Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: ORI ลุยเปิดคอนโดฯร่วมทุนโนมูระ “Knightsbridge Prime Onnut” ”กว่า 2.5 พันลบ. -ANAN ครึ่งปีหลังโกยยอดขาย 1.65 หมื่นลบ. เปิด 8 โครงการ กว่า1.6 หมื่นลบ. - RICHY อัดแคมเปญ กระตุ้นโค้งสุดท้ายQ3 -ยันเป้าปีนี้รับรู้รายได้ 1 พันลบ.

1,311

 

HotNews:  ORI  ลุยเปิดคอนโดฯร่วมทุนโนมูระ  “Knightsbridge Prime Onnut” ”กว่า 2.5 พันลบ.

-ANAN  ครึ่งปีหลังโกยยอดขาย 1.65 หมื่นลบ.  เปิด 8 โครงการ กว่า1.6 หมื่นลบ.

- RICHY  อัดแคมเปญ กระตุ้นโค้งสุดท้ายQ3 -ยันเป้าปีนี้รับรู้รายได้  1 พันลบ. 

 

  สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (12 ก.ย. 2560) -----  ORI  เปิดตัวโครงการใหม่ “ไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช” มูลค่า 2,500 ล้านบาท หนึ่งใน 3 โครงการร่วมทุน “โนมูระ” ชูจุดขาย THE PRIME OF LIVING ที่โดดเด่นในเรื่อง PRIME AREA, PRIME DESIGN และ PRIME FACILITY ด้วยความสูง 47 ชั้น สูงสุดในย่านอ่อนนุช ชี้เป็นพื้นที่ทำเลศักยภาพ พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานอีเวนท์ใหญ่ “My Life. My Origin” ณ สยามพารากอน 16-17 ก.ย.นี้

RICHY  กระหน่ำแคมเปญโค้งสุดท้ายไตรมาส 3 ชูโปรโมชั่น“วันเดียว ราคาเดียว”   23 ก.ย. นี้  นำ 12 โครงการ สุดยอดทำเล คัดห้องพิเศษ วิวสวย เคาะราคาเริ่ม 1.79 ล้านตั้งเป้าตุน Backlog ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ยันนี้ปีรับรู้รายได้ตามเป้า 1,000 ล้านบาท

  ANAN คาดQ3/60 โกยรายได้ 3.6 พันลบ. หวังQ4/60 ทำได้ 1.63 หมื่นลบ. ทั้งปี 2.5 หมื่นลบ. ตามเป้า คาดครึ่งปีหลังมียอดขาย 1.65 หมื่นลบ. ทั้งปีเข้าเป้า 3.1 หมื่นลบ.  จะเปิดอีก 8 โครงการใหม่ มูลค่า 1.6 หมื่นลบ. ในQ3-Q4 นี้  เตรียมออกหุ้นกู้ 2 พันลบ. ช่วงเดือน ต.ค. นี้ เพื่อรีไฟแนนซ์-เป็นทุนหมุนเวียน  


นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์เคนซิงตัน, นอตติ้ง ฮิลล์, และไนท์บริดจ์ เปิดเผยว่า จากการร่วมมือกับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด พัฒนาโครงการร่วมกันและเปิดขายในไตรมาส 3 ปีนี้ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 6,100 ล้านบาทนั้น โครงการที่ถือเป็นไฮไลท์และมีมูลค่าโครงการมากที่สุด คือโครงการไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช (Knightsbridge Prime Onnut) ซึ่งจะกลายเป็นแลนด์มาร์คที่สูงที่สุดในย่านอ่อนนุช

  โครงการดังกล่าว เป็นคอนโดมิเนียม High-rise สูง 47 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 600 ยูนิต และ 1 รีเทล มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท พร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Fitted ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.69 ล้านบาท ประกอบด้วยห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 22-31 ตร.ม. และแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55 ตร.ม. ที่ถูกพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ ช่วงเวลาที่สุดของการใช้ชีวิต (THE PRIME OF LIVING) บนพื้นที่ที่ถือได้ว่าเป็น PRIME AREA แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

