Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : IVL ซื้อดีมั้ย?

2,871

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (15  มกราคม 2562)

ราคาหุ้น IVL ที่โดนเทขายออกมาอย่างหนักหน่วง เมื่อวานนี้  (14 มกราคม 2562)  คงมีคำถามว่าแรงขายสะเด็ดน้ำแล้วหรือยัง  และราคาที่ะดับนี้ซื้อดีมั้ย?  ทีมข่าวหุ้นอินไซด์ ได้รวบรวมความเห็นจากหล่าเทพหุ้น 5  สำนักชื่อก้อง  เริ่มจากเทพหุ้นบัวหลวง ชี้ราคาหุ้นที่ปรับตัวลง ส่งผลให้ค่า PER ปี62 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 9.3 เท่า ต่ำที่สุดในรอบ 16 เดือน สะท้อนการคาดการณ์ตัวเลขไตรมาส 4/61 ที่อ่อนตัวไปแล้ว  ด้านเทพหุ้นทรีนีตี้ บอกอดทนรอให้ฝุ่นจาง ก่อนเข้าสู่ High Season  แนะซื้อเป้า 70 บาท 

 

ขณะที่เทพหุ้นโนมูระ พัฒนสิน  แนะซื้อ IVL เคาะเป้า 81 บาท ส่วนเทพหุ้นซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี แนะ "ถือ"  IVL   มองราคาเป้าหมาย 59.80 บาท ปิดท้ายที่เทพหุ้นเสือเหลือง มองผลงาน Q4/61 ของ IVL  ที่คาดชะลอตัว QoQ อาจกดดันหุ้น IVL ในระยะสั้น เชิงกลยุทธ์พิจารณาทยอยสะสม ราคาเป้าหมายใหม่อ้างอิง PBV เฉลี่ย+1SD ที่ 2.1 เท่า เท่ากับ 67 บาท (จาก 72 บาท)  

 

 

บล.บัวหลวง แนะนำ "ซื้อ" IVL
ราคาเป้าหมาย 80 บาท/หุ้น

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง  ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า  ราคาหุ้นบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน)   IVL  ที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้ค่า PER ปี 2562 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 9.3 เท่า ต่ำที่สุดในรอบ 16 เดือน ซึ่งได้สะท้อนการคาดการณ์ตัวเลขไตรมาส 4/61 ที่อ่อนตัวไปแล้ว ส่วนต่างราคาขยายตัวเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลและแนวโน้มกำไรจากสินค้าคงคลังจะหนุนกำไรในไตรมาส 1/62 เราคาดกำไรหลักปี 2562 จะเติบโต 20%YoY และอาจมีอัพไซต์จากแนวโน้มกำไรที่เติบโตจากการควบรวมกิจการใหม่ ทำให้เราคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเปาหมาย (ทบทวนใหม่) ณ สิ้นปี 2562 ด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด DCF ที่ 80 บาท 

 

คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/61 ที่อ่อนตัวได้ผ่านไปแล้ว  เราคาด IVL จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/61 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 2,560 ล้านบาท (ลดลง 74% YoY และ 75% QoQ) และกำไรหลักอยู่ที่ 4,302 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3% YoY แต่ลดลง 49% QoQ) การขาดทุนจากสินค้าคงคลังจำนวนมาก (จากราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงตามทิศทางของราคาน้ำมันดิบ)

 

และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนตัวลงเป็นปัจจัยหลักเบื้องหลังตัวเลขไตรมาส 4/61 ที่อ่อนตัว ต้นทุนวัตถุดิบ PX ที่สูงผิดปกติกอปรกับช่วงโลว์ซีซั่นกดดันให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์โพลีเอสเตอร์ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในไตรมาส 4/61 และส่งผลให้ core EBITDA/tonne ปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยลดลง 23% QoQ มาอยู่ที่ 115 เหรียญสหรัฐ (ดูรูปประกอบที่ 1-3) อย่างไรก็ตามส่วนแบ่งรายได้จากสินทรัพย์ใหม่ (การเข้าซื้อโรงงาน PTA ในประเทศโปรตุเกส และโรงงาน PET ในประเทศบราซิลและอียิปต์) ช่วยลดผลกระทบได้บางส่วน เพื่อสะท้อนประมาณการไตรมาส 4/61 เราปรับลดกำไรหลักปี 2561 และกำไรสุทธิลง 7% มาอยู่ที่ 24,345 ล้านบาท และ 11% มาอยู่ที่ 26,671 ล้านบาท ตามลำดับ (บ่งชี้ความเสี่ยงขาลงของประมาณการของตลาดประมาณ 6%) 

 

ช่วงไฮซีซั่นและกำไรจากสินค้าคงคลังจะหนุนกำไรไตรมาส 1/62  โดยปกติไตรมาสแรกของปีปฎิทินจะเป็นช่วงไฮซีซั่นสำหรับอุปสงค์ผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์ ทำให้คาดว่าปริมาณขายผลิตภัณฑ์จะขยายตัว QoQ ใน ไตรมาส 1/62 นอกจากนี้ส่วนแบ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโรงงาน PTA (โปรตุเกส) และโรงงาน PET (บราซิลและอียิปต์), ส่วนแบ่งรายได้จากสินทรัพย์เส้นใย HVA ใหม่, พลาสติกขึ้นรูป PET และเส้นใย HVA

 

สำหรับยานยนต์ HVA ใหม่จะหนุนให้ปริมาณขายเติบโต YoY และ QoQ รวมทั้งในช่วงไฮซีซั่นจะหนุนส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ QoQ ในไตรมาส 1/62 และเราคาดว่าต้นทุนวัตถุดิบ PX จะปรับตัวลดลง (เนื่องจากอุปทานผลิตภัณฑ์ PX ใหม่ที่เพิ่มขึ้น) จะหนุนส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์ให้ขยายตัวขึ้น ดังนั้นเราคาดว่ากำไรหลักของ IVL จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาส 1/62 (ทั้ง YoY และ QoQ) นอกจากนี้กำไรจากสินค้าคงคลังอาจหมายถึงอัพไซต์ต่อการเติบโของกำไรสุทธิ QoQ 

 

คาดปี 2562 ยังเป็นขาขึ้นสำหรับส่วนต่างราคาสายผลิตภัณฑ์โพลี   เอสเตอร์และกำไร แม้ว่ากำไรในไตรมาส 4/61 จะชะลอตัวลง แต่ภาพรวมอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์ยังอยู่ในช่วงขาขึ้นไปตลอดทั้งปี 2562 ซึ่งได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่เติบโตแข็งแกร่งในช่วงที่มีการขยายตัวของกำลังการผลิตน้อย เราคาดส่วนต่างราคาสายผลิตภัณฑ์โพลีเอสเตอร์จะขยายตัว YoY  ในปี 2562 (หรือกรณีเลวร้ายก็ทรงตัว) นอกจากี้ปริมาณขายของ IVL จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้จากการรับรู้รายได้จากสินทรัพย์ใหม่ที่ซื้อเข้ามาในช่วงปี 2561 เต็มปี เราปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2562 ในเชิงอนุรักษ์นิยมลง 3% มาอยู่ที่ 29,267 ล้านบาท (เติบโต 20% YoY) เพื่อสะท้อนสมมติฐานส่วนต่างราคา EOEG ที่ปรับตัวลดลง 10% (มาอยู่ที่ 626 เหรียญสหรัฐ/ตัน) ดังนั้นเราจึงปรับลดราคาเปาหมาย ณ สิ้นปี 2562 ด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด DCF มาอยู่ที่ 80 บาทจาก 86 บาท สำหรับการเข้าซื้อกิจการในอนาคตอาจเป็นอัพไซต์ต่อประมาณการของเราและของตลาด

 

 

