Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : PTG ลั่น Q2/62 โตฉลุย ปี 62 พร้อมโตเต็มสูบ รายได้เข้าเป้า 1.4 แสนลบ.

3,346

HotNews : PTG ลั่น Q2/62 โตฉลุย ปี 62 พร้อมโตเต็มสูบ รายได้เข้าเป้า 1.4 แสนลบ.

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (27 พฤษภาคม 2562) PTG คาด Q2/62 โตต่อเนื่อง ตามค่าการตลาดดีขึ้นต่อเนื่อง - คงเป้าปี62 โกยรายได้ 1.4 แสนลบ. ระบุ ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายน้ำมัน PT Maxnitron 5 ล้านลิตร ลุยกิจกรรมการตลาด-ขยายช่องทางจัดจำหน่าย  ด้านกูรูทิสโก้ คาดปีนี้เป็นที่ดีของ PTG กลับมาเติบโตระดับสูง  ยังคงแนะนำ "ซื้อ"  คาดปีนี้เติบโตระดับ 114% YoY ด้วยกำไรสุทธิ 1,337 ล้านบาทจากปริมาณขายน้ำมันที่เติบโตและค่าการตลาดยังคงอยู่ในระดับสูง   ทำนายไตรมาส 2 เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1 จากทั้งปริมาณขายที่ยังเติบโตและค่าการตลาดที่ทรงตัว

 

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้การใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัมฯคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส2/2562 จะเติบโตได้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนและเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2562 เนื่องจากบริษัทฯมองว่าค่าการตลาดมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างเนื่อง รวมถึงปริมาณการจำหน่ายน้ำมันก็ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยในไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทฯมีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทั้งสิ้น 1,109 ล้านลิตร เติบโต 17.70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

 


ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้ปี 2562 แตะที่ระดับ 140,000 ล้านบาทจากปีก่อนที่ทำได้ 108,142.00 ล้านบาท ตามการเติบโตของปริมาณการขายน้ำมันที่คาดว่าจะเติบโต 16-20% โดยในปีนี้บริษัทฯ จะจัดกิจกรรมเพื่อเพิ่มยอดขายของสถานีบริการเดิม รวมถึงขยายสถานีบริการน้ำมันใหม่ให้เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 สาขา จากปีก่อนที่มีสถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ 1,884 สาขารวมถึงบริษัทฯยังได้มีการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างประสิทธิภาพ
ขณะที่โรงงานปาล์มคอมเพล็กซ์(ไบโอดีเซล) ปัจจุบันได้เดินเครื่องแล้ว 65% ด้วยกำลังการผลิต 3 แสนลิตร/วัน และบริษัทฯคาดว่าโรงงานผลิตไบโอดีเซลล์จะสามารถเดินเครื่องผลิตได้อย่างเต็ม100% ในช่วงไตรมาส 4/2562 และจะส่งผลให้บริษัทฯมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 450,000 ลิตร/วัน

 

 

 

 

 

พร้อมกันนี้ บริษัทฯได้วางงบลงทุนปีนี้ 4,000-5,000 ล้านบาท เพื่อใช้รองรับการขยายสาขาของสถานีบริการน้ำมันและแก๊ส LPG ประมาณ 2,500 ล้านบาท ธุรกิจ Non-oil 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้รองรับธุรกิจใหม่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่บริษัทฯในอนาคต

 

 

PTG ตั้งเป้าปีนี้ ยอดขาย น้ำมันหล่อลื่น "พีที แมกซ์นิตรอน" อยู่ที่ 5 ล้านลิตร

 

 

ตลาดน้ำมันหล่อลื่นในประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในตลาดน้ำมันหล่อลื่นที่ปราบเซียน อีกทั้งยังถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากอินโดนีเซีย ซึ่งมีมูลค่าการสั่งซื้ออยู่ที่ประมาณ 650 ล้านลิตรต่อปี โดยมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 3-4% ต่อปี ประกอบไปด้วยตลาดน้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ภาคขนส่งและโรงงานอุตสาหกรรม

 

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีจี (PTG) ได้กล่าวว่า หลังจากที่ได้เริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น "พีที แมกซ์นิตรอน" ภายในสถานีบริการน้ำมันพีทีทั่วประเทศ ในปลายปี 2016 ที่ผ่านมาถือว่าได้รับการตอบรับจากผู้ใช้เป็นอย่างดี ทำให้ในปี 2018 น้ำมันหล่อลื่น "พีที แมกซ์นิตรอน" มียอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

 

 

 