  ที่ตั้งของโครงการอยู่บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ในซอยสุขุมวิท 77 ติดบิ๊กซี อ่อนนุช ระยะห่างจาก BTS อ่อนนุช เพียง 600 เมตร และใกล้โครงข่ายรถไฟฟ้า 2 สาย ได้แก่ สายสีเขียว (สุขุมวิท) สถานีอ่อนนุช เชื่อมต่อใจกลาง CBD ชั้นนำของกรุงเทพฯ ตลอดจนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว– สำโรง) อีกทั้งยังใกล้ ทองหล่อ-เอกมัย ที่ถูกจัดให้เป็นแหล่ง Hangout ชั้นนำของกรุงเทพฯ สำหรับการเดินทางเข้า-ออกเมือง ด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็เพียงแค่ 10 นาที จาก 2 จุดขึ้น-ลงทางด่วน (รามอินทราอาจณรงค์ และ เฉลิมมหานคร) และห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 20 นาที

  ด้านการออกแบบ พัฒนาขึ้นมาด้วยแนวคิด PRIME DESIGN เน้นโทนสีดำ-ทอง ให้ความรู้สึกหรูหราอย่างมีระดับ มาพร้อมวัสดุระดับพรีเมียม ตัวโครงการหันหน้าไปทางทิศเหนือ ติดกับถนนอ่อนนุชฝั่งขาเข้า ทำให้สะดวกต่อการเดินทาง ทุกๆ ห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงเพดาน (Floor to ceiling) ถึง 3 เมตร ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย สร้างความสุขอย่างมีระดับให้กับผู้พักอาศัย พร้อมให้ความเป็นส่วนตัวด้วยการจำกัดจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดเพียง 23 ยูนิต

  เหนือชั้นด้วย PRIME FACILITY ที่จอดรถเป็นระบบ Auto Parking ตั้งแต่ชั้น 2-15 รองรับการจอดได้ถึง 65% มีจุดชาร์ตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า รองรับการเปลี่ยนผ่านแห่งอนาคต พื้นที่ส่วนกลางถูกจัดไว้ถึง 3 ชั้น พร้อมพื้นที่สีเขียวกว่า 1 ไร่ โดยส่วน Facility หลัก อยู่ที่ชั้น 37-38 เริ่มต้นจากชั้น 37 ประกอบด้วยส่วน Executive Meeting Room และ Private Meeting Room ห้องประชุมส่วนกลาง ที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกันกับ Sky Co-Working Space ตอบโจทย์คนทำงานรุ่นใหม่ ห้อง Steam แยกชาย-หญิง สระว่ายน้ำขนาด 14.5 x 20 x 1.2 เมตร ที่มีส่วน Pool Bar กับ Pool Bed และ Fitness ขนาดกว่า 100 ตร.ม. ในแบบ Double Space 

“Facility ที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งในโครงการนี้ คือฟิตเนส เพราะได้นำแนวคิด Luxmore และวิธีแบบโนมูระเข้ามาผสมผสาน โนมูระมองว่าฟิตเนสไม่ใช่แค่สถานที่ออกกำลังกาย แต่เป็นสถานที่สร้างสมดุลระหว่างร่างกายและจิตใจ จึงได้พัฒนาฟิตเนสที่แบ่งโซนนิ่งชัดเจน ระหว่างโซนออกกำลังกายและโซนรีแลกซ์ โดยในโซนรีแลกซ์จะมีอาร์ตเวิร์คสวยงามเป็นจุดนำสายตา ให้ความรู้สึกเบาสบาย ขณะเดียวกันมีการออกแบบพื้นที่ให้มีช่องแสงที่ลมผ่านได้ แต่คนผ่านไม่ได้ ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว” นายพีระพงศ์ กล่าว