ทรีนีตี้ฯ แนะนำ "ซื้อ"
IVL ราคาเป้าหมาย 70 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ราคาของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ยังอ่อนแอทั้ง PET และ PTA ทั้งในส่วน HVA และ non-HVA จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และสงครามการค้า อย่างไรก็ดี เรายังเห็นสัญญาณที่ดีจากการที่ราคา West PTA ที่ชะลอตัวในไตรมาส 4 2018 และราคา PET ในตลาดเอเชียที่กระเตื้องขึ้นในเดือนธันวาคม 2018 ทำให้เรามองว่าแม้ราคา PET และ PTA โลก 4Q18 จะยังอ่อนแอ แต่ไม่ได้ร่วงลงมาแบบไร้จุดรับ ยังเห็นจุดพลิกกลับอยู่ในหลายตลาด



มองว่าการเจรจาตกลงทางการค้าที่สำเร็จในระดับหนึ่งระหว่างจีนและสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีต่ออุปสงค์ของตลาดจีนในการเปิดกว้างต่อผลิตภัณฑ์ ปิโตรเคมีโลก รวมถึงจะทำให้จีดีพีของยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 ประเทศเติบโตได้ดีขึ้น ส่งผลดีต่อราคาของ PET และ PTA โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วน HVA

 

คาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q18 เท่ากับ 2,586 ล้านบาท ลดลงทั้ง QoQ และ YoY จาก EBITDA ที่ลดลงร้อยละ 52 จากไตรมาสก่อน และ เกิด Stock Loss คาดว่าอยู่ที่ 1,950 ล้านบาท ในขณะที่เรามอองว่า SG&A จะลดลงเล็กน้อย ช่วยให้ Bottom Line ไม่ลดลงจนมากเกินไป

 

กำไรจาก FX ช่วยผลประกอบการเล็กน้อย การที่บาทเริ่มแข็งใน 4Q18 ถือเป็นอานิสงก์ที่ดีต่อกำไรของ IVL โดยเรามองว่าจะช่วยเพิ่มกำไรสุทธิ IVL ได้ประมาณร้อยละ 13

 

แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย ที่ 70 บาท แนวโน้มปีหน้าน่าจะดีกว่าปีนี้ ปัจจัยหนุนทั้งปริมาณการขายที่จะเพิ่มขึ้น และราคาขายที่จะปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะจากตลาด PET ในเอเชีย ที่จะเข้าสู่จุด High Season แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 70 บาท ด้วยวิธี DCF

 

ความเสี่ยง: การควบรวมกิจการ สงครามการค้า ความผันผวนของราคา อุบัติเหตุ และภัยธรรมชาติ

 

 

 

โนมูระฯ  ให้ราคาเป้าหมาย 81 บาท

บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน แนะนำซื้อ IVL ราคาเป้าหมาย 81 บาท   เรามีมุมมอง Neutral ต่อผลประกอบการ 4Q18F คาดกำไรสุทธิที่ 2,916 ล้านบาท  -71%YoY -71%QoQ ถูกกดดันจาก (1) ผลขาดทุนสต๊อกสินค้าคงคลัง คาดที่ 2.1 พันล้านบาท (2) อัตรากำไรในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลง เฉลี่ย US$30-60/ton ยกเว้น West PTA ประเมิน Core EBITDA ที่ US$114/ton +3%YoY -24%QoQ แนวโน้ม 1Q19F คาดอัตรากำไร Asia PET เริ่มฟื้นตัว ก่อนเข้าสู่ช่วง High Season ในช่วง 2Q19F

 

เนื่องจากผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์เตรียม Restock สินค้าเพื่อรองรับความต้องการใช้ ขณะที่ได้แรงหนุนจากแนวโน้มต้นทุน Feedstock ที่ปรับตัวลดลง จากโรงงาน PX/PTA ใหม่ๆที่เตรียมเข้าสู่ตลาด สำหรับปี 19F คาดปริมาณผลิตโต 26%YoY สู่ระดับ 13 ล้านตัน จากดีลต่างๆที่ซื้อเข้ามาในปีที่ผ่านมา คงนำแนะนำ “ซื้อ” 

