News Feed

HotNews: QTC ศึกษาโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาว 164 Mw -ORI ปันผลระหว่างกาล 0.05 บ./หุ้น แจกวอร์แรนต์

25 ก.ย. 2560 16:47:53 1,134

HotNews: QTC ศึกษาโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาว 164 Mw

-ORI ปันผลระหว่างกาล 0.05 บ./หุ้น แจกวอร์แรนต์

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(25กันยายน2560)--------- QTC จรดปากกาเซ็นMOU แบบExclusive Rightกับ เจริญ เซกอง กรุ๊ปศึกษาฯลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาว2โครงการ รวม 164 Mw

ORI ปันผลระหว่างกาล 0.05 บ./หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 5 ต.ค.60 และวันที่จ่ายปันผล 20 ต.ค.60 พร้อมแจกวอร์แรนต์ผถห.เดิม4 : 1 อายุ 3 ปี อัตราการใช้สิทธิ์ 1:1 ที่ราคา 20.00 บาท XW 6 พ.ย.60 เสนอขาย 15 พ.ย.60 วันใช้สิทธิ์ครั้งแรก ครบกำหนด 12 เดือน นับจากวันออก 30 พ.ย.60 คือ ภายใน 30 พ.ย.61 ครั้งถัดไป

นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสินประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)QTCเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2560 บริษัทได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับบริษัท เจริญ เซกอง กรุ๊ป จำกัด (“CSG”) ซึ่งเป็นบริษัทลาวที่มีประสบการณ์ใน การพัฒนาและเป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลายโครงการในประเทศลาว โดย CSG ตกลงให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive Right) แก่บริษัทในการศึกษาข้อมูล และตรวจสอบสถานะเพื่อประเมินความเป็นไปได้ใน การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาวจำนวน 2 โครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 164 เมกะวัตต์ โดย CSG ตกลงที่จะไม่เจรจาหรือเข้าทำสัญญาใดๆ ไม่ว่าโดยตรงกับโดยอ้อมแก่บุคคลอื่นในระหว่างระยะเวลาที่ได้ให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวกับบริษัท

อย่างไรก็ดี บริษัทไม่มีความผูกพัน ที่จะต้องลงทุนในโครงการดังกล่าว เนื่องจากบันทึกความเข้าใจเป็นข้อตกลงเพื่อการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในเบื้องต้นเท่านั้น

นายพูลพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า QTC ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับบริษัท เจริญ เซกอง กรุ๊ป จำกัด (“CSG”) ซึ่งเป็นบริษัทลาวที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาและเป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลายโครงการในประเทศลาว โดย CSG ตกลงให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive Right) แก่ QTC ในการศึกษาข้อมูล และตรวจสอบสถานะเพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาวจำนวน 2 โครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 164 เมกะวัตต์ โดย CSG ตกลงที่จะไม่เจรจาหรือเข้าทำสัญญาใดๆ ไม่ว่าโดยตรงกับโดยอ้อมแก่บุคคลอื่นในระหว่างระยะเวลาที่ได้ให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวกับ QTC อย่างไรก็ดี QTC ไม่มีความผูกพัน ที่จะต้องลงทุนในโครงการดังกล่าว เนื่องจากบันทึกความเข้าใจเป็นข้อตกลงเพื่อการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในเบื้องต้นเท่านั้น

ทั้งนี้ การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำทั้งสองโครงการดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามแผนการขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของ QTC เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบัน QTC ได้ดำเนินการตามแผนการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าแล้วสองโครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นของ QTC รวมจำนวน 33.5 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Minbu ที่ประเทศเมียนมาร์ กำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 170 เมกะวัตต์ (หรือคิดเป็น 25.5 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการถือหุ้นของ QTC)

คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ตามแผนในปี 2561 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ของ L Solar 1 ที่จังหวัดปราจีนบุรี กำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวม 8 เมกะวัตต์ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วตั้งแต่ปี 2554 โดย QTC ได้รับโอนหุ้นของ L Solar 1 จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา และคาดว่า QTC จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากผลการดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ของ L Solar 1

