Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

350

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ
อัพเดต Sentiment การลงทุนในภูมิภาคจาก Fund Flow และประเด็นสำคัญใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
การติดตามกระแสการลงทุน (fund flows) ใน 5 ประเทศในสัปดาห์ที่ผ่านมา มียอดขายสุทธิ 1,302 ล้านเหรียญ กลับทิศจากยอดซื้อสุทธิ 1,800 ล้านเหรียญ โดยมี net outflow หลักๆ 2 ประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน 2,395 ล้านเหรียญ และไทย 87 ล้านเหรียญ ส่วนประเทศที่มี net inflow ได้แก่เกาหลีใต้ 1,079 ล้านเหรียญ อินโดนีเซีย 97 ล้านเหรียญ และฟิลิปปินส์ 4 ล้านเหรียญ
สำหรับเซคเตอร์เด่นของภูมิภาคจากการจับสัญญาณด้วย Volume Index มีดังนี้ (1) Communication และ (2) Consumer
แนวโน้ม:
เซคเตอร์ไทยที่น่าจับตาในระยะสั้น (เฉพาะที่ cover ในรายงาน Flow Tracker) ได้แก่
 กลุ่มที่ Volume Index มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากระดับสูงกว่า mid-point ได้แก่ ICT
 กลุ่มที่ Volume Index มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำกว่า mid-point ได้แก่ Commerce
 กลุ่มที่ Volume Index มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากระดับใกล้ lower bound ได้แก่ Energy & Utilities
“มีอะไรใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา”
1 จีนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2 ขยายตัวที่ 4.7% YoY ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 5.1% และเป็นอัตราการเติบโตที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2023 นอกจากนี้ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆของเดือน มิ.ย. ก็แสดงภาวะของความอ่อนแอคล้ายๆกัน โดย ยอดค้าปลีกเติบโตเพียง 2% YoY ต่ำกว่า consensus คาดที่ 3.3% ฉุดจากหมวดเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม (-1.9%) เครื่องสำอาง (-14.6%) เครื่องใช้ไฟฟ้า (-7.6%) และอุปกรณ์สำนักงาน (-8.5%) ภาพดังกล่าวเป็นการสะท้อนกำลังซื้อที่อ่อนแอภายในประเทศ
2 Quant Focus List ประจำสัปดาห์หลายหุ้นปรับตัวขึ้นเด่นสวนตลาดเมื่อวานนึ้ เช่น OSP (+1.7%), TU (+1.3%), BH (+1.6%), INTUCH (+2.3%) และ MINT (+0.8%)
3 ประธานเฟดให้สัมภาษณ์ที่ Economic Club ว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะไม่รอให้เงินเฟ้อลดลงสู่ระดับ 2% ก่อนแล้วจึงค่อยปรับลดดอกเบี้ย โดยนัยยะของเรื่องนี้ก็คือ หากรอจนกว่าเงินเฟ้อจะลดลงมาถึง 2% ก็อาจจะนานเกินไป เพราะระดับความเข้มงวดที่มีอยู่ จะยังคงสร้างผลกระทบให้เงินเฟ้อลดลงต่ำกว่า 2% ในอนาคต
ความเห็นของประธานเฟดดังกล่าว ช่วยหนุนให้หุ้นวัฏจักรและ rate sensitive ของสหรัฐหลายๆกลุ่มปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ เช่น Energy (+1.5%), Bank (+1.5%), Industrials (+0.7%) และ Real Estate (+0.4%)

สรุปภาพตลาดวานนี้
ดัชนีดิ่งลงเช้า แล้วกลับมาปิดลบน้อยลงภาคบ่าย แรงขายของวานนี้จากกลุ่มธนาคาร (กังวลการตั้งสำรองกรณี EA) และหุ้นลงแรงกลุ่มเกี่ยวโยง เช่น BYD NEX รวมทั้งที่มีแรงขายทำกำไรออกมา CFARM QTCG เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่บวกพยุงตลาดไว้ หลักๆ กลุ่ม Defensive สื่อสาร INTUCH ADVANC TRUE รพ. BH BDMS และ รฟฟ. GULF ส่วนหุ้นถูกเก็งเข้า SET50 แทน EA อย่าง SAWAD ก็ปรับตัวขึ้นมาดีช่วงบ่าย (หลังตลาดแขวน SP หุ้น EA)

