Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : ORI โกยยอด Presales โค้ง 2 ทะลุ 7.29 พันลบ.

2,730

HotNews : ORI โกยยอด Presales โค้ง 2 ทะลุ 7.29 พันลบ.

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(1 กรกฎาคม 2562) ORI คว้ายอดขายไตรมาส 2 ทะลุ 7,290 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกกวาดขายสะสมรวมกว่า 13,000 ล้านบาท หลังคอนโดแบรนด์ใหม่โครงการแรก "ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์" เปิดตัวก้าวกระโดด กวาดยอดพรีเซลทะลุ 70% และแบรนด์คอนโดลักชัวรี่ "พาร์ค ออริจิ้น จุฬา-สามย่าน" กวาดยอดรอบ VVIP ไปกว่า 50% สวนทิศทางตลาด มั่นใจยอดขายทั้งปียอดเยี่ยมตามเป้า 28,000 ล้านบาท เผยQ3/62 เล็งเปิด 6 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 8.10 พันลบ.

 

 

 

 

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2/2562 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้อย่างยอดเยี่ยมถึง 7,290 ล้านบาท โดยขณะนี้ยอดขายสะสมของบริษัทในครึ่งปีแรกคือ 13,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% ของเป้าหมายทั้งปี สาเหตุหลักมาจากโครงการใหม่ที่เปิดตัวในช่วงไตรมาส 2 จำนวน 2 โครงการ ได้แก่

 

1. โครงการดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange) โครงการภายใต้แบรนด์น้องใหม่ "ดิ ออริจิ้น" โครงการแรก 

 

2. โครงการพาร์ค ออริจิ้น จุฬา-สามย่าน (PARK ORIGIN Chula-Samyan) สามารถสร้างยอดขายได้เหนือความคาดหมาย

 

 

 

 

 

"ยอดจองของโครงการส่วนใหญ่ทั้งตลาดปีนี้ไม่ได้สูงนักในวันพรีเซล แต่ขณะที่ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ มีผู้บริโภคมารอต่อแถวเข้าคิวจองตั้งแต่ช่วงเช้ามืดและกวาดยอดขายอย่างถล่มทลายกว่า 700 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาทภายในช่วงเปิดพรีเซลครั้งแรก ขณะเดียวกัน โครงการพาร์ค ออริจิ้น จุฬา-สามย่านนั้น แม้จะเพิ่งเปิดขายรอบ VVIP ยังไม่ได้เปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการ ก็สามารถกวาดยอดขายไปได้แล้วกว่า 50% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท ทั้ง 2 เรื่องถือเป็นปรากฏการณ์แห่งปีที่สวนกับทิศทางตลาด" นายพีระพงศ์ กล่าว

 


ทั้งนี้ คาดว่ากระแสตอบรับที่ยอดเยี่ยมดังกล่าว มาจากศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการ ประกอบกับฟังก์ชั่นต่างๆ ในโครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค และที่สำคัญคือ ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ขณะเดียวกัน โครงการอื่นๆ ที่เปิดขายมาแล้วก่อนหน้านี้ ก็ยังสามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่องทุกโครงการ

 

 

นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า จากปริมาณยอดขายและกระแสตอบรับจากผู้บริโภคที่ยังคงเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม ทำให้บริษัทมีความมั่นใจในการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาสที่ 3/2562 บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่อีกประมาณ 6 โครงการ ได้แก่ โครงการพาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี โครงการเคนซิงตัน ดิสทริค ระยอง โครงการภายใต้แบรนด์ดิ ออริจิ้นอีก 3 โครงการใน 3 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ รัชดา ลาดพร้าว และสุขุมวิท และโครงการบ้านจัดสรร บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ 1 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมกว่า 8,100 ล้านบาท

 

 

"ครึ่งปีหลังของปีนี้ เรายังมีโครงการที่รอเปิดตัวอีกจำนวนมากในทุกเซ็กเมนท์ครอบคลุมทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร รวมถึงยังมีแคมเปญอีกหลายอย่างที่รอเปิดตัว เริ่มจากของแบรนด์ดิ ออริจิ้น ที่จะเปิดตัวคอนเซ็ปต์ของแบรนด์พร้อมแคมเปญการตลาดอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 11 ก.ค.นี้ เชื่อว่าจะตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในทุกระดับ และส่งผลให้ยอดขายในปี 2562 เป็นไปตามเป้าหมาย 28,000 ล้านบาท" นายพีระพงศ์ กล่าว

 

 

 

 

 

สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย

 

1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 58 โครงการ เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) ดิ ออริจิ้น (The Origin) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 94,000 ล้านบาท

 

2.ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก

 

3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร

 

 


ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ORI แนะนำ OUTPERFORM ราคาพื้นฐาน 11.10 บาท การเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการคือ Park Origin Chula Samyan (4.6 พันล้านบาท) และ The Origin Ram 209 Interchange (2 พันล้านบาท) คาดได้ยอดจอง 50% และ 70% ตามลำดับ ซึ่งถือว่าค่อนข้างดีมากเมื่อเทียบกับคาดการณ์ที่ 20-35% ดังนี้คาดว่ายอด Presales และ Backlog จะเพิ่มขึ้นอีก 3 พันล้านบาท ทำให้ YTD Presales คิดเป็น 50% ของเป้าทั้งปีที่ 2.8 หมื่นล้านบาท และ Backlog เพิ่มขึ้นเป็น 4 หมื่นล้านบาท เราคาดว่าความสำเร็จของโครงการดังกล่าวจะช่วยหนุน sentiment ต่อยอดขายของ ORI ในโครงการที่เหลืออีก 6 โครงการคือ Park Origin Ratchathewi และ The Origin 5 โครงการ

 

 

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า เริ่มต้นคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ ORI ด้วยเหตุผล

 

1) มี Backlog ที่แข็งแกร่ง 34,082 ล้านบาทจากโครงการที่ ORI พัฒนาเอง 17,875 ล้านบาทและโครงการที่เป็นสัญญาร่วมทุน (JV) กับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด 16,207 ล้านบาทสามารถทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2564

 

2) ปี 2562 คาดกำไรปกติโต 8.74%YoY ที่ระดับ 2,948 ล้านบาทหนุนด้วยโครงการใหม่ 5 โครงการและอีก 22 โครงการที่สร้างเสร็จแล้วอยู่ระหว่างโอน

 

3) มีศักยภาพในการทำกำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ซึ่งสะท้อนได้จากช่วง 1Q62 ORI มีอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 45.8% และ 22.9% มากกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 33.3% และ 16.2% ตามลำดับ

 

4) มีฐานะการเงินแข็งแกร่งคาดสิ้นปี 2562 ORI มี Net IBD/E ที่ระดับ 1.22x ซึ่งยังต่ำกว่าเพดานที่กำหนด 2.0x 5) ปัจจุบันซื้อขายที่ PER 5.25x ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -1.25SD ย้อนหลัง 3 ปีที่ระดับ 6.42x อีกทั้งยังมี Upside 34.6% จากราคาเป้าหมายปี 2562 ที่ 10.3 บาท อิง PER 8.0x (ค่าเฉลี่ย PER ของหุ้นในกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์) ภายใต้สมมติฐานไม่มีการใช้สิทธิแปลงสภาพ ORI-W1 และคาดมีเงินปันผลที่ 0.52 บาท/หุ้น ตามนโยบาย DPR ที่ระดับ 40% คิดเป็น Div. Yield 6.75%

 

 

 

 

 

 

มีการจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยจริงจากแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ที่มีการเติบโตบวกกับมีการขยายสถานีรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นทำให้มีแนวโน้มที่จำนวนประชากรโดยรอบบริเวณสถานีรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นในอนาคตบวกกับรถไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะเป็นการคมนาคมหลักทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้นสอดคล้องกับแบรนด์ The Origin ที่จับกลุ่มลูกค้าคอนโดใกล้รถไฟฟ้า อีกทั้งในพื้นที่ EEC ปี 2561 มีการขอส่งเสริมการลงทุนมูลค่า 683,900 ล้านบาทโต 137.4%YoY ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีการลงทุนในปี 2562 ทำให้มีแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะขยายตัวต่อเนื่องได้ในระยะยาว สอดคล้องกับโครงการ Origin District Rayong ที่ลงทุนในพื้นที่ EEC

 

 

ปี 2562 คาด ORI จะมีกำไรสุทธิ 3,161 ล้านบาท หดตัว 5.3%YoY หากไม่รวมกำไรจากการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท พาร์ค ออริจิ้น พระราม 4 จำกัด (บริษัทย่อย) ในช่วง 1Q62 ที่ 213 ล้านบาท คาด ORI จะมีกำไรปกติโต 8.74%YoY อยู่ที่ระดับ 2,948 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่ระดับ 2,711 ล้านบาท (ไม่รวมรายการพิเศษจากกำไรจากการโอนสิทธิสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินในช่วง 2Q61 ที่ 311 ล้านบาทและกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อยช่วง 4Q61 ที่ 314 ล้านบาท) แม้คาดมีปัจจัยลบจาก

 

 

1) อัตรากำไรขั้นต้นที่คาดปรับลงอยู่ที่ระดับ 43.2% จาก 45.3% ในปี 2561 หลังบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการบ้านมากขึ้นที่ระดับ 35% จาก 23% ด้วยมูลค่าโครงการ 9,650 ล้านบาท

 

2) SG&A/Sales คาดทรงตัวที่ระดับ 18.8% จากโครงการ Park 24 เฟส 2 ที่ทยอยโอนต่อเนื่อง อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยบวกด้วยแรงหนุนจาก รายได้ขายอสังหาริมทรัพย์ที่คาดโต 13.4%YoY สู่ระดับ 16,513 ล้านบาท มาจาก Backlog โครงการที่ ORI พัฒนาเอง 17,875 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดรับรู้รายได้ในช่วง 2Q62-4Q62 ที่ 9,469 ล้านบาท (Secure Revenue 64%) โดยมาจากการโอนโครงการใหม่ 5 โครงการ และอีก 22 โครงการที่สร้างเสร็จแล้วอยู่ระหว่างโอน

 

ORI

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

HotNews: MTC กำไร Q1/67 โต 29.8% ดีกว่าโบรกฯคาด ทั้งปีคาดพุ่ง 22%

MTC ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่ไมโครไฟแนนซ์มาตรฐานระดับโลก เน้นจุดแข็งความยั่งยืน.....

ชมงบ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ช่วงนี้ คงต้องรอชมนก ชมไม้ เอ้ย รอชม ผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ของบริษัทจดทะเบียน เริ่มทยอย...

CFARM จับมือ APM UOBKH และ BYD ประเดิมโรดโชว์ให้ข้อมูลนักลงทุน จ.ชลบุรี

CFARM จับมือ APM UOBKH และ BYD ประเดิมโรดโชว์ให้ข้อมูลนักลงทุน จ.ชลบุรี

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้