HotNews :  PTG  ลุยงานเต็มสูบ เปิดธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย - คอฟฟี่เวิลด์ เสริมแกร่ง Non-oil 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (27 มีนาคม 2562) PTG เดินหน้าเปิดธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย และคอฟฟี่เวิลด์ เพื่อส่งเสริมผู้ที่ต้องการมีธุรกิจกาแฟ แย้มรับผลบวกการขยายสาขาร้านกาแฟให้เร็วขึ้น ดันธุรกิจ non-oil เติบโตอย่างมั่นคง พร้อม คาดผลงาน Q1/62 โตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน หลัง 2 เดือนแรกทำแล้ว - ค่าการตลาดกลับสู่สภาวะปกติ ตั้งเป้ารายได้ธุรกิจกาแฟปี 62 โต 30% แตะ 650 ลบ. จากปีก่อนทำได้ 500 ลบ. ตามการขยายสาขาต่อเนื่อง

 

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย และ คอฟฟี่เวิลด์ เพื่อส่งเสริมคนที่ต้องการมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง รวมทั้งบริษัทยังได้รับผลดีในด้านการขยายสาขาร้านกาแฟให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

 

สำหรับแผนธุรกิจในปี 2562 ของธุรกิจ non-oil โดยบริษัทวางแผนจะรักษายอดขายให้เติบโตได้ 50 - 60% ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมีสาขาให้บริการรวมกว่า 504 สาขา ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ Max Mart, ร้านกาแฟพันธุ์ไทย, ร้านคอฟฟี่เวิลด์, ร้านข้าวแกงครัวบ้านจิตร, ร้านซ่อมบำรุงสำหรับรถบรรทุก, Autobacs และ Max CAMP เป็นต้น

 

 

อีกทั้งบริษัทยังวางแผนขยายสถานีบริการใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 สาขา จากปี 2561 ที่มีสถานีบริการอยู่ที่ 1,883 สาขา โดยจะเน้นการขยายสาขาในทำเลที่สามารถรองรับการให้บริการ non-oil อื่นๆ แก่ลูกค้าอีกด้วย โดยบริษัทยังได้ตั้งงบลงทุนรวมจำนวน 3,500 ล้านบาท แบ่งเป็น ลงทุนในธุรกิจน้ำมันและธุรกิจที่เกี่ยวข้องอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท, ธุรกิจ non-oil อยู่ที่ 500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่อยู่ที่ 500 ล้านบาท

 

 

ขณะที่นายพริษฐ์ อนุกูลธนาการ ผู้อำนวยการทั่วไป บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด และบริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ คอฟฟี่เวิลด์ กล่าวอีกว่า เปิดตัวธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย และ คอฟฟี่เวิลด์ ยังเป็นการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ หรือนักศึกษาที่พึ่งจบ ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟ และเป็นการสร้างอาชีพให้คนในประเทศเพิ่มมากขึ้น และยังช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มสาขาของกาแฟพันธุ์ไทย และ คอฟฟี่เวิลด์ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น หลังจากในปี 2561 บริษัทมีสาขากาแฟพันธุ์ไทยอยู่ที่ 203 สาขา และมีสาขาคอฟฟี่เวิลด์ในประเทศอยู่ที่ 71 สาขา

 

 

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์กับบริษัท โดยกาแฟพันธุ์ไทยมีมูลค่าการลงทุนแฟรนไชส์อยู่ที่ 2.30 ล้านบาท และคอฟฟี่เวิลด์มีมูลค่าการลงทุนแฟรนไชส์อยู่ที่ 3.30 ล้านบาท และผู้ที่สนใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์ยังได้สิทธิพิเศษ โดยบริษัทจะมีการฝึกอบรมการบริหารจัดการร้าน, วิธีการใช้สูตรเครื่องดื่ม และสั่งซื้อวัตถุดิบ,ช่วยเหลือเตรียมการเปิดร้านและสนับสนุนหลังเปิดร้าน, การส่งเสริมการขาย และการตลาด, ระบบเครื่องบันทึกเก็บเงินสด (POS) และระบบไอทีสนับสนุน, สิทธิการใช้แบรนด์ และเครื่องหมายการค้า รวมทั้งบริการต่างๆ พร้อมกันนี้ยังมีทีมที่ปรึกษาธุรกิจแฟรนไชส์ เพื่อช่วยสนับสนุนการวางแผนการเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ให้มีประสิทธิภาพ

