Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KSS Daily Strategy

294

 

"Domestic Plays"

KSS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ "ลุ้นสร้างฐาน" ต้าน 1455/1460 จุด รับ 1440/1432 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯพักตัว หลังขึ้นมาต่อเนื่องนับจากผลเลือกตั้งชัดเจน ดัชนี S&P500 ปิดลบ -0.29% ตลาดระวังก่อนเงินเฟ้อ CPI ต.ค. 24 รายงานวันนี้ ทำให้ US Bond Yield 10 ปี เร่ง +10 bps ปิด 4.43% สูงสุดใน 4 เดือน มองจิตวิทยาลบระยะสั้นต่อสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ดี มุมมองตลาดคาดอนุรักษ์นิยมว่า CPI จะปรับขึ้น 2.6%y-y, 0.2%m-m vs prev. 2.4%y-y, 0.2%m-m ฝั่งเอเชีย จีนเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อปรับลดภาษีโอนผู้ซื้อบ้านในเมืองใหญ่เหลือ 1% จาก 3% เชื่อว่ายังช่วยโมเมนตัมภาคอสังหาฟื้นต่อเนื่อง ส่วนภายใน กำไร 3Q24 สัญญาณดีขึ้นหลังหุ้น Domestic รายงานเพิ่ม ช่วยให้ระดับต่ำกว่าคาดลดลงเหลือ -19% (vs วานนี้ -21%) ขณะที่ ครม.เศรษฐกิจเตรียมประชุมหารือมาตรการกระตุ้นนัดแรก 19 พ.ย. นโยบายนำ คือ Digital Wallet เฟส 2 มองปัจจัยภายในเป็นจุดช่วย SET แกว่งตัวสร้างฐาน โดยมีหุ้นนำ คือ หุ้น Domestic (ค้าปลีก สื่อสาร ธนาคาร ท่องเที่ยว) หุ้น China Plays และหุ้นได้ประโยชน์ OPEC+ ส่งสัญญาณความต้องการน้ำมันลดลงปี 2025 วันนี้แนะ ADVANC, CPALL, CBG

 

 


Daily outlook: "ลุ้นสร้างฐาน" ต้าน 1455/1460 จุด รับ 1440/1432 จุด

What happened around the world ?

(+)US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐชะลอการขึ้น รอรายงานเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้ Dow jones -0.86%(ถ่วงจาก Boeing -2.5%, Goldman sach -1.6%), ดัชนี S&P500 -0.29%, Nasdaq -0.08% โดยดัชนี S&P 500 Sectors ที่ปรับขึ้นหลักๆคือ Sector คือ ICT, IT, Consumer Staples กลุ่มที่ปรับลง คือMaterials, Health care, Real estate ฯลฯ หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่นคือ Tesla -6.2% พักฐานจากก่อนหน้าปรับขึ้นแรงต่อเนื่องตั้งแต่การเลือกตั้งสหรัฐ 5 พ.ย. รวม 40% , Micro strategy +4.88% ปรับขึ้นแรงต่อหนุนจากแนวโน้มราคา Bitcoin ที่เป็นขาขึ้น แต่กลุ่ม Tech ยังแข็งแกร่ง อาทิ Microsoft +1.2%, Amazon +1.02%, NVDIA +2.1% ฯลฯ

(*/+) China Property Stimulus : หน่วยงานกำกับดูแลของจีนกำลังนำเสนอนโยบายที่จะอนุญาตให้เมืองขนาดใหญ่หลายแห่งของจีน ซึ่งรวมถึงเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง ปรับลดภาษีการโอน(deed tax) สำหรับผู้ซื้อบ้านลงเหลือเพียง 1% (จากระดับปัจจุบัน 3%) สอดคล้องกับเมื่อวันก่อนยอดขายบ้านในเมืองหลัก เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเซินเจิ้น เติบโตขึ้น เรายังคาดหวังมาตรการกระตุ้นภาคการบริโภคและภาคอสังหาเพิ่มเติมอย่างนับจากนี้ หากเศรษฐกิจจีนมีสัญญานชะลอลง ทั้งนี้ ระยะสั้นแนะนำติดตามการรายงานดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจจีนเดือน ต.ค. ในวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. นี้ ยังมองการฟื้นตัวของจีนหนุนหุ้นกลุ่ม China Plays ในระยะกลางสะสมหุ้น China Play อาทิ IVL SCC PTTGC

(*/+) US CPI : ติดตามอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือน ต.ค. ตลาดคาด +2.6%y-y, +0.2%m-m (ใกล้เคียงกับ Top ranks คาดที่ 0.2%m-m และ 2.6%y-y) ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดทรงตัวจากเดือนก่อน 3.3%y-y, 0.3%m-m หากอิงราคาน้ำมันดิบ WTI ต.ค. 24 +1.9%m-m, -16%y-y ต.ค. 24 เรามองเป็นตัวช่วยดึงเงินเฟ้ออื่นๆที่ยังมีโอกาสสลับขึ้นจากสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ดีกว่าคาดระยะหลัง อย่างไรก็ดี หากเป็นภาพทรง/ค่อยๆอ่อนลง เรามองตลาดยังเชื่อภาพ Dot Plot ที่ Fed วางไว้ช่วงที่เหลือของปีนี้ ดอกเบี้ยนโยบายน่าจะลดลงได้อีกราว -50 bps เท่ากับมุมมองตลาดในปัจจุบัน

(*) To monitor: ฝั่งสหรัฐ 14 พ.ย. นาย Powell จะกล่าวสุนทรพจน์งานเสวนาที่จัดขึ้นที่ รัฐ Texas เวลา 15.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. เวลา 03.00 น.ตามเวลาไทย คาดจะส่งสัญญาณทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน และ PPI เดือน ต.ค. 15 พ.ย. ดัชนีค้าปลีก ต.ค. คาด +0.3%m-m vs prev. +0.4%m-m, ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม คาด -0.2%m-m vs prev. -0.3%m-m ยุโรป 14 พ.ย. GDP Growth ยุโรป 3Q24 ตลาดคาด 0.9%y-y, 0.4%q-q ฝั่งจีน 15 พ.ย. ติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือน ต.ค. คาด ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม +5.5%y-y vs prev. +5.4%y-y, ดัชนีค้าปลีก คาด +3.8%y-y vs prev. +3.2%y-y, การลงทุนสินค้าค้าทน คาด +3.5%ytd y-y vs prev. +3.4%ytd y-y, การลงทุนภาคอสังหา คาด -9.9%ytd y-y vs prev. -10.1%ytd y-y

(*) OPEC Meeting : เผยรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือน พ.ย. ฝั่ง Demand คาดลดลงในปี 2024 เหลือ 1.82 ล้านบาร์เรล/วัน (ลดลงจากเดือนต.ค. คาด 1.93 ล้านบาร์เรล/วัน) ส่วนปี 2025 คาดลดลง 1.54 ล้านบาร์เรล/วัน (จากคาด 1.64 ล้านบาร์เรล/วัน) KSS ประเมิน การที่ OPEC ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกเป็นเดือนที่ 4 สะท้อนมุมมองแนวโน้มราคาน้ำมันมีโอกาสเดินหน้าเป็นขาลง โดยรวมมองระยะกลางยาวบวกต่อ หุ้นกลุ่มที่มีต้นทุนน้ำมัน อาทิ กลุ่มสายการบิน เน้น AAV กลุ่ม Anticommodity กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF กลุ่มวัสดุก่อสร้าง TASCO

(*) US Bond Yields & Dollar : Bond yield สหรัฐ ปรับขึ้นแรงอีกครั้ง ตลาดประเมินผลจากนโยบายกีดกันการค้า การขาดดุลงบสหรัฐ อาจจะทำให้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐไม่ได้ลงเร็ว อิงอายุ 2 ปีปรับขึ้นแรง 9 bps อยู่ที่ 4.34% และอายุ 10 ปี ปรับขึ้น 10 bps อยู่ที่ 4.43% ทำจุดสูงสุดในรอบ 4 เดือน (US Bond yields 10 ปี และ Thai Bond yield 10 ปี มีค่าสหสัมพันธ์สูงราว 0.6 หรือไปทางใดเดียว) มองเป็นจิตวิทยาบวกหนุนต่อกลุ่มประกันชีวิต อาทิ BLA, TLI. กลุ่มธนาคาร KBANK, KTB ส่วน Dollar Index แข็งค่ามาที่ 105.8 จุด(ระดับการแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 6 เดือน) ประเมินหนุนค่าเงินสกุลเอเชียอ่อนค่าช่วงสั้น

(*/+)Oil : น้ำมันดิบ Brent +0.08%d-d ปิดที่ USD 71.89/barrel น้ำมันดิบ West Texas +0.12%d-d ปิดที่ USD 68.12/barrel

(+) BDI : ดัชนีค่าระวางเรือ BDI +4.88%d-d, +9%wtd ปิดที่ 1634 จุด ทำจุดสูงสุดตั้งแต่ 16 ต.ค.24 ประเมินเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มเรือเทกอง อาทิ TTA, PSL

 

What happened in Thailand?

