สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ ( 1 มิถุนายน 2561 )    "ชาญกฤช เดชวิทักษ์" ขุนศึก TMILL มั่นใจกำไรสุทธิปีนี้โต 30% หลังรุกขยายฐานลูกค้า SME และตจว. เพิ่มขึ้น หนุนปริมาณขาย คาดผลงาน Q2/61 ใกล้เคียงไตรมาสแรก หลังมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น

ดร.ชาญกฤช เดชวิทักษ์ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL เปิดเผยว่า ภาพรวมการเติบโตของ TMILL ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเพิ่มอัตราการใช้กำลังผลิตเป็น 75% จากปัจจุบันที่มีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 65% และมั่นใจว่าจะสามารถสร้างกำไรสุทธิในปี 2561 ให้เติบโต 30% ตามเป้าหมาย

“แนวโน้มทางการตลาดของ TMILL ในปีนี้ ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยเป็นผลมาจากศักยภาพในการควบคุมราคาต้นทุนวัตถุดิบแป้งสาลีซึ่งนำเข้า 100% อีกทั้ง ปัจจัยค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ทำให้ราคาต้นทุนของ TMILL ปรับตัวลดลง ประกอบกับบริษัทฯ ได้ใช้กลยุทธ์ขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและลูกค้าในต่างจังหวัดมากขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าประจำเป็น 300 ราย ภายใน 1-2 ปี จากปัจจุบันที่มีลูกค้า 250 ราย” ดร. ชาญกฤช กล่าว

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 1/2561 มีกำไรสุทธิ 26083 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการจำหน่าย 358.19 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ 7.4 และร้อยละ 12.5 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 และปี 2559 สอดคล้องกับปริมาณการจำหน่ายแป้งสาลีที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 และร้อยละ 17.6 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 และปี 2559 ตามลำดับ

ภาพจาก : http://www.tmill.co.th/

ด้านนางสาวแววตา เนตร์พันธ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี บมจ.ที เอส ฟลาวมิลล์ (TMILL) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯ จะมีการขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและลูกค้าต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะทางภาคอีสานและเหนือ ที่ถือว่ายังมีกำลังซื้อที่เติบโต โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าประจำเป็น 300 ราย ภายใน 1-2 ปี จากปัจจุบันที่มีฐานลูกค้าอยู่ที่ 250 ราย จากปีก่อนอยู่ที่ 200 ราย พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าการผลักดันให้ใช้กำลังการผลิต 90-100% ของกำลังการผลิตรวม ซึ่งอยู่ที่ 500 ตันข้าวสาลีต่อวัน ภายใน 3 ปี (2561-2563)

นางสาวแววตา กล่าวเพิ่มเติมว่า คาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2561 จะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/2561 แม้ว่าจะเป็นช่วงของโลว์ซีซั่นของธุรกิจ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีกำลังการผลิตสูง ขณะที่บริษัทวางงบลงทุนในปีนี้ไว้ราว 10 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการตลาดและศึกษาและวิจัย (R&D) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ผลิตภัณฑ์ และมีลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อพัฒนากระบวนการผลิตที่ทันสมัยและลดต้นทุนแรงงานในระยะยาวซึ่งมีแผนที่จะลงทุนต่อเนื่องอีกในเฟส 2 และคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในเร็วๆ นี้

ภาพจาก : http://www.tmill.co.th/

อนึ่ง ปี 2560 TMILL มีกำไรสุทธิ 105.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.99 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 51.8 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีรายได้จากการขายกว่า 1,303.3 ล้านบาท ลดลง 35.54 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับปี 2559 ทั้งนี้ หากพิจารณาในส่วนของปริมาณการจำหน่ายแป้งสาลี พบว่า ในปีที่ผ่านมา TMILL สามารถจำหน่ายแป้งสาลีได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 แต่จากราคาจำหน่ายแป้งสาลีเฉลี่ยที่ลดลงร้อยละ 3.8 จึงส่งผลให้มีรายได้จากการขายลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน"รอบปีที่ผ่านมา TMILL สามารถทำสถิติกำไรสุทธิสูงสุดได้สำเร็จ ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุนขายที่ลดลง

เนื่องจากมีการเจรจาทำสัญญาซื้อขายวัตถุดิบล่วงหน้าเพื่อควบคุมราคาต้นทุนไว้ ขณะที่ราคาข้าวสาลีในตลาดมีการปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้ราคาต้นทุนแป้งสาลีของบริษัทฯ ได้เปรียบตลาดและคู่แข่ง จึงส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นในปี 2560 สูงขึ้นเป็นร้อยละ 20.9 จากร้อยละ 14.8 ในปี 2559 และมีกำไรสุทธิต่อหุ้นขั้นพื้นฐานเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 55 เมื่อเทียบกับปีก่อน" ดร.ชาญกฤช กล่าว

คำค้นหา
  TMILL