ในส่วนของปีนี้ บริษัทฯ ยังคงมีความมุ่งมั่นในการบุกตลาดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยในปี 2019 ตั้งเป้ายอดขายทั้งประเทศอยู่ที่ 5 ล้านลิตร ด้วยการทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ตราสินค้าร่วมกับคู่ค้า สนับสนุนกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ต ขยายช่องทางจัดจำหน่ายไปสู่ตัวแทนจำหน่าย, ร้านค้าอะไหล่ ตลอดจนอู่ซ่อมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตรงใจกับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อผลักดัน "พีที แมกซ์นิตรอน" ให้ก้าวขึ้นเป็นน้ำมันเครื่องอับดับหนึ่งในใจคนไทยทั่วประเทศ

 

 


เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณภาพและสมรรถนะระดับโลกของน้ำมันหล่อลื่น "พีที แมกซ์นิตรอน" จึงได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักของทีม PT Maxnitron Motorsport หลังจากการเฟ้นหานักแข่งที่มีความสามารถ จนกระทั่งได้พบกับ นายศิลป์ ธีรนิติ นักขับมือหนึ่ง อดีตนักบินผู้หลงไหลในกีฬามอเตอร์สปอร์ต จนยอมทิ้งพวงมาลัยเครื่องบิน หันมาจับพวงมาลัยรถแข่งและสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในสนามแข่งระดับประเทศในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า "พีที แมกซ์นิตรอน" สามารถตอบสนองทุกความต้องการของเครื่องยนต์ในทุกสภาวะการใช้งานแม้กระทั่งในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต

 

 


นอกจากนี้ ทางบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด มีความมุ่งมันที่จะสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ตให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย รวมถึงยกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทยให้ก้าวสู่ระดับสากลอย่างเต็มภาคภูมิ จึงได้มีการริเริ่มจัดแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ PT Maxnitron Super Challenge 2018 ขึ้นในปีที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมการแข่งขันในวงการกีฬาความเร็วในเมืองไทยและการพัฒนาบุคลากรในวงการมอเตอร์สปอร์ต ซึ่งเรียกได้ว่าสามารถทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม

 

 

 


นายศิลป์ ธีรนิติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 63 โปรเจค กล่าวว่า ในการจัดการแข่งขัน PT Maxnitron Super Challenge ในปี 2018 ที่ผ่านมา เราได้รับการตอบรับที่ดีมากจากทีมนักแข่งแนวหน้าระดับประเทศที่ต้องการเข้าร่วมมากกว่า 200 คัน จึงเป็นที่มาของการพัฒนาการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้นจนออกมาเป็นรายการ PT Maxnitron Racing Series 2019 ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันที่มีเงินรางวัลสูงสุดในตอนนี้ และ ได้มีการยกระดับมาตรฐานการจัดการแข่งขัน รวมถึงการรักษาความปลอดภัยขึ้นไปอยู่ในระดับสากล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนับสนุนและพัฒนาทีมงาน ตั้งแต่ทีมช่าง สตาฟฟ์ ไปจนถึงการสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ เพื่อให้มีพร้อมทั้งความรู้และความสามารถเพื่อเข้าแข่งในระดับนานาชาติ

 

 


โดยรายการ PT Maxnitron Racing Series 2019 จะจัดขึ้น ณ สนามที่ถือว่าเป็นสนามคลาสสิค และ เป็นตำนานอย่าง สนามพีระ อินเตอร์แนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี โดยแบ่งออกเป็น 6 races ใน 3 สนาม สนามที่ 1 วันที่ 27-28 กรกฎาคม 2562 สนามที่ 2 วันที่ 14-15 กันยายน 2562 และ ปิดท้ายสนามที่ 3 วันที่ 9-10 พฤศจิกายน โดยแบ่งออกเป็น 5 รุ่น คือ 1. SIAM GT 2. SIAM EG-EK (TWIN CAM) 3. SIAM EG-EK (SINGLE CAM) 4. SIAM 1500 5. SIAM ECO

 

 


นอกจากนี้ทางทีม PT Maxnitron Motorsport ยังอยากเชิญชวนเหล่านักกีฬา e-sport ที่มีใจรักในความเร็ว และอยากพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง มาเข้าร่วมแข่ง PT Maxnitron Motorsport Project E ผ่านเกม Assetto Corsa ในบรรยากาศการแข่งขันที่เร้าใจไม่ต่างจากในสนามจริง บนสนามจำลองที่เหมือนจริงที่สุด ลุ้นของรางวัลมากมาย พร้อมเฟ้นหานักแข่งหน้าใหม่ เพื่อเข้าร่วมทำการแข่งขันรถยนต์มาราธอนสุดยิ่งใหญ่ Super Endurance 600 สุดยิ่งใหญ่ปลายปี 2019 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงการแข่งขันได้ที่ www.facebook.com/ptmaxnitronmot

 

 

 