(*/-) SET : SET Index ปรับลง -11.4 จุด หรือ -0.78% ปิดที่ 1,445.07 จุด กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มการแพทย์ (BDMS, BH) Outlook ประชุมนักวิเคราะห์ BH เป็นลบ ผู้ป่วยคูเวตที่หายไป ยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติม ขณะที่ยังมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นฝั่งลูกค้า UAE นอกจากนี้ ยังสร้างจิตวิทยาลบต่อหุ้น BDMS กลุ่มค้าปลีก (CPALL) กลุ่มหนุน คือ กลุ่มปิโตรเคมี (IVL) กำไร 3Q24 ดีกว่าคาด ขณะที่ยังมีภาพบวกเศรษฐกิจจีนฝั่งยอดบ้าน และรถยนต์มีสัญญาณเริ่มดีขึ้น กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, TRUE) ตอบรับผลบวก JAS ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก + FA Cup ด้วยเม็ดเงินเฉียด 2.0 หมื่นล้านบาท ลดความกังวลการแข่งขันประมูลคลื่นช่วงถัดไป ดีต่อต้นทุน นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณที่ JAS เปิดกว้างสามารถร่วมเป็นพันธมิตรถ่ายทอดสดได้

(*) Flows: เงินทุนต่างชาติวันทำการล่าสุด (8 พ.ย.2024) ไหลออก ซื้อหุ้น +14.6 ล้านเหรียญ, ขายพันธบัตร -121.8 ล้านเหรียญฯ TFEX Net Short -8,706 สัญญา เงินบาทอ่อนค่าสู่ 34.8 บาท

(+++) TH Tourism: นักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์ล่าสุด (4-10 พ.ย.) เพิ่มขึ้น +4.9%w-w สู่ 7.36 แสนคน เป็นนระดับสูงสุดในรอบ 13 สัปดาห์ สะท้อนการเข้าสู่ช่วงฤดูกาล ซึ่งตามรูปแบบปกตินักท่องเที่ยวจะเร่งขึ้นเรื่อยๆไปถึงช่วงปีใหม่และยืนสูงต่อเนื่องในไตรมาสที่ 1 ของทุกปี ผสานYTD นักท่องเที่ยวแตะระดับ 29.8 ล้านคน มองทิศทางยังอยู่ในกรอบที่ Consensus ประเมิน 35.5-36 ล้านคน เชิงกลยุทธ์ แม้ราคาหุ้นในกลุ่มภาคบริการระยะสั้นยังเคลื่อนไหวผันผวนรับรอยต่อการรายงานกำไร 3Q24 ที่ยังมีผลช่วงนอกฤดูกาลอยู่ แต่เรามองเป็นโอกาสสะสมหุ้นอิงภาคบริการ อาทิ AOT, BJC, CPALL, ERW

(*/+) TH Earning: อิง Bloomberg ปัจจุบัน บจ. รายงานกำไรแล้วทั้งสิ้น 305 บริษัท (vs วันทำการล่าสุด 218 บริษัท) กำไรต่ำกว่าคาด -19% (VS วันทำการล่าสุด -21%) และหดตัว -32%y-y (VS วันทำการล่าสุด -39.5%y-y โดยล่าสุดกลุ่มที่รายงานกำไร CHAYO (33%y-y, 31%q-q)

- งบดีกว่าตลาดคาด ได้แก่ SPALI (67%y-y, 24%q-q) BTG (พลิกกำไรy-y, 57%q-q) AU (55%y-y, 15%q-q) SYNEX (18.5y-y, 5.6%q-q) M( -12%y-y, -15%q-q) EPG (-70%y-y,-49%q-q) ILINK (-9%y-y, 26%q-q)

- งบตามตลาดคาด ได้แก่ AP (-15%y-y, +14%q-q) MC (3%y-y, -3%q-q) GFPT (70%y-y, -7%q-q) NEO (-34%y-y, -14%q-q) BDMS (9%y-y, 27%q-q) TASCO (264%y-y, 642%q-q) MTC (16%y-y, 3%q-q) AAV (พลิกกำไร y-y, 4000%q-q) SHR (ขาดทุนเพิ่ม y-y , ขาดทุนลดลง q-q) MC(+3%y-y, -3%q-q) AH (-59%y-y, 99%q-q) PLANB (8%y-y , 7%q-q) ONEE (8.1%y-y, 36.3%q-q) COM7 (16%y-y, -5.8%q-q)

- งบแย่กว่าตลาดคาด ได้แก่ MINT (16%y-y, -18%q-q) KCE (-7%y-y, -23%q-q) THCOM (พลิกขาดทุน y-y, ขาดทุนเพิ่ม q-q) MEGA (-28%y-y, -25%q-q) TTW (2%y-y, 47%q-q) TIDLOR (-1.6%y-y, -9.2%q-q) BGRIM (-53%y-y, -29%q-q) GABLE (-22.6%y-y, -17.9%q-q) PTG (261%y-y, -85%q-q)