นอกจากนี้ ในงวด 6 เดือนของปี 2560 รายได้จากธุรกิจหม้อแปลงซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทเอง ก็ได้ปรับตัวดีขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2559 ตามความต้องการซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าในตลาดที่มีสัญญาณที่ดีขึ้น และคาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทเชื่อว่าการเติบโตของธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าร่วมกับการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจะเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนให้ QTC สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน และสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ตามความตั้งใจของ QTC

ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ORI เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลดำเนินงานงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.60 และกำไรสะสม จ่ายเป็นเงินสด 0.05 บาท/หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 5 ต.ค.60 และวันที่จ่ายปันผล 20 ต.ค.60

พร้อมออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ครั้งที่ 1 (ORI-W1) จำนวน 406,574,337 หน่วย จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นสามัญเดิม ในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิม : 1 หลักทรัพย์แปลงสภาพ ราคาเสนอขาย 0.00 บาทต่อหน่วย เสนอขายในวันที่ 15 พ.ย.60 กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิซื้อหลักทรัพย์แปลงสภาพ 6 พ.ย.60 อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้น ราคาการใช้สิทธิ 20.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิฯ

ผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิฯ สามารถใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ได้ในครั้งแรก เมื่อครบกำหนด 12 เดือน นับจาก วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิฯ (ภายใน 30 พ.ย.61) ครั้งถัดไปวันทำการสุดท้ายของไตรมาส (โดยเริ่มไตรมาส 1/62)

ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่มเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิฯ 1และเมื่อมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ในอนาคต บริษัทจะสามารถนำเงินที่ได้จากการใช้สิทธิดังกล่าวไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทในอนาคต เพื่อให้บริษัทมีเงินทุนเพียงพอสาหรับการลงทุนขยายธุรกิจของบริษัท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบในบทวิเคราะห์หลักทรัพย์วันนี้ว่า เช้านี้บริษัทประกาศปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด จำนวน 0.05 บาท XD 5 ต.ค.60 จ่ายปันผล 20 ต.ค.60 (SET)

ผลกระทบ: คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผล (payout ratio) ที่ 18.5% และเป็นอัตราผลตอบแทนปันผลที่ไม่สูงนักคือ 0.26% จากประมาณการเงินปันผลปีนี้ที่ 0.67 บาท ที่ปันผลออกระหว่างกาลออกมาน้อยเพราะกำไรปีนี้จะไปหนักใน 2H60 และเราใช้อัตราการจ่ายปันผลตลอดปีนี้ที่ 40%

ประกาศจัดสรรวอร์แรนท์ ORI-W1 ไม่คิดมูลค่า จัดสรรโดย 4 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนท์ อายุ 3 ปี อัตราการใช้สิทธิ์ 1:1 ที่ราคา 20.00 บาท XW 6 พ.ย.60 เสนอขาย 15 พ.ย.60 วันใช้สิทธิ์ครั้งแรก ครบกำหนด 12 เดือน นับจากวันออก 30 พ.ย.60 คือ ภายใน 30 พ.ย.61 ครั้งถัดไป วันทำการสุดท้ายของไตรมาส (เริ่ม 1Q62) (SET)

ผลกระทบ: ภาวะของวอร์แรนต์เป็นขาดทุน (out of the money) คือ ราคาปิดต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ์ แต่เนื่องจากมีอายุถึง 3 ปี คาดว่าจะยังมีมูลค่าของเวลาอยู่ (Time Value) ไม่เป็นศูนย์ ส่วนภาวะ Dilution Effect ที่ 20% หากมีการแปลงสภาพทั้งหมดในอนาคต จะยังไม่เกิดในปี 60 แต่จะไปเริ่มเกิดตั้งแต่ปี 61 เป็นต้นไป ตามเงื่อนไขวันที่เริ่มใช้สิทธิ์คือ ครั้งแรกภายใน 30 พ.ย.61

คำแนะนำ: อยู่ในช่วงการทบทวน (Review) เพราะราคาหุ้นปัจจุบันสูงกว่าราคาพื้นฐานแล้ว และต้องใส่เรื่องวอร์แรนท์เพิ่มในประมาณการ แต่ราคาหุ้นที่ผ่านมาปรับขึ้นสูงต่อเนื่องและเร็ว ระยะสั้นจึงอาจมีภาวะขายเมื่อมีข่าวดีจริง (sell on fact) ได้

----จบ---

https://www.hooninside.com/cache/author/1548402004_200x200_4.jpeg