ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook
สรุปภาพตลาดวานนี้
SET ปรับฐานลดความร้อนแรง โดยมีแรงขายจากหุ้นใหญ่ทั้ง DELTA ADVANC AOT TRUE CPALL BBL ขณะที่แรงซื้อหุ้นใหญ่ไม่ได้บวกแรง KTB PTT BAY CRC SCC TOP แต่หุ้นกลาง-เล็กบางตัวบวกดีกว่า CBG IIG TAKUNI W META เป็นต้น
แนวโน้มตลาดวันนี้
MSCI Rebalance times…
เมื่อวานหุ้นไทยตก ตามที่เราคาดด้วยเราแนะนำ ปรับกลยุทธ์ ชะลอการไล่ซื้อหุ้นใหญ่ที่ราคาบวกแรงดันดัชนีฯขึ้นมาตลอดทั้งสัปดาห์ และเปลี่ยนมาเก็บหุ้นแถวสองที่ราคายังไม่ลอย Valuation ไม่แพง และ/หรือ มีแนวโน้มกำไรดีขึ้นในไตรมาสถัดๆไป
โดยการพักฐานของดัชนีฯ หลังทดสอบแนวต้านจิตวิทยาสำคัญบริเวณ 1,370 จุด เราคาดใช้เวลาไม่นานสำหรับการพักฐาน แต่ระหว่างการพักฐาน คาดหุ้น Alpha ตัวกลาง เล็ก มีโอกาส Outperform ตลาด “ดูหลักฐาน”จากรายชื่อหุ้น Alpha หลายตัวที่ บวกดีกว่าดัชนีฯ ในสรุปภาวะการลงทุน ข้างต้น...
แม้วันนี้ตลาดหุ้น ตปท.โดยเฉพาะสหรัฐฯจะฟื้นตัวขึ้นจาก GDP ไตรมาส 2 สหรัฐมีการทบทวนครั้งที่ 2 เป็น 3% ดีกว่าตลาดคาด 2.8% (ดีกว่าครั้งแรกที่ 2.8% และดีกว่าไตรมาส 1 ที่ 1.4%) แต่เราคาดว่าจะไม่ได้ช่วยหนุนหุ้นบูลชิพใหญ่ของไทยที่เป็นกลุ่มนำตลาดขึ้นในรอบนี้ เพราะ วันนี้มี MSCI Rebalance เราคาดว่าจะมีแรงขายลดน้ำหนักหุ้นอื่นๆใน MSCI ตามหลักการกระจายน้ำหนักของตระกร้า MSCI Thailand ด้วย ดังนั้นกลยุทธ์วันนี้ เรายังหลบไปเล่นหุ้น Alpha ตัวกลางเล็ก ตามกลยุทธ์ระยะสั้นที่เราแนะนำช่วงรอตลาดปรับฐาน...
กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์ แนะนำ เลือกหุ้นเล่นเป็นรายตัว โฟกัสไปข้างหน้า เน้นไปที่แนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะมีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการณ์ หรือ มองเห็นปัจจัยหนุนชัดเจนที่จะเข้ามาเกื้อหนุนต่อผลการดำเนินงานหลังจากนี้
วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET เข้าเกณฑ์เงื่อนไขปรับฐานระยะสั้น เช่น ทดสอบเส้น EMA 200 บริเวณ 1,370 จุด….ไม่ผ่าน! ขณะที่โมเมนตัม RSI เข้าสู่เขต overbought และกำลังตัดเส้น signal line ลง นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบจากหุ้นใหญ่ หุ้นนำตลาด เช่น KBANK DELTA และ ADVANC เริ่มย่อเนื่องด้วยการปรับขึ้นร้อนแรงเช่นกัน คำถาม: ตลาดจะลงแค่ไหน! ตัวเลข Fibo 50% และ เส้น EMA ชี้จุดรับบริเวณ 1,340-1,350 ลงไม่ลึก “Correction wave 4“ แต่หน้าหุ้นจะมีการ switching สลับหมุนเวียนเปลี่ยนกลุ่ม
Note: MSCI จะมีการปรับน้ำหนักหุ้นไทยในวันนี้ ส่วนหุ้นที่เข้าข่ายจะถูกถอดออกได้แก่ AWC, GPSC, IVL, EA และอื่นๆ จะมีวิธีรับมืออย่างไร ติดตามในหน้าเลือกหุ้นเด่นประจำวันครับ
What to watch
บจ.ไทยหลายแห่งที่เคยเป็นข่าวเรื่อง ขาดความสามารถชำระหนี้ และหุ้นกู้ ถึงตอนนี้ สามารถจ่ายคืนหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าผ่านไปได้ทั้งหมด เช่น EA SCI RICHY A5 TPOLY CGD รวมถึงกลุ่ม JMART ที่ได้เตรียมเงินสด 2500 ลบ พร้อมชำระคืนหุ้นกู้เต็มจำนวน ตามนัดในเดือน ก.ย.นี้...