กูรูทิสโก้ซื้อ PTG เป้าใหม่ 15 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า คาดเป็นปีที่ดีของ PTG กลับมาเติบโตระดับสูง ยังคงแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ PTG ด้วย

1) เราคาดปีนี้ PTG จะเติบโตระดับ 114% YoY ด้วยกำไรสุทธิ 1,337 ล้านบาทจากปริมาณขายน้ำมันที่เติบโตและค่าการตลาดที่ YTD ยังคงอยู่ในระดับสูง

2) คาดไตรมาส 2 จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1 จากทั้งปริมาณขายที่ยังเติบโตและค่าการตลาดที่ทรงตัว QoQ

3) เริ่มเก็บเกี่ยวรายได้จากธุรกิจ Non-Oil จากแนวโน้มธุรกิจร้านกาแฟทั้งร้านกาแฟพันธุ์ไทยและ CoffeeWorld ที่คาดจะถึงจุดคุ้มทุนในปีนี้ และคาดจะเริ่มเห็นธุรกิจอื่นๆ เริ่มทยอยคุ้มทุนในปีต่อไป ซึ่งเรามองว่าปีนี้จะเป็นปีที่แตกต่างจากปีที่ผ่านมาของบริษัท

 


มีโอกาสเห็นไตรมาส 2 ที่เติบโตทั้ง YoY และ QoQ

 


คาดผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องใน 2Q19F จากโดยปกติแล้วไตรมาส 2 จะมีปริมาณขายที่เติบโต QoQ จากการเป็นไตรมาสที่มีวันหยุดยาวมาก มีความต้องการในการเดินทางและขนส่ง โดย ณ QTD ยังเติบโต 22% YoY โดย 2Q18 ปริมาณขายอยู่ที่ 985 ล้านบาท ดังนั้น หากเติบโตระดับนี้ต่อเนื่องทั้งไตรมาส เราคาดปริมาณขายใน 2Q19F อยู่ที่ราว 1,100 - 1,200 ล้านลิตร ในขณะที่คาดค่าการตลาดยังคงอยู่ระดับสูง 1.98-2.08 บาทต่อลิตร ด้วยราคาน้ำมันดีเซลยังมีช่องว่างจากการตรึงราคาของภาครัฐที่ 30 บาทต่อลิตร สำหรับแนวโน้มในครึ่งปีหลัง จะเห็นการอ่อนตัวใน 3Q จากปัจจัยด้านฤดูกาลจากการเข้าสู่ฤดูฝนการขนส่งชะลอตัวและจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในไตรมาส 4

 

 

 

 



ปรับประมาณการผลประกอบการสะท้อนแนวโน้มค่าการตลาด

 


จากผลประกอบการ 1Q19 ที่ดีกว่าคาด และทิศทางค่าการตลาดซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลประกอบการของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่สูง ดังนั้น เราปรับประมาณการผลประกอบการของเรา6ขึ้น 67% ในปี 2019F คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,337 ล้านบาท และปี 2020F คาดอยู่ที่ 1,631 ล้านบาท (+22% YoY) โดยหลักๆ เป็นการปรับสมมติฐานค่าการตลาดมาอยู่ที่ 1.85 บาทต่อลิตรจากเดิมที่คาด 1.70 บาทต่อลิตร ยังต่ำกว่าค่าการตลาดในปัจจุบันซึ่งยังคงสมมติฐานที่เข้มงวดเนื่องจากเรามองว่าโดยปกติแล้วในครึ่งปีหลังค่าการตลาดจะอ่อนตัวลง ในขณะที่คาดจะเห็นการเก็บเกี่ยวจากธุรกิจ Non-oil โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจ LPG ที่มีอัตรากำไรระดับสูงและธุรกิจกาแฟที่คาดจะถึงจุดคุ้มทุนในครึ่งปีหลัง

 


***ยังคงแนะนำ "ซื้อ"***

 


ยังคงแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ PTG ด้วยราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 15 บาท จากเดิม 11.80 บาท (DCF) ปัจจุบัน PTG ซื้อขายอยู่ที่ PER 16.7x ปี 2019F และ PER 13.7x ปี 2020F ซึ่งอยู่ในระดับ -0.5 SD ปัจจัยเสี่ยงสำหรับ PTG ได้แก่ 1) ค่าการตลาดที่อ่อนตัวกว่าที่เราคาดไว้ 2) ปริมาณขายน้ำมันที่ต่ำกว่าคาด และความล่าช้าของธุรกิจ non-oil

 

PTG

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

GUNKUL ลุยขยายพอร์ตพลังงานทดแทน

GUNKUL ลุยขยายพอร์ตพลังงานทดแทน

ติดตาม By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หลังจาก นายกฯคุยกับนายแบงก์ วันนี้ สมาคมธนาคารไทย ก็ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อย...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้