  ขณะที่ชั้น 38 มี Sky Co-Culinary Space  เหมาะสำหรับการจัดปาร์ตี้เล็กๆ แบบอบอุ่นระหว่างคนรู้ใจหรือเพื่อนสนิท สามารถชวนกันมาทำอาหารทานกันเองได้ที่ครัวส่วนกลาง พร้อมอุปกรณ์ครบครัน หรือจะจัดสังสรรค์หลังการประชุมก็สามารถทำได้ ภายในชั้นเดียวกันนี้ยังมี BUSINESS LOUNGE ที่ให้บรรยากาศหรูหรา โอ่โถ่งอีกด้วย

  สำหรับชั้น 47 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของโครงการ ถูกออกแบบให้เป็นสวนเล่นระดับ เพื่อให้สามารถชมวิวในแบบพาโนรามา สามารถมองเห็นโค้งน้ำเจ้าพระยา พร้อมพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของบางกระเจ้า มีไฮไลท์อยู่ที่ส่วน Bangkok Skyscraper Deck ซึ่งออกแบบให้เป็นจุดชมวิวแบบพื้นกระจก สร้างบรรยากาศการพักผ่อนรูปแบบใหม่

  “โครงการไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุชจะเปิดขายอย่างเป็นทางการพร้อมกับอีก 2 โครงการร่วมทุน ในงานมหกรรมสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกของออริจิ้นภายใต้ชื่อ My Life. My Origin ณ แฟชั่น ฮอลล์ และรอยัล พารากอน ฮอลล์ 3 ศูนย์การค้าสยาม พารากอน รวมพื้นที่กว่า 3,000 ตร.ม. ในวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 16-17 กันยายนนี้ ภายในงานยังมีโครงการพร้อมอยู่ทำเลรถไฟฟ้าอีกนับสิบโครงการ มาพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษอยู่ฟรี 3 ปีและส่วนลดสูงสุด 1 ล้านบาท มุ่งหวังจะสร้างมิติใหม่แห่งการอยู่อาศัยแก่ผู้บริโภค” นายพีระพงศ์ กล่าว

  พื้นที่บริเวณรอยัล พารากอน ฮอลล์ 3 จะจัดแสดงทั้ง 3 โครงการร่วมทุนกับโนมูระ พร้อมด้วยโครงการที่อยู่ระหว่างพรีเซลและระหว่างก่อสร้างอีก 8 โครงการ ขณะที่บริเวณแฟชั่น ฮอลล์จะจัดแสดงโครงการพร้อมอยู่ 12 โครงการ

  นายพีระพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงศักยภาพทำเลอ่อนนุชว่า ในช่วงที่ผ่านมามีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เข้ามาพัฒนาโครงการในพื้นที่นี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากราคาที่ดินในย่านใจกลางธุรกิจมีราคาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาขายคอนโดมิเนียมขยับสูงขึ้นตามไปด้วย ทำให้กลุ่มลูกค้าระดับกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ของตลาดไม่สามารถหาซื้อที่อยู่อาศัยในย่านธุรกิจได้ ประกอบกับการขยายตัวของทำเลสุขุมวิท และการเปิดใช้อย่างเป็นทางการของรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายจากอ่อนนุชไปแบริ่ง ยิ่งช่วยทวีความน่าสนใจให้กับอ่อนนุชเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยยังพอจับต้องได้ และไม่ไกลจากย่านใจกลางธุรกิจ เมื่อเทียบกับโครงการที่อยู่ในส่วนต่อขยายจากแบริ่งไปยังสมุทรปราการ ยิ่งการขยายตัวของแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เชื่อมต่อจุด Interchange บางนา-สุวรรณภูมิ ยิ่งทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ขณะที่ราคาที่ดินในย่านอ่อนนุชก็ขยับเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 10% ทุกปี

  เมื่อพิจารณาในส่วนของ Traffic และ Demand ของการปล่อยเช่า ถือว่าอยู่ในระดับสูงทั้งจากกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างชาติ โดยอัตราค่าเช่าในสุขุมวิท 77 ของห้องชุดขนาด 24 ตร.ม. อยู่ที่ประมาณ 10,000-15,000 บาทต่อเดือน อัตราผลตอบแทน (YIELD) อยู่ที่ 5-6% ในส่วนของอัตราค่าเช่าตามแนวถนนสุขุมวิทอยู่ที่ 15,000-25,000 บาทต่อเดือน  YIELD อยู่ที่ 4-6%