- ไม่มีคาด ได้แก่ SPA (ทรงตัว y-y, 33%q-q) ZEN (-43%y-y, เพิ่มสูงจากฐานต่ำ q-q) BANPU -829 (พลิกขาดทุน y-y, q-q)

ส่วนหุ้นหลักที่คาดจะรายงานกำไรวันนี้ ได้แก่ BEM CPALL CRC OSP SRPC HANA SIRI SJWDเชิงกลยุทธ์ แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่มีโอกาสรายงานกำไรออกมาดี CPALL

(*/+) Cabinet: มติ ครม. ที่สำคัญวานนี้ ได้แก่

1.) ออกมาตรการสินเชื่อ ซื้อ - ซ่อม - สร้าง มูลค่า 5.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น วงเงิน 5.0 หมื่นล้านบาท สนับสนุนสินเชื่อ ซื้อ/สร้าง ซื้อที่อยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท/ราย และวงเงิน 5.0 พันล้านบาท เป็นสินเชื่อซ่อม - แต่ง มองจิตวิทยาบวกเล็กๆ กลุ่มอสังหาฯ แต่กลุ่มได้ประโยชน์ตรงส่วนใหญ่ตัวเลือกที่มีสินค้าบ้านระดับต่ำกว่า 3 ล้านรายยังล้วนติดปัญหายอดขาย+โอนที่ยังไม่ดี และกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง + ปรับปรุงบ้าน HMPRO, GLOBAL, DOHOME

2.) ออกมาตรการสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ 1.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มสภาพคล่อง+บรรเทาหนี้สินประชาชนรายย่อย มองจิตวิทยาบวกเล็กๆ กลุ่มธนาคาร กลุ่มเช่าซื้อ และค้าปลีก

แม้โดยรวมมติ ครม. ยังไม่มีมาตรการที่มีนัยฯ ซึ่งบวกชัดเจนต่อเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายกฯ นัดประชุม คณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจนัดแรก 19 พ.ย. 24 คาดเตรียมพิจารณามาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ชัดเจนมากขึ้น อาทิ นโยบายแจกเงินหมื่นเฟส 2 บวกต่อกลุ่ม Domestic ค้าปลีก เน้น CPALL, BJC, HMPRO ธนาคาร เน้น KTB, KBANK เช่าซื้อ เน้น MTC, JMT

(*) Smart Cities:กระทรวงดิจิทัลฯ เผยแผน AI Agenda ปี 25 พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสมาร์ทซิตี้ครอบคลุมทั่วประเทศ มุ่งใช้เทคโนโลยี AI ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม มองจิตวิทยาบวกต่อหุ้นรับเหมางาน ICT ภาครัฐฯ รวมถึงการดำเนินธุรกิจเป็นที่ปรึกษาดิจิทัล และโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้รองรับ Data Center และระบบโทรคมนาคม มองหุ้นได้รับจิตวิทยาบวก อาทิ ADVANC, TRUE, BE8, BBIK

(*/+) EPL & FA Cup : JAS เปิดเผยกลยุทธ์ทำตลาด หลังคว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และ FA Cup ของอังกฤษ มีประเด็นสำคัญ ดังนี้ วางช่องทางรับชมหลัก คือ Monomax (Streaming Platform) และช่อง MONO นอกจากนี้ ยังมีแนวทางในการจัดจำหน่ายผ่านทุก Network และ Mobile Operators ด้วย ไม่ว่าจะเป็น App Store (IOS) และ Google Store, AIS หรือ TRUE อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่า JAS ยังน่าจะกำหนดความแตกต่างระหว่างช่องทางตนเองและช่องที่จำหน่ายต่อ เพื่อสร้างธุรกิจ Streaming ส่วนราคาค่าบริการไม่เกิน 400 บาทต่อเดือน ขณะที่กำลังพัฒนาระบบที่ให้รับชมพร้อมกันได้ 4 จอ สัญญาณดังกล่าวมองช่วยลดจิตวิทยาลบต่อ TRUE ที่เสียลิขสิทธิ์ไปได้บ้าง ทั้งนี้ ยังต้องติดตามขั้นตอนการเจรจาเงื่อนไขต่างๆ ขณะที่ข้อจำกัด JAS ในการประมูลคลื่นมากขึ้น หนุนโดยรวมกรณีนี้ เรายังมองบวกต่อ ADVANC และ TRUE

