ PTA และ IPA* ของบริษัท IndoramaVentures Quimica S.L.U.ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองซานโรเก (San Roque) ในประเทศสเปนซึ่งส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อการจัดหาวัตถุดิบบรรจุถุง (Bagged Material) ซึ่งความเสียหายดังกล่าวคาดใช้ระยะเวลาราว 12-18 เดือนถึงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

 

 

 


ขณะที่บริษัทฯวางงบลงทุนในระยะเวลา 5 ปี(62-66) ไว้ที่ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแบ่งเป็นใช้สำหรับลงทุนธุรกิจ PET จำนวน 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ลงทุนธุรกิจรีไซเคิล จำนวน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และใช้สำหรับลงทุนธุรกิจออกไซด์แบบบูรณาการและธุรกิจอนุพันธ์ของ บริษัท Huntsman จำนวน 2,000 พันล้านเหรียญสหรัฐฯโดยบริษัทฯมองว่าการเข้าซื้อธุรกิจของ Huntsman คุ้มค่าสุดในประวัติการณ์ที่เคยลงทุนมา โดยมีมูลค่าสินทรัพย์เมื่อเทียบกับกระแสเงินสดสุทธิก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EV/Ebitda)อยู่ที่ 5.7 เท่า ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถของบริษัทฯในการบรรลุเป้าหมายการสร้างการเติบโตของ Core Ebitda เป็น 2 เท่า ในปี 2566

 

ทั้งนี้ การเข้าซื้อธุรกิจ Huntsman บริษัทฯ ใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้เงินจำนวน 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมาจากกระแสเงินสด 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยบริษัทฯมองว่าไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนเพื่อคืนเงินกู้ระยะสั้น เนื่องจากบริษัทฯมีเงินสดในมือ จำนวน 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเพียงพอต่อการใช้คืนโดยโดยเงินกู้ดังกล่าวจะครบกำหนดชำระคืนใน1ปีข้างหน้า

 

"งบ 5 พันล้านเหรียญที่เราตั้งไว้ตอนนี้สามารถขับเคลื่อนเป้าหมายเราได้แล้ว 85% ซึ่งรวมถึงการปิดดิลวันนี้ด้วยซึ่งในอนาคตหากมีดีลใหม่ที่น่าสนใจเราก็พร้อมที่จะเข้าลงทุนซึ่งตอนนี้เรามีความสามารถในการลงทุนได้อีกราว 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และเราก็ตั้งเป้าที่จะควบคุมอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)ไม่เกิน 1 เท่า โดยปัจจุบันเรามีD/E อยู่ที่ 0.94 เท่า" นายอาลก กล่าว

 

 

สำหรับประเด็นสงครามทางการค้าที่กลับมารุนแรงนั้นมองว่าไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯมากนัก เนื่องจากบริษัทฯได้มีฐานผผลิตกระจายอยู่ทั่วโลก และส่วนใหญ่จำหน่ายสินค้าภายในประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนการส่งออกไม่ถึง 10%

 

 

 


***IVL ทุ่ม 2 พันล้านดอลล์ ซื้อ Huntsman***

 


นายโซวิค รอย เชาว์ ดูรี่ เลขานุการบริษัท บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จํากัด (มหาชน) IVL เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จํากัด (มหาชน) (“ไอวีแอล” หรือ “บริษัท”) ครั้งที่ 6/2562 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2562 ได้มีมติอนุมัติการเข้าชื่อธุรกิจ/สินทรัพย์บางส่วนจากบริษัท Huntsman Corporation ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange) และ/หรือ บริษัทย่อยของบริษัท Huntsman Corporation (ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม) (“บริษัทย่อยที่จะเข้าเป็นผู้ขาย") (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมกันว่า "ผู้ขาย") ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตออกไซด์แบบบูรณาการ (Integrated Oxides) และ อนุพันธ์ (Derivatives)

 


ซึ่งใช้ผลิตผลิตภัณฑ์หลัก ดังต่อไปนี้ เอทิลีนออกไซด์ (Ethylene Oxide - EO), โพรพิลีน ออกไซด์ (Propylene Oxide - PO), ไกลคอล (Glycols), เอทธาโนลามีน (Ethanolamines - EOA), สารลดแรงตึงผิว (Surfactants), ลิเนียร์ อัลคิลเบนซีน (Linear Alkylbenezene - LAB) และเมทิล เทอร์เชียรี-บิวทิลอีเทอร์ (Methyl Tertiary-butyl Ether - MTBE)

 

 

ซึ่งตั้งอยู่ที่ (1) Port Neches รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา (โรงงาน Port Neches”), (i) เมือง Dayton รัฐ เท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา (“โรงงาน Dayton”), (i) เมือง Alvin (Chocolate Bayou) รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา (“โรงงาน Chocolate Bayou"), (iv) เมือง Botany รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย (“โรงงาน Botany") และ (v) เมือง Ankleshwar ประเทศอินเดีย (“โรงงาน Ankleshwar”) และรวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนา สิทธิบัตร และเทคโนโลยี บางส่วน (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมกันว่า “ธุรกิจสินทรัพย์ที่ได้มา") โดยบริษัทและหรือบริษัทย่อยผู้รับโอน (ตามคํานิยาม ที่ระบุไว้ในสิ่งที่ส่งมาด้วย) (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมกันว่า “ธุรกรรมฯ")

 

 

 

มูลค่ารวมของธุรกรรมฯ เท่ากับ 2,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่าประมาณ 61,960 ล้านบาท) โดย บริษัทจะชําระเป็นเงินสดทั้งหมด นอกจากนี้ บริษัทจะรับภาระผูกพันในเงินบํานาญ (pension obligations) เป็นเงินจํานวนไม่เกิน 76 ล้านเหรียญ ดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่าประมาณ 2,354 ล้านบาท)
นายโซวิคกล่าวว่า การเข้าทําธุรกรรมฯ มูลค่า 2,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ในครั้งนี้ บริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงิน สดภายใน และบริษัทจะทําสัญญาเงินกู้ยืมระยะสั้น (Bridge Loan Facility Agreement) กับสถาบันการเงิน ในวงเงินรวม สูงสุดไม่เกิน 1,500 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ สําหรับในกรณีหลังนั้น จะไม่มีเงื่อนไขใดๆ ในข้อตกลงทางการเงินที่จะ ส่งผลกระทบต่อสิทธิของผู้ถือหุ้นของบริษัท

 

 

ทั้งนี้ ธุรกิจที่ได้มานั้น เป็นธุรกิจปลายน้ำแบบบูรณาการอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งผลิตสารลดแรงตึงผิว (Surfactants) ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลในครัวเรือน และผลิตสารโพรพิลีน ออกไซด์ (Propylene Oxide) ที่ใช้ในการผลิตวัสดุฉนวน และโฟม (insulation and foam materials) ซึ่งธุรกิจชั้นนําปลายน้ำ(leading downstream businesses) ดังกล่าวจะ กลายเป็นแพลตฟอร์มหลักที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อยอดการบูรณาการในธุรกิจต้นน้ำและธุรกิจปลายน้ำในอีก 5 - 10 ปีข้างหน้า

 


ทั้งนี้ จากการประมาณการ การเข้าซื้อธุรกิจกิจการในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มอัตรากําไรหลักก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่า เสื่อมราคา และค่าตัดจําหน่าย (core EBITDA) ของไอวีแอลในปี 2561 ในอัตราร้อยละ 25 และยังช่วยเพิ่มกําลังการผลิต ในอัตรา ร้อยละ 23 ในธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม "บริษัทและ/หรือบริษัท Indorama Ventures Holdings LP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัทและผู้ขายได้ ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นและสินทรัพย์เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2562 ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกรรมฯ โดยบริษัทคาดว่าจะ ดําเนินการเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2562 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง"นายโซวิคกล่าว

 

 

 