  “ในอนาคต อ่อนนุชจะกลายเป็นศูนย์กลางของการขยายตัวเป็นชุมชนชาวต่างชาติ โดยมีองค์ประกอบจากหลากหลายส่วน เช่น การขยายตัวของความต้องการอยู่อาศัยในราคาที่เหมาะสมของชาวต่างชาติ ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต การขยายตัวของที่พักอาศัย ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ” นายพีระพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายช 

ปัจจุบัน บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Project Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมมาแล้วประมาณ 38 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 36,000 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร


ดร.อาภา  อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ ริชี่ เพลซ 2002 (RICHY) เปิดเผยว่า ในวันเสาร์ที่    23 กันยายน 2560 ทางบริษัทฯ ได้จัดแคมเปญพิเศษ เพื่อคืนกำไรให้ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายภายใต้ชื่อ "วันเดียว ราคาเดียว" โดยนำโครงการต่างๆ ของบริษัทฯ 12 โครงการเข้าร่วม ทั้งคอนโด และบ้านแนวราบ โดยคัดห้องพิเศษ วิวสวยคละเซ็ตกันระหว่างชั้น สนองตอบความต้องการที่หลากหลายส่วนบ้านแนวราบ คือ โครงการเดอะริชวิลล์ ราชพฤกษ์ และเดอะริช บิชโฮม สุขุมวิท 105 ก็เลือกแปลงพิเศษเพื่อเข้าร่วมโครงการนี้

   ในช่วงสุดท้ายไตรมาส 3 ได้คัดห้องพิเศษ คละเซ็ตกันระหว่างชั้นทั้ง 12 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการพร้อมอยู่ พร้อมโอน จำนวน 7 โครงการ เคาะราคาเริ่มที่ 1.79 ล้าน โครงการริชพาร์ค @ เจ้าพระยา ชมวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา 360 องศา ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าไทรม้า 80 เมตร, เลอริช พระราม 3 คอนโดริมถนนสาธุประดิษฐ์ เดินทางสะดวก ให้คุณใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ทุกวัน, ริชพาร์ค @ บางซ่อน คอนโดที่เชื่อมต่อชีวิต ใกล้ชิดธรรมชาติ สะดวกด้วยรถไฟฟ้า 2 สาย, ริชพาร์ค @เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ ติดรถไฟฟ้า 3 สาย สะดวกทุกการเดินทาง, เดอะริชวิลล์ ราชพฤกษ์ ตอบรับทุก Lifestyle ให้เหมือนทุกวันเป็นวันพักผ่อนของคุณ, เดอะริช บิชโฮม สุขุมวิท 105 สุดยอดทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในย่านสุขุมวิท 105 ตอบสนองทุกธุรกิจทุกสไตล์, เดอะริช @ สาทร-ตากสิน เชื่อมต่อกับการเดินทางแค่ 100 เมตร จาก BTS วงเวียนใหญ่ สู่ใจกลางเมือง รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ           ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและเตรียมก่อสร้างอีก 5 โครงการ คือ ริชพาร์ค ลอฟท์ @ หลักสี่ สเตชั่น ติดสถานี BTS อนุสาวรีย์หลักสี่ 0 เมตร  ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว, เดอะริช นานา คอนโดมิเนียมหรูหรา ที่เริ่มเพียง 8 ล้านเศษ ใกล้รถไฟฟ้าสถานีนานา สุขุมวิท ซอย3,   ดิเอท คอลเลคชั่น เชื่อมต่อทุกเส้นทาง สองฝากฝั่งกรุงเทพ - ธนบุรี ด้วยเส้นทางสะพานพระราม 8 ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย  ใกล้สถานที่ราชการสำคัญ, ริชพาร์ค ทริปเปิ้ลสเตชั่น คอนโดสูง 37 ชั้น 0 ม. เชื่อมต่อรถไฟฟ้า 3 สาย บนถนนศรีนครินทร์  เริ่มโอนกรรมสิทธิ์ต้นปี 2561 และเดอะริชอเวนิว ดำรงรักษ์ อัครสถานแห่งอาคารพาณิชย์ความ เปิดประตูสู่การลงทุน

