SET แกว่งตัว Sideways แรงหนุนจากความหวังของขวัญปีใหม่ และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว หากแต่จำกัดด้วยแรงกดดันจาก Fund flow และความกังวลภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ
แนวรับ-ต้าน
1,435-1,455
กลยุทธ์การลงทุน
1) ท่องเที่ยวและSpending : AU, ADVANC, BTS, CPALL, CPAXT, GLOBAL, ILM, KTC, LHHOTEL, TRUE
2) เก็งงบ 3Q67 : BEM, CPF
3) ส่งออก : ASIAN, GFPT, TFMAMA
4) Defensive : INTUCH, PR 9
5) Selective : BBIK, KBANK, KKP, TISCO
ความหวังของขวัญปีใหม่
ความคาดหวังต่อของขวัญปีใหม่ คาด SET Index จะได้แรงหนุนจากความหวังมาตรการภาครัฐ หลัง รมช.คลัง เผยรัฐบาลจะนัดประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจในวันที่ 19 พ.ย.67 ซึ่งวันนั้นจะได้เห็นกันชัดเจนว่าการขับเคลื่อนในการเดินหน้าเศรษฐกิจจะเดินหน้าไปในทิศทางไหน โดยมีภารกิจของกระทรวงการคลังเป็นหลัก ซึ่งจะแยกเป็นรายเซกเตอร์ว่ามีเซกเตอร์ใดที่จะต้องกระตุ้นเพิ่มบ้าง นอกจากนี้ ของขวัญปีใหม่ โครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตเป็นหนึ่งในมาตรการที่จะอยู่ภายใต้การหารือของคณะกรรมการชุดนี้ด้วย
ท่องเที่ยวดี กอปรกับบาทอ่อนช่วยหนุน คาดหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องจะได้ Sentiment หนุนจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีจำนวนสะสม ณ วันที่ 1 ม.ค.-10 พ.ย.67 ที่ 29.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 29% y-y นอกจากนี้ ทางฝ่ายมองสกุลเงินท้องถิ่นที่อ่อนค่าจะเป็นอีกปัจจัยหนุนต่อการท่องเที่ยว รวมถึงการส่งออก โดยเช้านี้ค่าเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 3 เดือน และเข้าใกล้ระดับ 35 บาท/ดอลลาร์ ในทางกลับกัน สกุลเงินท้องถิ่นที่อ่อนค่ามีแนวโน้มเป็นแรงกดดันต่อ SET Index ท่ามกลางการไหลออกของ Fund flow แม้วานนี้นักลงทุนต่างชาติจะซื้อสุทธิใน SET Index ที่ 5 ร้อยล้านบาท แต่พบว่าขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ไทยถึง 4 พันล้านบาท
ความกังวลภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ นอกจากนี้ มองทางขึ้นจำกัด หลังนักลงทุนได้หันมาให้น้ำหนักกับความกังวลว่าเงินเฟ้อในสหรัฐฯที่อาจปรับตัวสูงขึ้นจากนโยบายของคุณทรัมป์ และจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยภาพข้างต้นสะท้อนผ่าน 1) CME FedWatch Tool ที่ให้น้ำหนัก 40% ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.67 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 22% ในสัปดาห์ก่อนหน้า และ 2) US bond yield 2 ปี ที่ปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ 4.37% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่สิ้นเดือนก.ค.67 ขณะที่คืนนี้ติดตามการเผย CPI เดือนต.ค.67 ของสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นตัวเลขที่เพิ่มความกังวลประเด็นข้างต้น หลังตลาดคาด 1) Headline ขยายตัว 2.6% y-y และ 0.2%m-m จาก 2.4% y-y และ 0.2% m-m ในเดือนก.ย.67 และ 2) Core ขยายตัว 3.3% y-y และ 0.3% m-m เท่ากับในเดือน ก.ย.67
+ ปัจจัยเพิ่มเติม
(+) ครม. มีมติเห็นชอบให้ธนาคารออมสินดำเนิน “โครงการสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ” วงเงินรวมไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท สำหรับเสริมสภาพคล่องและบรรเทาหนี้สินประชาชนรายย่อย ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้มีรายได้ประจำ
(+) ครม. เห็นชอบมาตรการสินเชื่อซื้อ-สร้าง ดอกเบี้ยพิเศษ 5 ปี วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อรวม 5 หมื่นล้านบาท และสินเชื่อซ่อม-แต่ง ดอกเบี้ยพิเศษ 3 ปี วงเงินกู้ไม่เกิน 1 แสนบาท วงเงินสินเชื่อรวม 5 พันล้านบาท
(-)นิกเกอิเอเชียรายงานว่า Isuzu Motors ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรประจำปีลง 2.5 หมื่นล้านเยน สู่ระดับ 1.35 แสนล้านเยน เนื่องจากแนวโน้มยอดขายรถกระบะในไทยย่าแย่ลง ซึ่งไทยเป็นตลาดที่สำคัญที่สุด
(-) โอเปก เผยรายงานภาวะตลาดน้ำมันเดือนพ.ย.67 โดยระบุว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะขยายตัว 1.82 ล้านบาร์เรล/วันในปี 67 ลดลงจาก 1.93 ล้านบาร์เรล/วัน ที่มีการคาดการณ์ในเดือนต.ค.67 ทางฝ่ายมองเป็นแรงกดดันต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์