(*/+) To Monitor: ปัจจัยภายในสัปดาห์นี้ติดตาม 14 พ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ต.ค. 24 ไม่มีคาด และโค้งสุดท้ายรายงานกำไรงวด 3Q24

 

Daily Strategy : ADVANC, CPALL, CBG เด่น

ระยะสั้น วันนี้มองตลาดหุ้นไทย "Sideways to Sideways/Up" แม้จิตวิทยาลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงออกมาทางลบ หลัง US Bond Yield 10 ปีเร่งขึ้นสูงสุดใน 4 เดือน ก่อนรายงานเงินเฟ้อคืนนี้ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มพักตัว แต่น่าจะบวกต่อหุ้นธนาคารที่ได้จิตวิทยาบวก ขณะที่เอเชีย แรงหนุน คือ จีนออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯเพิ่มเติม มองดีต่อหุ้น China Plays ผสาน ภายในแรงขับเคลื่อนจะมาจากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ ครม. เศรษฐกิจจะเริ่มประชุมนัดแรก 19 พ.ย. นำโดยการพิจารณานโยบาย Digital Wallet เฟส 2 หนุนหุ้นภายใน โดยรวมเรามองหุ้นนำวันนี้ คือ หุ้น Domestic (ค้าปลีก สื่อสาร ธนาคาร ท่องเที่ยว) หุ้น China Plays นอกจากนี้ หุ้นได้ประโยชน์ OPEC+ ส่งสัญญาณความต้องการน้ำมันลดลงปี 2025

 

หุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักจากกองทุนวายุภักษ์
กลุ่มที่ 1 หุ้นที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น, อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และมีแนวโน้มเติบโตดีในช่วง 2024 – 2025 ได้แก่ AOT, KTB, PTT

กลุ่มที่ 2 หุ้นที่อยู่ในกองทุนวายุภักษ์ 1 และซื้อขายในระดับ Valuation Zone รวมถึงมีแนวโน้มการเติบโตดี ได้แก่ CPALL, SCC, MINT, CRC, HMPRO, SCGP

กลุ่มที่ 3 หุ้นที่มีน้ำหนักใน SETESG สูงและมีแนวโน้มการเติบโตดี อยู่ใน Theme Data Center ได้แก่ ADVANC, GULF มีโอกาสเป็นเป้าหมาย

กลุ่มที่ 4 หุ้นได้ประโยชน์กองทุนวายุภักษ์ Theme ที่ 4 คือ Div Yield 2024-2025 สูง >5% และอยู่ใน ThaiESG หุ้น (KBANK, BBL, HMPRO, INTUCH)

กลุ่มที่ 5 หุ้นที่ยังมีน้ำหนักในกองทุนวายุภักษ์น้อย ขณะที่เข้าเกณฑ์ ESG Score (ถ้าอยู่ใน SET100 เรทติ้ง A ขึ้นไป ต่ำกว่า SET100 AA ขึ้นไป การเติบโตปี 2024-25 เกณฑ์ดี CPALL CPAXT BDMS CRC HMPRO IVL MTC BJC WHA

หุ้นในธีมประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่การเป็นหนึ่งในศูนย์กลาง Infrastructure Technology ของภูมิภาค (WHA, GULF, GPSC, STPI, DELTA ADVANC, TRUE, INSET, BE8, BBIK)
หุ้นในธีม Trump 2.0 (AMATA, WHA, PTT, PTTEP, TU, CPF, STA, STGT,. SCB, KBANK, KTB, CPALL, BJC, HMPRO, ADVANC, GULF, GPSC)
หุ้นภาคบริการได้ประโยชน์มาตรกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มไวขึ้นของรัฐบาลใหม่ ผสาน ท่องเที่ยว การผลักดัน Entertainment Complex คาดเป็นนโยบายหลัก หนุน บริโภค ท่องเที่ยว โรงแรม ร.พ. (AOT, BTS, VGI, BJC, STECON, ERW, BA, MBK)
กลุ่มได้ประโยชน์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ (IVL, AOT, AU, PTTGC, SCC, CPALL, BJC)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, BA, AAV, MTC, AEONTS, TRUE, CPALL, CPAXT)

• NOV24 Best Picks : ADVANC, BJC, BTS, GULF, GPSC, IVL, ADVICE

• 4Q24 Stock Picks : GULF, GPSC, MTC, CPALL, BJC, BDMS, AOT, KTB, ADVANC, HMPRO Mid-Small Cap Play : BTS, MALEE, MOSHI, CHG, ERW, BA

 

Tactical & Investment Idea

 

Research Highlight

 