สำหรับแคมเปญนี้บริษัทฯ ได้คัดห้องพิเศษทั้ง 12 โครงการ ซึ่งมีจำนวนจำกัด และได้วางเป้าตุน Backlog ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นโครงการพร้อมโอน ซึ่งจะนำไปสะสมเพิ่มเป็นยอดรับรู้รายได้ในปี 60  ที่ประมาณไว้ 1,000 ล้านบาท



นายจอร์น เลสลี่ มิลลาร์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนากลยุทธ์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดเผยว่า บริษัทคาดไตรมาส 3/60 จะสามารถรับรู้ยอดโอนทั้งสิ้น 3,600 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 4/60 จะเป็นช่วงที่จะรับรู้ยอดโอนได้มากสุด หรือประมาณ 16,700 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ทั้งปีนี้บริษัททำรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 25,000 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากปีก่อนทำได้ 12,345.19 ล้านบาท 

ขณะที่บริษัทคาดครึ่งปีหลังจะสามารถทำยอดขายได้ 16,500 ล้านบาท ตามการเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่โครงการอื่นๆ ที่ทำการเปิดมาก่อนหน้านี้ยังสามารถสร้างยอดขายได้อย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้สต๊อกเหลือขายในปัจจุบันเหลือเพียง 0.1% ของโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท  ซึ่งจะทำให้ทั้งปีนั้นบริษัทจะสามารถทำยอดขายได้ 31,000 ล้านบาท ตามเป้า 

" เป้าหมายยอดขายปีนี้เราตั้งไว้ 31,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะสามรรถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากแผนเบื้องต้นนั้นตั้งไว้ในช่วงไตรมาส 1/60 ที่ 4,000 ล้านบาท ต่อมาเป็นไตรมาส 2/60ที่ 11,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้  ขณะที่ไตรมาส 3/60 คาดไว้ที่ 6,300 ล้านบาท และไตรมาส 4/60 ที่ 9,200 ล้านบาทซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมาย "  นายจอร์น กล่าว 

พร้อมกันนี้บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ ในช่วงที่เหลือของปีนี้อีก 8 โครงการ โดยแบ่งเป็น ไตรมาส 3/60 จำนวน 3 โครงการ ประเภทแนวราบ มูลค่าราว 3,000 ล้านบาท ขณะที่ ไตรมาส 4/60 จะเปิดตัวอีก 5โครงการ แบ่งเป็น แนวราบ 1 โครงการและแนวสูงอีก 4 โครงการ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 13,000 ล้านบาท   โดยทั้งปีบริษัทจะเปิดโครงการรวมทั้งสิ้น 17 โครงการ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 42,000 ล้านบาท 

นอกจากนี้ทางบริษัทยังเดินหน้าซื้อที่ดินใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ได้เตรียมงบไว้ทั้งสิ้น 13,000-14,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ใช้ราว 7,000 ล้านบาท  เพื่อพัฒนาโครงการใหม่ๆในทำเลย์ที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่องในทุกปี  

อีกทั้งบริษัทเตรียมออกหุ้นกู้ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท ในช่วงเดือน ต.ค. 60 นี้ โดยแบ่งเป็น 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมารีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมที่หมดอายุขณะที่อีก 1,000 ล้านบาท  เพื่อนำมาเงินเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจต่อไป 





----จบ---- 



 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

TMILL ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผู้ถือหุ้นโหวตรับปันผลอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น

TMILL ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผู้ถือหุ้นโหวตรับปันผลอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น

ไปไม่ไกล By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ ภาพรวมหุ้นไทย คงวิ่งไม่ไกล ไม่แรง ด้วยทั่วโลก จับตา ประธานเฟด แถลงผลประชุม 1พ.ค.67 ...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้