การเมืองในประเทศ: ยังรอ ครม.ใหม่ ซึ่งมีการทาบทามพรรคการเมืองเข้าร่วมเรียบร้อยแล้ว
ตลท. เปิดเผยถึงการจัดงาน Thailand Focus 2024 ครั้งที่ 18 ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนสถาบันร่วมงาน 178 ราย จาก 80 สถาบันทั่วโลก และในจำนวนนี้มีผู้ลงทุนจากกลุ่มประเทศหลัก ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และสวีเดน ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมงาน โดยมีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน 112 บริษัท จากทุกกลุ่มอุตสาหกรรมร่วมให้ข้อมูลความแข็งแกร่งธุรกิจและทิศทางการเติบโตผ่านการประชุมทั้งรูปแบบ one-on-one และ group meeting
กลต.เตรียมประกาศให้ ผบห.บจ.ที่ถือหุ้น และ นำไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน”นอกตลาด” ต้องแจ้ง
การปรับหุ้นไทยออกจาก MSCI มีผลสิ้นเดือนนี้ Standard index: AWC GPSC EA IVL, MSCI Small Cap หุ้นเข้า BJC EA KAMART TLI หุ้นออก BAFS BYD EPG NEX ORI PTG RBF THANI SC SJWD SKY SNNP THCOM
ส่วน FTSE Rebalance: FTSE All World หุ้นออก BLA (กระทบมากสุด), และกลุ่มขยับจาก Large-Cap ไปเป็น Mid-Cap (ทั้งคู่ยังอยู่ใน All-World) ได้แก่ OR MINT PTTGC EA CRC สำหรับกลุ่ม Small-Cap หุ้นเข้า BLA (ลงจาก All-World) CPNREIT และหุ้นออก ITD NER ORI TPIPL
หุ้นแนะนำวันนี้
PLANB Catch-up plays ในกลุ่มสื่อฯ และมีแนวโน้มกำไรเติบโตดี คาดทำ New high ต่อเนื่องใน 3Q-4Q24 เป็นตัวค้ำยันพื้นฐานที่แกร่ง
(S 7.5 R 8.4 SL 7.3)
รายงานพื้นฐานวันนี้
Healthcare
เข้าสู่ High season
เรามีสรุปภาพรวมงานประชุมนักวิเคราะห์ของกลุ่มโรงพยาบาล โดยโรงพยาบาลใหญ่ทั้งสองโรงพยาบาลมีมุมมองเป็นบวกต่อภาพของไตรมาส 3 ที่จะสามารถทำ All time high ได้ โดยเราคาดการณ์กำไร 3Q24 ในเบื้องต้นของกลุ่มโรงพยาบาลอยู่ที่ 7.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY และ 25% QoQ อย่างไรก็ตาม BCH จะรายงานกำไรลดลงเล็กน้อย YoY
โดยเรามองว่าผู้ป่วยชาวต่างชาติจะเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้ในครึ่งปีหลังนี้ โดยเฉพาะ CLMV จีน และตะวันออกกลาง
นอกจากนี้แล้วจำนวนผู้ป่วยตามฤดูกาลปรับตัวสูงขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในเดือนกรกฏาคม และสิงหาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
Fundamental View: ในช่วง 2H24 เราชอบกลุ่มโรงพยาบาลใหญ่ที่จะสามารถทำกำไร เติบโตต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ ได้ (ใน 3Q24) เรายังคงชอบ BDMS และ BH
ส่วน BCH ตอนนี้เรามองว่า downside ค่อนข้างจำกัด จากราคาหุ้นที่ได้มีการปรับตัวลงก่อนหน้ามาแล้ว เรามองว่าเป็นช่วงสะสมซื้อ เพื่อการเติบโตในปี 2025 ที่จะเติบโตจากฐานที่ต่ำในปีนี้
TLI
(Visit Note)
ไทยประกันชีวิต
Downside ของกำไรปีนี้น่าจะจำกัด
เรามีมุมมองเป็นกลางต่อกลยุทธ์ของ TLI ที่จะเน้นขายผลิตภัณฑ์ที่มีกำไรสูง และเป็นที่ต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ได้แก่ ประกันภัยแบบเน้นการคุ้มครอง เช่น ประกันชีวิตแบบตลอดชีพและประกันสุขภาพ นอกจากนี้ ยังเน้นพัฒนาช่องทางการขาย ทั้งช่องทางตัวแทนและพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง สำหรับธุรกิจลงทุน จะบริหารการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น
ในเบื้องต้น เราคาดกำไรสุทธิ 3Q24 จะเติบโต YoY (กำไรของธุรกิจประกันภัยดีขึ้น) แต่ลดลง QoQ (ค่าใช้จ่ายในการประกันภัยสูงขึ้น QoQ)
Our View: หลังจากที่ TLI ถูก consensus downgraded earnings นับตั้งแต่เข้า SET ปัจจุบันเราเริ่มเห็นการปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ขึ้นในเดือนส.ค. 24 ขณะที่ Valuations ถือว่าไม่แพง PBV ปี 2024 ที่ 0.8 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV ย้อนหลัง 2 ปี ตั้งแต่เข้า SET ที่ 1.4 เท่า) และคาด Dividend yield ราว 4% ต่อปี เราจึงมองว่าสามารถหาจังหวะเข้าเก็งกำไรได้
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน