สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (4 มกราคม 2562)

4 เซียนหุ้น มองเลื่อนเลือกตั้งไม่ทุบ SET นำโดยเทพหุ้นกสิกรไทย ชี้เลื่อนเลือกตั้งไม่กระทบ SET  แบบจังๆ ระบุตลาดฯ ซึมซับข่าวไปแล้ว  ด้านกูรูทิสโก้ ระบุ  SET หลังเลื่อนเลือกตั้งไม่เจ็บหนัก   ส่วนMBKET  มอง SET เลื่อนเลือกตั้ง ไม่สะเทือน ชี้ จับตาศก.โลก - สงครามการค้า - แผน PDP ขณะที่ FSS  มองเลื่อนจาก 24 ก.พ. 19 ไม่นาน คาดกระทบ SET จำกัด 

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย เปิดเผยว่า ประเมินว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ได้ตอบรับข่าวการเลื่อนการเลือกตั้งไปแล้ว ประกอบกับระยะเวลาที่เลื่อนการเลือกตั้งออกไปไม่นาน จึงมองว่าดัชนีฯ จะได้รับผลกระทบที่ไม่มากนักจากกรณีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่างประเทศจากความกังลเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง มองว่ายังเป็นความเสี่ยงกดดันให้ดัชนีฯ ยังมีความผันผวนได้อยู่ โดยระยะกลางดัชนีฯ อาจจะปรับตัวลดลงไปทดสอบที่ระดับ 1550 จุด ดังนั้นจึงแนะนำให้ถือเงินสดมากกว่า 60% ส่วนการเลือกหุ้นแนะนำให้เลือกหุ้นที่มี Upside และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว โดยแนะนำหุ้นที่น่าสนใจคือ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) TISCO , บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)CPALL , บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน)STEC และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ADVANC

นายจรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยหลังจากการที่มีกระแสเลื่อนเลือกตั้ง มองว่าถ้าหากมีการเลื่อนก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นไทย โดยยังคงให้มุมมองที่เป็นกลาง เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศไม่ได้ให้น้ำหนักการเมืองไทยเท่าที่ควร ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาในลักษณะใดก็ตาม การทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ก็จะต้องอยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ประกอบกับโครงสร้างรัฐสภา ที่กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภามาจากการสรรหาโดย คสช. 250 เสียง ทำให้รัฐบาลชุดใหม่ที่เข้าไปบริหารงานอนุมัติโครงการ หรือดำเนินนโยบายต่างๆได้ค่อนข้างยาก

"เรามองว่าไม่ว่าเลื่อนหรือไม่เลื่อนเลือกตั้ง หรือผลการเลือกตั้งที่ออกมาจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ได้ทำให้ประเทศไทยพลิกโฉมไปจากเดิมมากนัก ดังนั้นเราจึงมองว่าไม่ว่าก่อน หรือหลังเลือกตั้ง หรือมีการเลื่อนเลือกตั้งก็ไม่ได้ทำให้ SET แตกต่างกัน อีกทั้งนักลงทุนและตลาดเองได้มีการซึมซับเรื่องนี้มาพอสมควรแล้ว" นายจรูญพันธ์ กล่าว

ขณะที่ปัจจัยที่จะมีผลกระทบกับดัชนีตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยจะเห็นได้จากเศรษฐกิจของจีนที่มีการชะลอตัวลง จากการการประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีนประจำเดือนธันวาคม 2561 ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ก็สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบต่อห่วงโซอุปทานที่จะส่งผลต่อไทยด้วยเช่นกัน ประกอบกับภาคการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ยังไม่ได้มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ Sentiment หลังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น , การเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ- จีน และการประชุมของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)ที่จะประกาศแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) ในวันที่ 7 มกราคมนี้ โดยทั้งนี้ได้ประเมินแนวต้านของ SET INDEX ในปี 2562 ไว้ที่ 1,743 ส่วนแนวรับขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินแน่ชัดได้ เนื่องจากต้องรอสถาการณ์ความชัดเจนปัจจัยที่ต้องติดตามข้างต้น

ด้านกลยุทธ์ในการลงทุน แนะนำให้นักลงทุนเตรียมตัวเข้าซื้อในไตรมาสแรก เนื่องจากจะเป็นช่วงที่มีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจที่เป็นตัวเลขในอดีต ซึ่งคาดการณ์ว่าจะออกมาไม่ดี อาจจะส่งผลกระทบต่อ SET INDEX โดยแนะนำลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก ได้แก่ กลุ่มโรงไฟฟ้า คือ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO , บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF กลุ่มขนส่ง คือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM , บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ เปิดเผยว่า จากข่าวที่มีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปนั้น มองว่าตลาดจะยังไม่ให้หนักในประเด็นนี้เท่าที่ควร เนื่องจากมองว่าอย่างไรก็ตามการเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นตามกรอบรัฐธรรมนูญภายใน 150 แน่นอน คือไม่เกินวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 จากกำหนดเดิมคือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 " สำหรับปัจจัยการเลือกตั้งนักลงทุนจะให้ความสำคัญกับฟันด์โฟลว์ ซึ่งหากเลื่อนการเลือกตั้งออกไปฟันด์โฟลว์จากต่างชาติก็จะยังไม่ไหลเข้ามาในประเทศ แต่ตลาดฯ ก็ยังไม่ให้น้ำหนักกับปัจจัยนี้เท่าไหร่นักเพราะอย่างไรก็ตามการเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งเป็นตามกรอบรัฐธรรมนูญที่เค้ากำหนดภายในย 150 วัน " นายอภิชาติ กล่าว

ทั้งนี้ ประเมินกกรอบดัชนีฯ โดยมีแนวต้านที่ 1,570- 1,580 จุด และแนวรับที่ 1,550 จุด สำหรับกลยุทธ์ในการลงทุน แนะนำ wait and see นายอภิชาติกล่าวเพิ่มเติมว่าภายในสัปดห์หน้า (วันที่ 7- 11 มกราคม 2562) ตลาดฯคาดหวังเรื่อสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ที่กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกมายืนยันว่า คณะผู้แทนของรัฐบาลสหรัฐจะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในวันที่ 7-8 ม.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่ของจีน

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ออกบทวิเคราะห์เปิดเผยว่าเลื่อนเลือกตั้ง โดยระหว่างนี้อยู่ที่ กกต. ว่าจะกำหนดวันเลือกตั้งเป็นช่วงเวลาใด แต่รองนายกฯ วิษณุ ยืนยันอยู่ในกรอบไม่เกิน 9 พ.ค. 19 ซึ่งถ้าเป็นตามนี้ เรามองว่าจะเลื่อนจาก 24 ก.พ. 19 ไม่นาน และคาดกระทบ SET จำกัด ขณะที่ แรงขายของต่างชาติที่กลับมาเร่งตัวขึ้นน่าจะเป็นความกังวลจากปัจจัยนอกประเทศ ยังเน้นหุ้น Domestic Play ที่จะได้ประโยชน์จากการบริโภคและการลงทุนที่ฟื้นตัว เช่น ค้าปลีก (CPALL ROBINS) รับเหมา (SEAFCO, CK) แบงก์ (BBL, KBANK) โรงพยาบาล (BDMS CHG)