แนวโน้มตลาดวันนี้
ฝุ่น EA เริ่มจาง แต่...
วันนี้คาดดัชนีฯรีบาวด์สั้น หลังเมื่อวานเผชิญแรงขายจากข่าวลบกระทบวิกฤตศรัทธาตลาดหุ้นไทยกรณีหุ้น EA ใน SET50 ถูกปลด SET ESG จากกรณี ผบห.ถูกกล่าวโทษฯ แม้ตลาดหุ้นจะปรับฐานลงสะท้อนความกังวล ESG และหวั่นหนี้ EA กระทบสำรองธนาคารแล้ว แต่เราคาดว่าระยะสั้นการฟื้นตัวยังจำกัด เหตุเพราะ กลุ่มธนาคารยังต้องติดตาม อาจตกเป็นผู้ช่วยรับภาระ มาตรการลดภาระหนี้ครัวเรือน เหมือนครั้งก่อนที่ช่วยดอกเบี้ยให้ลูกหนี้...
ส่วนหุ้นรายตัวที่เลือกเล่นในระหว่างตลาดพักฐาน เราคงคำแนะนำ พิจารณาตามแนวโน้มงบการเงินที่กำลังทำ “Previews” คาดการณ์กำไรไตรมาส 2 เป็นหลัก ตามมุมมองกลยุทธ์ประจำสัปดาห์ที่เรา เห็นสัญญาณบวกจากหุ้นตัวก่อนๆที่มีการ preview งบดีเกินคาด...

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์ แนะนำ เลือกหุ้นเล่นเป็นรายตัว เริ่มโฟกัสไปข้างหน้า เน้นไปที่แนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะมีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการณ์ หรือ มองเห็นปัจจัยหนุนชัดเจนที่จะเข้ามาเกื้อหนุนต่อผลการดำเนินงานหลังจากนี้

วิเคราะห์ทางเทคนิค SET ย่อ แต่พยายามสู้ไม่ให้หลุดเส้น EMA (เส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน & 25) จุดสังเกตโมเมนตัม RSI ส่งสัญญาณพักตัว หลังจากทะลุ level 50 ผ่านได้สำเร็จ...เราคาดว่าดัชนียังอยู่ในเส้นทาง recovery ยังไม่จบรอบฟื้นตัว (SET ขึ้นเยอะลงน้อยกว่า) แนวรับ 1,320 จุด สู้ได้...โดยมีเป้าหมายรายเดือน base case อยู่ที่ 1,340 จุด…
Note: หัวข้ออื่นๆแผนแก้เกมส์หุ้นแบงค์ / แผนเทรดหุ้นฮอตกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์

 

What to watch
ไทม์ไลน์คดี การเมือง: ศาลฯนัดพิจารณาประชุมคดีถอดถอนนายก ครั้งต่อไป 24 ก.ค.
ครม.เศรษฐกิจ หาแนวทาง แก้หนี้ครัวเรือน เบื้องต้นมีแววให้กลับมาจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ 5% และยังต้องตามมาตรการนอกกรอบ ที่นายกส่งสัญญาณ, นายกฯแถลงความคืบหน้าดิจิตอลวอลเล็ต 24 ก.ค. คาดเริ่มลงทะเบียน 1 ส.ค.นี้
งบการเงินกลุ่มธนาคาร พฤ. นี้ BBL และที่เหลือออกวันศุกร์นี้
ตลท. - ก.ล.ต. เร่งหารือเปิดเผยข้อมูลกรณีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ถูกบังคับขายหุ้น (ฟอร์ซเซล) ให้ถี่ขึ้น จากปัจจุบันเดือนละครั้ง
จ่อชงครม.พักหนี้เกษตรกรเฟส2 นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธ.ก.ส.ได้เตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล เบื้องต้น มี 3 โครงการ ได้แก่ 1. การแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรลูกค้า 2. โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง และ 3. โครงการประกันภัยพืชผล
ไทย-ซาอุฯดีลธุรกิจสำเร็จกว่า100คู่ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการจัดคณะหน่วยงานภาครัฐและเอกชนไทย นำโดยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางเยือนประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 13-15 กรกฎาคม พร้อมเป็นประธานเปิดสำนักงานบีโอไอ แห่งที่ 17 ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย อย่างเป็นทางการ วันที่ 14 กรกฎาคม 2567 ว่า จัดงานประชุมภาคธุรกิจ "Thai-Saudi Investment Forum" และการเจรจาจับคู่ธุรกิจ ประสบความสำเร็จ ได้รับความสนใจจากนักธุรกิจไทยและซาอุดีอาระเบีย รวมถึงนักธุรกิจจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง เข้าร่วมงานกว่า 300 คน จากกว่า 200 บริษัท/หน่วยงาน เกิดการเจรจาธุรกิจกว่า 100 คู่ มีการลงนามบันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือทางธุรกิจรวม 11 ฉบับ หลายสาขา เช่น อุตสาหกรรมการเกษตร อาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ วัสดุก่อสร้าง
อดีต ปธน.ทรัมป์ รอดจากเหตุการณ์ลอบสังหารได้กลายเป็นสัญญาณบวกต่อการเลือกตั้งสหรัฐฯที่อาจจะเกิดภาวะ แลนด์สไลด์เข้าทาง อดีต ปธน.ทรัมป์

หุ้นแนะนำวันนี้
INTUCH หุ้นแนวโน้มผลประกอบการ 2Q24 ทิศทางดีตาม ADVANC และยังมีปันผลกลางปีให้เล่นดักธีมหุ้นปันผล (S 76 R 79 SL 74)

 

 

