Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : TMILL คาดรายได้ - กำไรปีกุนโต 10% (อัพเดท)

2,918

กข่าวหุ้นอินไซด์ (23 พฤศจิกายน 2561)

TMILL คาดรายได้-กำไรปี 62 โต 10% ตามกำลังการผลิต   พร้อมรุกขยายตลาดสู่ภูมิภาคและ SME พร้อมประเมินภาพรวมผลงานปีนี้ คาดกำไรสุทธิใกล้เคียงปีก่อนที่ทำได้ 105 ล้านบาท  หลังใน 9 เดือนแรกโกยแล้ว  88 ล้านาท แถมไตรมาส 4/61 เข้าไฮซีซั่นหนุนโตต่อเนื่อง 

 

ดร.ชาญกฤช เดชวิทักษ์ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 3/2561 มีกำไรสุทธิ 34.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.93 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 29.5 % เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2560 โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่าย 343.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.39 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 6.3 % เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ทั้งนี้เป็นผลมาจากปริมาณการจำหน่ายแป้งสาลีเพิ่มขึ้น 4.1 % ราคาจำหน่ายแป้งสาลีเพิ่มขึ้น 0.8 % รวมทั้งมีปริมาณการจำหน่ายรำข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 3.0 % และมีราคาจำหน่ายรำข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 12.2%

 


"ในไตรมาส 3/2561 แม้ว่าบริษัทจะประสบกับภาวะต้นทุนราคาเฉลี่ยของวัตถุดิบที่ใช้ปรับเพิ่มขึ้น คิดเป็น 79.3 % ของรายได้ แต่บริษัทฯยังสามารถทำกำไรและมีรายได้จากการขายเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ มั่นใจว่าธุรกิจจะยังคงเติบโตและเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ภายใต้แผนการขยายกำลังการผลิตที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดแป้งสาลีที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งให้ความสำคัญกับการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ขณะนี้เรามีอยู่ประมาณ 200 ราย" ดร.ชาญกฤช กล่าว

 

สำหรับผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนของปี 2561 (สิ้นสุด 30 ก.ย.61) บริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่าย 1,056.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.62 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 5.3 % เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการจำหน่ายแป้งสาลีเพิ่มขึ้น 3.1 % รวมทั้งราคาจำหน่ายแป้งสาลีเพิ่มขึ้น 0.4 % โดยมีปริมาณการจำหน่ายรำข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 2% และราคาจำหน่ายรำข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 16.2 % ขณะที่ต้นทุนการขายเพิ่มสูงขึ้น 62.49 ล้านบาท คิดเป็น 8 % เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2560 โดยเป็นผลมาจากราคาเฉลี่ยของวัตถุดิบที่ใช้ปรับเพิ่มขึ้น

 


ด้านนางแววตา เนตร์พันธ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและการบัญชี บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL เปิดเผยว่า บริษัทฯจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ(บอร์ด) ในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อที่จะสรุปแผนการดำเนินในปี 2562 โดยเบื้องต้น คาดว่ารายได้และกำไรสุทธิในปี 2562 จะเติบโต10% จากปีนี้ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทฯคาดว่ากำลังการผลิตในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 80% จากปัจจุบันอยู่ที่ 70% ขณะที่ประเมินกำลังการผลิตทั้งปีจะเฉลี่ยอยู่ที่ 75% โดยในช่วงไตรมาส3/2561 บริษัทฯได้มีการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นราว 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

ขณะที่บริษัทฯจะทำการขยายตลาดเข้าสู่ภูมิภาคและเข้าสู่ตลาด SME จากเดิมที่ส่งผลิตภัณฑ์ในกรุงเทพและแถบปริมณฑล เนื่องจากมองว่าตลาดเหล่านี้มีมาร์จิ้นสูงมากกว่า อีกทั้งบริษัทฯยังมีนโยบายในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเช่น หุ่นยนต์เข้ามาใช้เพื่อทดแทนแรงงานมนุษย์ ซึ่งในส่วนของเฟส 1 บริษัทฯได้ทำแล้วเสร็จไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ทดแทนในการจับวางกระสอบลงบนสายพาน จำนวน 2 ตัว ซึ่งจะสามารถทดแทนแรงงานได้ทั้งหมด 12 คน โดยบริษัทฯได้คำนวนจุดคุ้มทุนแล้วประเมินว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 2 ปีครึ่ง ซึ่งใช้งบลงทุนรวม 5 ล้านบาท