ขณะที่ก่อนหน้านี้ IVL ประกาศข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการบริษัท Sinterama S.p.A ซึ่งเป็นผู้ผลิตเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์สำหรับชิ้นส่วนภายในรถยนต์และเส้นด้ายสีสมรรถนะสูง โดยการเข้าซื้อกิจการประกอบด้วยโรงงานผลิต 5 แห่งใน 4 ประเทศ ได้แก่ ประเทศอิตาลี บราซิล จีน และบัลแกเรีย ซึ่งเป็นตลาดใหม่สำหรับไอวีแอล มีกำลังการผลิตรวมราว 30,000 ตันต่อปี ยุโรปมีการนำเข้าเส้นด้ายกว่า 275,000 ตันต่อปี ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่บริษัท Sinterama จะสร้างการเติบโตเพิ่มเติม ตลอดจนเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้ผลิตในท้องถิ่น ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานทั้งสิ้น 889 คน โดยการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการขออนุมัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

 

 


Sinterama เป็นผู้นำในผลิตภัณฑ์สำหรับการใช้งานที่มีความพิเศษในยุโรป มีชื่อเสียงและมีเทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ บริษัทมีการบูรณาการในแนวดิ่งจากเม็ดพลาสติกจนถึงเส้นด้าย โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์เส้นด้ายโพลีเอสเตอร์สีที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมการใช้งานทั้งในกลุ่มยานยนต์ ผลิตภัณฑ์เพื่อการตกแต่งที่อยู่อาศัย เครื่องแต่งกาย และผลิตภัณฑ์ทางเทคนิค บริษัท Sinterama มีการนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาเชิงนวัตกรรมและมีการลงทุนในด้านการวิจัยผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย ตลอดจนมีการสั่งสมองค์ความรู้เป็นเวลายาวนาน นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทในปี 1968 ซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถของไอวีแอลในการนำเสนอโซลูชั่นเชิงนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับยานยนต์และที่อยู่อาศัย รวมถึงรองรับความต้องการของลูกค้าทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

 

 

การเข้าซื้อกิจการ Sinterama นั้น ประกอบด้วยโรงงานผลิต 5 แห่งซึ่งตั้งอยู่ใน 4 ประเทศ ได้แก่ ประเทศอิตาลี ประเทศบราซิล สาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐบัลแกเรีย โดยมีกำลังการผลิตรวมกันอยู่ที่ 30,000 ตันต่อปีโดยโรงงานผลิตของ Sinterama มีการบูรณาการในแนวดิ่ง (Vertically Integrated) จากเม็ดพลาสติกจนถึงเส้นด้ายต่างๆ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์เส้นด้ำยโพลีเอสเตอร์สีที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมการใช้งานทั้งในกลุ่มยานยนต์ ผลิตภัณฑ์เพื่อการตกแต่งที่อยู่อาศัย เครื่องแต่งกาย และผลิตภัณฑ์ทางเทคนิคอื่นๆ ทั้งนี้นับตั้งแต่ Sinteramaได้เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2511 นั้น Sinterama มีการนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาเชิงนวัตกรรม (Innovative Solutions) และมีการลงทุนในด้านการวิจัยผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย ตลอดจนมีการสั่งสมองค์ความรู้เป็นเวลายาวนาน

 

 

 

 

 

IVL แจงกำไร Q2/62 วูบ 72%



บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิ 2,267 ล้านบาท ลดลง 72% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8,242.68 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 5,974 ล้านบาท ลดลง 57% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14,056 ล้านบาท 

 


ขณะที่ กำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจาหน่าย(Core EBITDA) อยู่ที่ 361 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยกลุ่มธุรกิจ Integrated Oxides & Derivatives ได้รับผลกระทบทางลบจากการขยายการปิดปรับปรุงในไตรมาสที่ 2/62 หลังจากไตรมาสที่ 1/62 ได้มีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน EO-EG ในประเทศสหรัฐอเมริกา และเนื่องจากอัตรากำไร MEG ลดลงอย่างมากในทวีปเอเชีย ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีต้นทุนที่ต่ำจาก USGC economics แล้วก็ตาม ในทางตรงกันข้าม ธุรกิจ Purified EO (PEO) ยังคงมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นซึ่งช่วยให้กลุ่มธุรกิจนี้มีผลการดำเนินงานที่ดี

 


อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 2/62 มีปริมาณการผลิตรวม 3.14 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีรายได้จากการขายรวม 2,930 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้