สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (23 กรกฏาคม 2561)  DOD เผยกลุ่มคู่ค้ารายใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจอาหารเสริมโปรตีนสร้างกล้ามเนื้อ รายใหญ่อันดับต้นๆของประเทศ เข้าซื้อ Big Lot จำนวน 10 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 13.50 บาท ชี้ ช่วยเพิ่มปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด หนุนสภาพคล่อง
ด้าน LOXLEY ให้ความมั่นใจรายได้ปีนี้โต 15-20% จากปีก่อนที่ทำได้ 1.64 หมื่นลบ. ,ตุน Backlog 2 หมื่นลบ. รอผลลุ้นประมูลงานมูลค่าราว 4 พันลบ. ทยอยรู้ผลตั้งแต่ Q4/61 เป็นต้นไป

แหล่งข่าวบริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD เปิดเผยว่า วันนี้ (23 ก.ค.)ได้มีรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (BIG LOT) ของ บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD โดยรายงานแจ้งว่าเป็นการขาย BIG LOT ให้กับกลุ่มคู่ค้ารายใหญ่ ซึ่งว่าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ที่ดำเนินธุรกิจอาหารเสริมโปรตีนสร้างกล้ามเนื้อ รายใหญ่อันดับต้นๆของประเทศ จำนวน 10 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 13.50 บาท โดยรายการแจ้งว่า กลุ่มคู่ค้ารายดังกล่าว ได้รับการจัดสรรหุ้น IPO ในฐานะผู้มีอุปการะคุณ ในจำนวนจำกัด ซึ่งน้อยกว่าความตั้งใจที่จะเข้ามาลงทุนเนื่องจากมองว่า ธุรกิจผลิตอาหารเสริมที่ได้รับมาตรฐานอย่าง DOD น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่ง ที่สามารถใช้ DOD เป็นฐานในการผลิตอาหารเสริม ในอนาคตได้ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการเข้าลงทุนใน DOD เพิ่มเติม “ ผู้ถือหุ้นของ DOD ทุกท่าน ร่วมกันก่อสร้าง DOD มาด้วยกัน ตั้งแต่วันแรก จนถึงวันที่ DOD ประสบความสำเร็จในการก้าวสู่การเป็นบริษัทมหาชน ดังนั้นเชื่อว่า การขาย BIG LOT ในครั้งนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้น คงพิจารณาถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการต่อยอดทางธุรกิจของ DOD ในอนาคต พร้อมทั้งเชื่อว่า จะเป็นการช่วยเพิ่มปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด ของ DOD ให้มีสภาพคล่องที่เหมาะสมแก่การลงทุนมากขึ้น ”  อย่างไรก็ตาม ทาง DOD ยังคงตระหนักถึงผลประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ และพร้อมจะ ขยายช่องทางทางธุรกิจ เพื่อต่อยอดในธุรกิจใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสร้างอัตราผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น อย่างเติบโตแบบมั่นคงยั่งยืน ตามที่บริษัทฯเคยประกาศไว้อย่างแน่นอน

นายกิตติชัย รักตะกนิษฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY เปิดเผยว่าบริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้ปี 2561 จะเติบโต 15 - 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 16,411.60 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ราว 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไปขณะเดียวกันภาพรวมในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรกเนื่องจากงานประมูลโครงการใหม่ทั้งภาครัฐบาลจะออกมาค่อนข้างเยอะและจะเป็นตัวช่วยผลักดันในงานโครงการเอกชนออกตามไปด้วยเช่นกัน โดยบริษัทจะเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาระดับงานในมือให้อยู่ที่ 2 - 3 หมื่นล้านบาทตามนโยบายของบริษัทสำหรับงานที่อยู่ระหว่างติดตามผลการประมูลในปัจจุบันอยู่ที่ราว 4 พันล้านบาท โดยเป็นงานที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญทั้งหมด ซึ่งจะทยอยรู้ผลในช่วงไตรมาส 4/61 เป็นต้นไป

อนึ่งในปี 2560 LOXLEY ได้มีการปรับโครงสร้างจากธุรกิจที่มีความหลากหลาย เป็นมุ่งเน้นในธุรกิจทีมี จุดแข็ง มีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงตลาด เศรษฐกิจ การเมือง และสังคม เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ มีความยั่งยืน โดยการปรับโครงสร้างดังกล่าวจะส่งผลดีต่อบริษัทฯ ทั้งในการลบภาพการทำธุรกิจหลากหลายแบบเดิม การจัดทัพใหม่บริษัทฯ เป็นการดำเนินธุรกิจที่มีแนวโน้มทำกำไร มีศักยภาพและอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโต ในแต่ละกลุ่มธุรกิจจะมีหน่วยงานที่มีสายงานที่ใกล้เคียงกัน มีลักษณะที่เอื้อกันทำให้สามารถสร้างจุดแข็งเพื่อต่อยอดรายได้ และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน รวมทั้งสามารถปรับลดค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อนกัน คือมี Synergy ทั้งด้านการเพิ่มรายได้และการลดค่าใช้จ่าย ซึ่งการดำเนินงานภายใต้โครงสร้างใหม่จะเริ่มตั้งแต่ปี 2561 โดยสรุปเป้าหมายหลักของการปรับโครงธุรกิจในครั้งนี้ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนใน 3 มิติ ดังนี้ (1)เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่มีศักยภาพในการแข่งขัน และความสามารถในการทำกำไร (2)พัฒนาศักยภาพของบุคลากร และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพและจัดสรรทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด (3) เพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงานในเชิงตัวเลขทั้งรายได้และกำไร เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทฯ

 DOD       LOXLEY