• Strategy Update : US Trump President

Donald Trump เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 60 ครองเสียงสภาบน - สภาล่าง โดยนโยบายเน้น American First ลดภาษี Corporate Tax, กีดกันการค้า, สนับสนุนอุตสาหกรรมฟอสซิลและหนุนการขุดเจาะน้ำมัน ฯลฯ

KSS ประเมินระยะสั้น 1.)ผลกระทบ Dollar Index ที่แข็งค่ามาล่วงหน้ามาแตะ 105.3/105.85จุด คาดจะเริ่มถูกขายทำกำไรและอ่อนค่าลงรับการปรับลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งของ Fed ภายในปีนี้ 2.)เงินบาทที่อ่อนค่ามาแตะ 34.15/34.4บาทต่อเหรียญฯ จะกลับมาแข็งค่าในเชิงเปรียบเทียบ 3.)Bond Yields 10ปี สหรัฐฯ จะติดแนวต้าน 4.5% แล้วมีแรงซื้อกลับ กด UST ลดระดับลง 4.)ตลาดสินทรัพย์เสี่ยง EMs จะสลับกันขึ้น โดยมีกลุ่มประเทศ TIPs เด่น จากสัดส่วนรายได้โดยตรงจากจีน+สหรัฐฯ ที่ต่ำกว่า 2-3% ตอบรับ US Rally ในช่วงที่เหลือของปี กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้น ตลาดหุ้นไทยเดือน พ.ย. - ธ.ค. 2024 เดินหน้าแตะเป้าหมาย SET สิ้นปี 2024 ที่ 1540 จุด ได้เป็นอย่างน้อย แนะนำกลุ่มหุ้นเด่น 4Q24F : AOT, GULF, GPSC, MTC, CPALL, BJC, BDMS, KTB, ADVANC, HMPRO

ระยะกลาง – ยาว เน้นที่หุ้นได้ประโยชน์จาก นโยบายของ TRUMP 2.0 1.) กลุ่มนิคม AMATA, WHA 2.)กลุ่มพลังงาน PTT, PTTEP 3.)ส่งออกอาหาร ได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่ากว่าสมมติฐานเดิมและได้ประโยชน์จากการโยก Order เน้น TU (ได้ประโยชน์จากนโยบายลด Corporate Tax), CPF ยาง เน้น STA, STGT (จากสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าถุงมือยางจากจีน คาดจะหนุนยอดส่งออก) 4.)Domestic อาทิ กลุ่มธนาคาร (SCB, KBANK, KTB), ค้าปลีก (CPALL, BJC, HMPRO) สื่อสาร(ADVANC) Utilities(GULF, GPSC)

• Strategy Update : 3Q24F Earnings Plays

ช่วงต้นเดือน ต.ค. - กลางเดือน พ.ย.2024 เป็นช่วงรายงานผลประกอบของบริษัทจดทะเบียนไทยงวด 3Q24 หลังจากผ่านช่วงรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคารแล้ว จะเข้าสู่ช่วงการรายงานผลประกอบฝั่ง Real Sector โดยก่อนรายงานมักมีกระแสการเก็งกำไรเข้าซื้อในหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการจะออกมาดี เติบโต y-y, q-q หรือ หุ้นที่มีสัญญาณผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุด (เริ่มฟื้นตัว q-q)

ทีมกลยุทธ์ KSS รวบรวมข้อมูลคาดการณ์งบงวด 3Q24 ทีมีการประมาณการณ์ อิงจาก Bloomberg รวมทั้งหมด 96 บริษัท เพื่อค้นหาหุ้นที่มีความน่าสนใจต่อการเข้าเก็งกำไร

กลยุทธ์ แนะนำเก็งกำไรในหุ้นที่คาดจะรายงานงบ 3Q2024 ออกมาเด่น y-y , q-q และอยู่ในธีมหลักในการลงทุนที่ เรามองจะเด่นในปัจจุบัน ประกอบด้วย

o หุ้น China play IVL, AU

o หุ้นกลุ่มวงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงหนุน TRUE, MTC, GPSC, ADVANC, CPALL, CPF

o หุ้นได้ประโยชน์ธีม US Election หรือ ทนต่อความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากผลการเลือกตั้ง AMATA, WHA, BDMS

o หุ้น Mid small -Cap เน้น MOSHI

〽️Best Picks : เราเลือกหุ้นเด่น 5 บริษัทใน Theme 3Q24F Earnings Plays คือ IVL, ADVANC, CPALL, TRUE และ MOSHI