 

ส่วนของเฟสที่ 2 เป็นหุ่นยนต์ที่ใช้สำหรับร่อนแป้ง ซึ่งจะสามารถทดแทนพนักงาน จำนวน 7 คน/กะ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสรุปในส่วนของการนำเสนอต่อผู้รับเหมา ภายในสิ้นปี 2561 โดยบริษัทฯจะศึกษาว่าหากออกแบบแล้วเสร็จมูลค่าการลงทุนจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ และคุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่ หากเป็นไปตามแผนบริษัทฯก็สามารถเริ่มดำเนินการติดตั้งหุ่นยนต์ได้ภายในต้นปี 2562

 

ทั้งนี้บริษัทฯมองว่าการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้งานจะสามารถช่วยลดต้นทุนพวกค่าแรงได้ รวมถึงไม่ต้อเสียค่าสวัสดิการให้แก่พนักงาน และไม่มีการลาพักร้อน และสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งบริษัทฯมองว่าเป็นการตอบโจทย์ของอุตสาหกรรมในยุคปัจจุบัน

 

ด้านราคาวัตถุดิบปัจจุบันสถานการณ์ราคาข้าวสาลีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5-10% โดยราคาข้าวสาลีในสหรัฐฯที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 10-20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และข้าวสาลีออสเตรเลีย ได้ปรับตัวขึ้นมากเนื่องจากผลผลิตที่ได้น้อยและมีการลดการส่งออก ทำให้ราคาข้าวของออสเตรเลีย ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 100 เหรียญ/ตัน อย่างไรก็ตามบริษัทฯได้มีการสต็อคสินค้าให้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมโดยการสั่งซื้อล่วงหน้าไว้ รวมถึงบริษัทฯจะมีการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นปัจจัยหลักในการนำเข้าข้าวสาลี

 

ขณะที่คาดแนวโน้มราคาข้าวสาลีในปีหน้า โดยคาดราคาข้าวสาลี ในสหรัฐฯ จะคงที่หรืออาจจะลดลง เนื่องจากข้าวสาลีในสหรัฐฯได้ผลผลิตที่ค่อนข้างมาก ส่วนในออสเตรเลียได้ผลผลิตน้อยกว่า จึงส่งออกน้อยและมีราคาที่สูง ดังนั้นบริษัทฯ จะเน้นการบริหารต้นทุน ด้วยการใช้แป้งสองประเทศนี้ผสมกันเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด

 

ในส่วนของแนวโน้มดอกเบี้ยภายในประเทศอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น บริษัทก็ได้มีการบริหารการเงิน โดยเป็นพันธมิตรกับทางธนาคารพาณิชย์หลายๆแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งจะให้ความร่วมมือโดยการลดอัตราดอกเบี้ยให้บริษัทฯ เพื่อจูงใจในการกู้เงิน นางแววตา กล่าวทิ้งท้ายว่า ภาพรวมผลประกอบการปีนี้ บริษัทฯ คาดว่ากำไรสุทธิจะสามารถทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ทำได้ 105 ล้านบาท หลังใน 9 เดือนแรกที่ผ่านมาบริษัทฯ มีกำไรสุทธิแล้ว 88 ล้านาท ซึ่งในช่วงไตรมาส 4/2561 จะเข้าสู่ฤดูการไฮซีซั่นของธุรกิจ จึงคาดว่าผลประกอบการจะดีที่สุดจากทุกไตรมาสที่ผ่านมา

 

TMILL

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้