 

 

ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบีฯ  แนะถือ IVL

 

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า คาดกำไรสุทธิ 4Q18F ของบริษัทจะถูกกดดันด้วยการขาดทุนจากสินค้าคงคลัง และ การปิดซ่อมบำรุงที่ไม่คาดคิดผลการดำเนินงานในสหรัฐอ่อนตัวลงในช่วงสั้น แต่ IVL จะได้ประโยชน์จากปริมาณ PX ในตลาดที่ลดลงในระยะยาวคงคำแนะนำ ถือ ด้วยราคาเป้าหมาย 59.80 บาท

 

 

เทพหุ้นเสือเหลือง
แนะทยอยสะสม IVL
รอการฟื้นตัว

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า คาดผลประกอบการ IVL 4Q61 ที่คาดชะลอตัว QoQ อาจกดดันหุ้น IVL ในระยะสั้น เชิงกลยุทธ์จึงอาจพิจารณาทยอยสะสม เพื่อรอการฟื้นตัวของผลประกอบการ 1Q62 จากปริมาณขายและมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น ก่อนเข้าสู่ High Season ในช่วงกลางปี ราคาเป้าหมายใหม่อ้างอิง PBV เฉลี่ย+1SD ที่ 2.1 เท่า เท่ากับ 67 บาท (จาก 72 บาท)

 

คาดกำไรสุทธิ 4Q61 เท่ากับ 2,283 ล้านบาท (-77.2% YoY, -77.3% QoQ) ผลประกอบการอ่อนตัวจากผลกระทบขาดทุนสต๊อก และกำไรจากการดำเนินงานชะลอตัวจากปริมาณขายและมาร์จิ้นที่ลดลง เราประเมินขาดทุนสต๊อก 1,965 ล้านบาท ลดลงจาก +2,193 ล้านบาท ใน 3Q61

 

กำไรจากการดำเนินงานอ่อนตัว ตามปัจจัยฤดูกาลและส่วนต่างราคาหากไม่รวมผลจากสต๊อกและรายการพิเศษ เราคาดกำไรจากการดำเนินงานเท่ากับ 3,934 ล้านบาท ลดลง 51.9% QoQ (+18.5% YoY) ผลประกอบการปกติลดลง QoQ กดดันจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ PTA และ PET ในเอเชียที่ลดลงแรง รวมถึงส่วนต่างราคา PET ในฝั่งตะวันตกลดลงเช่นกัน เราประเมิน Core EBITDA/ton เท่ากับ 111 เหรียญต่อตัน ลดลง 26.1% QoQ นอกจากนั้นในส่วนของปริมาณขายคาดลดลง 1.5% QoQ เป็น 2.7 ล้านตัน ลดลงจากการชะลอตัวตามปัจจัยฤดูกาล เมื่อรวมผลจากขาดทุนสต๊อก เราคาด ENITDA/ton เท่ากับ 89 เหรียญต่อตัน ลดลง 49.2% QoQะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 67 บาท เรารวมกำไร FX เข้าในประมาณการทำให้กำไรสุทธิปี 2561 ขึ้น 4.9% เป็น 26,359 ล้านบาท เชิงปัจจัยพื้นฐาน แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายใหม่ อ้างอิง PBV เฉลี่ย +1SD ที่ 2.1 เท่า อยู่ที่ 67 บาท ลดลงจากเดิมที่ 72 บาท (PBV 2.3 เท่า) สอดคล้องกับอุตสาหกรรมน้ำมันขั้นปลายที่ซื้อขายด้วย Valuation ลดลง ในช่วงที่ผ่านมา

 

ความเสี่ยงการฟื้นตัวของส่วนต่างราคาและการใช้กำลังการผลิตแย่กว่าคาดการหยุดเดินเครื่องนอกแผน ความเสี่ยงจากกฏระเบียบในประเทศที่โรงงานตั้งอยู่

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้