วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Down โดยช่วงเปิดตลาดดัชนีปรับตัวขึ้นเล็กน้อยราว 3 จุดและเริ่มอ่อนตัวลง ได้รับแรงกดดันจากเงินบาทอ่อนค่า ทำให้Fund Flow นักลงทุนต่างชาติไหลออกมีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มค้าปลีก อสังหาฯ และขนส่ง ประกอบกับแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในคืนนี้ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,456.47 จุด -8.22 จุด -0.56% มูลค่าการซื้อขาย 42,634.33 ลบ.Program Trading +105.26 ลบ. ต่างชาติ +508.56 ลบ. TFEX -8,706 สัญญา ตราสารหนี้ -4,240.10 ลบ.
ปัจจัยบวก
+สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 8 เซน ต์ ห รื อ + 0.1 2% ปิดที่68.12 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากนักลงทุนซึมซับข่าวโอเปกปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ ามันโลกโดยระบุว่าอุปสงค์น้ำมันโลกจะขยายตัว 1.82 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2567ลดลงจากระดับ 1.93 ล้านบาร์เรล/วันที่คาดการณ์ในเดือนต.ค.
+ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นให้คำมั่นว่าจะทุ่มงบประมาณมากกว่า 10 ล้านล้านเยน(6.5 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และ AI ของญี่ปุ่นในช่วง 10 ปีข้างหน้าเพื่อเป็นตัวเร่งให้เกิดการลงทุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน
+ นายกสมาคมโรงแรมไทยเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่พักแรมเดือน ต.ค.2567 พบว่าธุรกิจโรงแรมปรับดีขึ้นสะท้อนจากอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 58%เพิ่มขึ้น MoM และ YoY ซึ่งถือเป็นผลตามฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น)
+ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยภาพรวมการท่องเที่ยว ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่11 พ.ย. 67 พบว่า ป ระเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่1 ม.ค.-10 พ.ย. 67 รวมทั้งสิ้น 29,816,537 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,393,927 ล้านบาท ภาพรวมในสัปดาห์
ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 736,136 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 34,174 คน หรือ 4.87%
+ที่ประชุมครม.เห็นชอบ 2 มาตรการคู่ขนานกระตุ้นเศรษฐกิจอนุมัติสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพและสินเชื่อซื้อ-สร้างและสินเชื่อซ่อม-แต่ง ที่อยู่อาศัย วงเงินรวม70,000 ล้านบาท
ปัจจัยลบ
-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 382.15 จุด หรือ -0.86% เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากตลาดบวกแรงในช่วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร รวมทั้งความกังวลว่านโยบายต่าง ๆของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐฯเพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ย
- นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร HDFC กล่าวว่า เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นจะส่งผลให้ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
-กองกำลังรัสเซียและเกาหลีเหนือราว 50,000 นายที่ประจ าการอยู่ในเขตเคิร์สก์ของรัสเซีย กำลังต่อสู้กับกองกำลังยูเครน
- กองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ทำการยิงจรวดจากเลบานอนโจมตีอิสราเอลในเมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ส่วนการยิงจรวดโจมตีในรอบ 2 พุ่งเป้าไปยังกรุงเทลอาวีฟ ซึ่งกองทัพอากาศอิสราเอลสามารถสกัดไว้ได้
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลงต่อตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นแรง กดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ประกอบกับนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ของสหรัฐในวันนี้ มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,440-1,450 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• สินค้าส่งออกเดือนก.ย.ที่ยังเติบโต : ITC AAI STA NER TEGH STGT WFX
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนลงทุน Data Center : WHA ADVANC GULF TRUE INSET
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง : AMATA WHA ROJNA TLI BLA DELTA HANA
• MSCI Rebalance (ใช้ราคาปิด25 พ.ย.) : MSCI Global Standard : เข้า - ออก SCGP MSCI Global Small Cap: เข้า CCET ออก TQM