 

 

"การลงทุนเปิดแฟรนไชส์กับบริษัทในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยสนับสนุนการเพิ่มอาชีพให้คนในประเทศแล้ว พร้อมทั้งยังจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่กาแฟอีกด้วย เพราะว่ากาแฟที่บริษัทใช้เป็นกาแฟอาราบิก้าในภาคเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพของประเทศไทย"นายพริษฐ์ กล่าว

 

 

PTG คาดผลงาน Q1/62 โตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน หลัง 2 เดือนแรกทำแล้ว - ค่าการตลาดกลับสู่สภาวะปกติ

 

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาสที่1/2562 มีแนวโน้มเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทฯสามารถทำรายได้เติบโตประมาณ 18-19% ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่ทำได้เติบโต 16% ประกอบกับปัจจุบันค่าการตลาดกลับสู่สภาวะปกติ ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 1.7-1.8 บาท/ลิตร และอัตรากำไรขั้นต้นก็เป็นปกติ จากการที่บริษัทได้มีการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ซึ่งบริษัทฯมั่นใจได้ว่าในปีนี้จะสามารถทำรายได้โตแตะระดับ 140,000-150,000 ล้านบาท

 

 

"เมื่อปีก่อน ช่วง 4 เดือนของครึ่งปีหลังก็ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน และไตรมาสที่ 4 กำไรก็ไม่ได้ออกมาตามหวัง เราควรได้มากกว่านั้นเพราะเรามาติดตรงเดือนธันวาคม ที่ มีวันคริสต์มาส และ 27 ธ.ค. ที่ต้องมีการลดราคาน้ำมันลง แต่พอปีนี้ก็โล่งใจ เพราะวาเลนไทน์ ตรุษจีนก็ไม่ต้องมีการแจกอั่งเปาลดค่าน้ำมันแล้ว ภาพรวมกำไรในปีนี้จึงดีมาก โดยในช่วง 1-2 เดือนแรกยอดขายเราโต 18-19% ซึ่งโตมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่โตอยู่ที่ 16% และค่าการตลาดของเรากลับสู่ภาวะปกติ กำไรขั้นต้นก็ปกติ จากการที่เราคุมค่าใช้จ่าย ดังนั้นไตรมาส 1/2562 ดีแน่ๆ " นายพิทักษ์ กล่าว

 

 

ขณะที่ธุรกิจ Non-oil ในปีนี้ บริษัทฯคาดว่าสัดส่วนรายได้จะปรับขึ้นมาอยู่ที่สัดส่วน 3-4% ของรายได้ทั้งหมด จากปีก่อนอยู่ที่ 2-3% ซึ่งรายได้ดังกล่าวจะมาจากการขยายร้านกาแฟ ร้านมินิมาร์ท และการขายก๊าซ LPG ที่มีการเติบโตประมาณปีละ 50-60% และภายในปี 2565-2566 บริษัทคาดว่าจะสามารถผลักดันสัดส่วนกำไรสุทธิของธุรกิจ non-oil อยู่ที่ 60% และธุรกิจน้ำมัน 30-40% ได้

 

 

สำหรับธุรกิจกาแฟในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้ารายได้มีแนวโน้มเติบโต 30% หรือแตะ 650 ล้านบาท จากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 500 ล้านบาท จากการที่บริษัทญได้มีหารขยายสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทย และcoffee world อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของแฟรนไชส์ และบริษัทฯเปิดด้วยตัวเอง โดยในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะขยายสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยเพิ่มอีก 130 สาขา แบ่งเป็นแฟนไชส์ 100 สาขา และเปิดเอง 30 สาขา และจะขยายร้าน coffee world เพิ่มอีก 30 สาขา

 

 

ส่วนร้านมินิมาร์ท Max Mart ในปีนี้บริษัทจะขยายเพิ่มอีก 40-50 สาขา คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้แตะระดับ 1,000 ล้านบาท และธุรกิจก๊าซ LPG เป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าน้ำมันประมาณ 3 เท่า โดยอัตรากำไรขั้นต้นของน้ำมันจะอยู่ที่ประมาณ 7-8% ประกอบกับรัฐบาลไม่ได้เข้ามาควบคุมการทำธุรกิจตรงนี้ด้วย

 

 

PTG