• Strategy Update :SET50/100 Rebalance เก็งกำไร BANPU SAWAD และ COM7

ทีมกลยุทธ์ได้คำนวณหุ้นเข้า/ออก SET50-SET100 สำหรับรอบ 1H25 ก่อนที่ตลาดจะประกาศการคัดเลือกหุ้นเข้าออกรอบนี้ในช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2024 และมีผลเริ่มใช้ 1 ม.ค. 2025 โดยสำหรับผลการคำนวนในรอบนี้ใช้ข้อมูลตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2023 – 30 ก.ย. 2024 (ยังเหลือข้อมูลราว 2 เดือน) ผลของการคาดการณ์น่าจะมีความใกล้เคียงในส่วนของ SET50 แต่อาจคาดเคลื่อนในส่วนของ SET100 ซึ่งคาดว่าบทวิเคราะห์ฉบับนี้จะช่วยให้นักลงทุนเตรียมตัวสำหรับการลงทุนในดัชนี SET50 และ SET100 ล่วงหน้าได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้

• หุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 รอบนี้มี 4 บริษัท คือ BANPU (โอกาสเข้า 90%), SAWAD (โอกาสเข้า 90%), COM7 (โอกาสเข้า 90%) และ TCAP (โอกาสเข้า 60%)

• หุ้นคาดว่าจะหลุด SET50 รอบนี้ 4 บริษัท คือ BCP (โอกาสหลุด 60%), TIDLOR (โอกาสหลุด 60%), CENTEL (โอกาสหลุด 90%) และ EA (โอกาสหลุด 100%)

• หุ้นที่คาดเข้า SET100 รอบนี้มี 3 บริษัท คือ CCET, COCOCO และ JTS

• หุ้นที่คาดว่าจะหลุด SET100 รอบนี้ 3 บริษัท คือ TIPH, MBK และ RBF

• Strategy Update : Data Center

กระแสเทคโนโลยีสมัยใหม่ Cloud, AI และในอนาคตในส่วนระบบ Automation แม้ไทยอาจจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศต้นน้ำที่ได้ประโยชน์จากการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาโดยตรง แต่กระแสหลักนี้ จะสร้างโอกาสให้ไทยช่วง 4-5 ปีนับจากนี้ ด้วยศักยภาพการเป็นศูนย์กลางโครงสร้างพื้นฐานสำคัญด้านเทคโนโลยี กล่าวคือ Data Center ในไทย มีจุดเด่นจากพื้นที่ตั้งเป็นศูนย์กลางภูมิภาค, ความพร้อมโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ 4G 5G ที่ครอบคลุม ความเสี่ยงต่อภัยพิบัติต่ำ และกระแสไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพและมั่นคง ทำให้ไทยเป็นจุดสนใจ จากการขยาย Data Center จากสิงคโปร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางเดิมที่เริ่มมีข้อจำกัด จากการรวบรวมตัวเลข KSS ในส่วนเม็ดเงินลงทุน Data Center ที่มีโอกาสเกิดขี้นในประเทศหลักๆ เราประเมินปัจจุบันมีเม็ดเงินมหาศาลรอลงทุน Data Center ในไทยช่วง 4-5 ปีจากนี้ ไม่น้อยกว่า 2.0 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนสูงราว 1.1% ของมูลค่า GDP ประเทศไทยในปัจจุบัน โดยหากทยอยลงทุน 4-5 ปี เท่ากับผลบวกต่อ GDP ราว 0.2-0.25% ต่อปี ซึ่งยังไม่รวมการนำมาสู่ประโยชน์ด้านดิจิตอลต่างๆ อีกจำนวนมากต่อประเทศ ถือเป็นหนึ่งใน S Curve ใหม่ของไทย และ Upside ของเศรษฐกิจระยะกลาง-ยาวที่เชื่อว่าตลาดยังแทบไม่รวมในประมาณการ GDP

มุมมองเชิงกลยุทธ์ ประเมินว่า Upside จากแรงขับเคลื่อนด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ มีจุดเด่นสำคัญ คือ ปริมาณข้อมูลที่ใช้สนับสนุนจะเติบโตแบบทวีคูณ (Exponential) ซึ่งน่าจะสร้างโอกาสทางธุรกิจสูงกว่าที่ตลาดคาดคิดไว้ และเป็น Thematic Theme ระยะกลาง-ยาว 1-5ปี KSS มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นที่อยู่ในระบบนิเวศน์ของ Data Center โดยฝั่ง Data Center เราแนะนำผู้ได้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานขยายตัวโดยตรง อาทิ GULF INTUCH ADVANC TRUE INSET DELTA STPI(Non-Coverage) กลุ่ม Digital Tech ที่ Data Center จะนำมาสู่ Upside งานประเภท Cloud Adoption และ AI รวมถึง Automation Adoption ระยะหนุนอุตสาหกรรมเข้าสู่รอบใหญ่ของการขยายตัวอีกครั้ง อาทิ BE8 BBIK ส่วนกระแส Cycle เทคโนโลยี AI ที่ผลักดันอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ พัฒนาให้มี AI พื้นฐานติดเครื่องมากขึ้น จะสร้างโอกาส ฟื้นตัวจากรอบการเปลี่ยนอุปกรณ์ตามกระแส AI เราคาดไม่ต่างไปจากยุค 3G 4G หนุนหุ้นได้ประโยชน์ อาทิ HANA , ADVICE(Non-Coverage), SYNEX(Non-Coverage)

Best Picks : GULF, TRUE, DELTA, INSET, BE8, HANA, ADVICE

 

• SPALI (Trading Buy, TP-20): มุมมอง slightly positive ต่อกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 1.99 พันลบ. (+67% y-y, +24% q-q) เพราะสูงกว่าเราและตลาดคาด 14% และ 11% ตามลำดับ จาก % GPM สูงกว่าคาด โดย core operation เด่นที่ การโอนโตสูง y-y, q-q รวมถึง % GPM ที่ 39.6% เพิ่มขึ้น y-y, q-q สวนทางกลุ่มฯ กำไรสุทธิ 9M24 เท่ากับ 4.2 พันลบ. (+6% y-y) คิดเป็น 72% ของกำไรสุทธิ 2024F ที่ 5.8 พันลบ. (-3% y-y) โดยคาดกำไรสุทธิ 4Q24F ยังดี ทำให้มีโอกาสกำไรสุทธิทั้งปีทำได้ / มี upside เล็กน้อย เราคง TP25F ที่ 20.0 บาท คง Trading Buy เราไม่ห่วง story ใน 2H24F เพราะดีกว่า 1H24 จาก presale และกำไรสุทธิดีขึ้น h-h แต่เราห่วง outlook ปี 2025F มากกว่า เพราะยังเป็นสิ่งที่ท้าทาย จาก backlog condo รอโอนต่ำเพียง 3.6 พันลบ. ทำให้ต้องพึ่งพิงการระบาย stock condo, low-rise ที่มาก และยอดขายจากโครงการใหม่ Australia มาชดเชย ซึ่งอาจทำได้ไม่ง่าย

• AU (Buy, TP-11.5): We maintain a Buy rating for AU with a target price of Bt11.50. (1) AU reported earnings growth of +55% yoy and +15% qoq in 3Q24 to Bt81m, surpassing our estimate by 10%. This strong performance was driven by a 4.5% SSSG, led by new product launches and increased sales to convenience stores. (2) With 9M24 profits accounting for 78% of our FY24F forecast, this suggests upside potential to our estimates. We expecting earnings to grow both yoy and qoq in 4Q24F. (3) AU offers strong earnings visibility, supported by solid brand positioning, expanded sales channels, and a larger contribution from tourists, which make up 30% of group revenue.

• CBG (Upgrade to Buy, TP-89): Upgrade to BUY, raise TP by 17% (from THB76 to THB89) as we factor in the bullish 2025F guidance given at the analyst briefing yesterday. This included: 1) 20% sales growth, driven by the growth in the energy drink segment and the third-party distribution business, 2) higher gross margin yoy from higher operating efficiency and lower raw material costs and 3) potentially lower SG&A to sales due to sharp sales growth. We keep our 2024F earnings forecast while factoring in the guidance for 2025. This raises 2025F core profit by 12.1%.

• KCE (Buy, TP-52): KCE's core earnings in 3Q24 fell to Bt386m (-18% yoy, -27% qoq), 23% lower than market and our expectation, the lowest quarterly earnings in the past five quarters. The key reason was due to a lower than expected of GPM. We believe its share price might get pressured by a disappointed 3Q24's earnings, waiting for more update from management on 18 Nov. However, we see that the 22% declined on its share price within just four trading day is too excessive. The company is currently trading at only 16x P/E (-1.5SD of its mean).

 

 

4Q24F Equity Outlook : Thailand Inflection Point

Stock Best Picks : GULF, GPSC, MTC, CPALL, BJC, BDMS, AOT, KTB, ADVANC, HMPRO

Mid-Small Cap Play : BTS, MALEE, MOSHI, CHG, ERW, BA

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ผจญภัย By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม ตลาดหุ้นไทย เปิดทำการ ดั่งอยู่ในโลกของการผจญภัย ทุกย่างก้าว ล้วนเต็มไปด้วยอันตราย ความไม่แน่นอน..เสาหลัก

มัลติมีเดีย

PTG เปิดแผนงานปี 68 - หุ้นอินไซด์ ทอล์ค

PTG เปิดแผนงานปี 68 - หุ้นอินไซด์ ทอล์ค

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้