รายงานพื้นฐานวันนี้

Bank Sector
ประเด็น EA จะกระทบกลุ่มธนาคารอย่างไร?
ก.ล.ต. กล่าวโทษกรรมการและผู้บริหาร EA กับพวก รวม 3 ราย ทำให้เราประเมินว่าธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อให้ EA จะมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์สูงขึ้น
โดยเราประเมินว่าหากธนาคารไม่ปล่ออยสินเชื่อให้ EA จะทำให้ EA มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด 4 พันล้านบาทในวันที่ 29 ก.ย. 24 ซึ่งหาก EA ผิดนัดชำระหุ้นกู้ เราคาดว่าธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อให้ EA มีแนวโน้มจะจัดชั้นสินเชื่อของ EA ลงจากสินเชื่อปกติ (Stage 1) เป็น NPLs (Stage 3)
โดยเราสอบถามไปทางธนาคารและได้รับข้อมูลมาว่า KKP และ TISCO ไม่ได้มีการปล่อยสินเชื่อให้กับ EA ส่วน TTB มีการปล่อยสินเชื่อให้กับทาง EA ไม่ถึง 1 พันล้านบาท หรือคิดเป็นเพียงไม่ถึง 0.1% ของสินเชื่อของ TTB ส่วน SCB มีการปล่อยสินเชื่อให้ EA แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าจำนวนเท่าไร
นอกจากนี้ เราได้ค้นหาข้อมูลและหลักฐานอดีตพบว่า BBL และ KTB น่าจะปล่อยสินเชื่อให้ EA น้อยหรือไม่มีเลย
Fundamental view: เราจึงแนะนำซื้อ BBL KTB และ TTB

Commodities
ส่วนต่างปิโตรเคมีฯ กลับมาแล้ว
ในสัปดาห์ที่แล้วราคาน้ำมันดิบดูไบ ลดลง $1.25 WoW เป็น $85.50/บาร์เรล (ลบต่อ PTTEP) หลังประเด็นกังวล Hurricane ผ่านไป และปัญหาตะวันออกกลางดูเบาลง
ค่าการกลั่น (อิงสิงคโปร์) ย่อลงเล็กน้อย $0.06 WoW เป็น $3.86/บาร์เรล (กระทบต่อ SPRC และ TOP น้อย)
ส่วนต่างราคา (Spread) ส่วนใหญ่ขยายตัว หลักๆ การกลับมาปรับราคาสินค้าขึ้นได้ และต้นทุนลดลง (โดยรวมบวกต่อ PTTGC มากสุด)
ราคาถ่านหิน ลดลง 1% WoW ที่ $133.36/ตัน (ลบต่อ BANPU เล็กน้อย)
ค่าระวางเรือเทกอง (BDI) ลดลง 6% WoW เป็น 1,943 จุด (กดดันต่อ PSL และ TTA เล็กน้อย)
ส่วนค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ (World Container Index) เพิ่มขึ้น 1% WoW เป็น 5,901 จุด (บวกต่อ RCL เล็กน้อย)
Fundamental View: เชิงพื้นฐานเราชอบ PTTEP มากสุดสำหรับพลังงานต้นน้ำ, TOP มากสุดในกลุ่มโรงกลั่น และเห็นโอกาสเก็งกำไรในกลุ่มเดินเรือ และเห็นโอกาสเก็งกำไร RCL

BTG
เบทาโกร
คาดกำไร 2Q24 แข็งแกร่ง
เราคาดกำไร 2Q24 ที่ 530 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนหลัก YoY, QoQ และสูงกว่าที่เราเคยคาดไว้ที่ 450 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ เนื่องจาก GM ดีกว่าคาด และกลับมาอยู่ในช่วง 13-14% (เทียบ YoY, QoQ ที่ 10-11%) โดยราคาหมูและไก่ ปรับตัวขึ้น QoQ ขณะที่ราคาต้นทุนวัตถุดิบ (ข้าวโพด กากถั่วเหลือง) ลดลง QoQ
สำหรับแนวโน้มเราคิดว่าราคาไก่จะยืนต่อได้ใน 3Q24 ตามฤดูกาลการส่งออก ส่วนราคาหมูยังต้องติดตาม เพราะราคาปัจจุบันอ่อนตัวลงมา และปกติฤดูฝนและการกินเจ ราคาจะลงต่อในเดือน ก.ย.-ต.ค. (ตามสถิติในอดีต) อย่างไรก็ตาม มุมมองของ BTG ยังมองราคาไก่และหมู บวกขึ้นต่อใน 3Q24 และมองว่าราคาข้าวโพดที่สูงขึ้นมาจะเข้ามาเป็นต้นทุนใน 4Q24 เลย (ใน 3Q24 ยังมีต้นทุนเดิมที่ต่ำเฉลี่ยอยู่)
Fundamental view: เรายังคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร

DELTA
เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย)
ฟื้นตัวใน 2Q24
ทิศทางรายได้ของ DELTA Taiwan ใน 2Q24 เติบโต 3% YoY และ 13% QoQ หลักๆหนุนโดย AI server power supply ในขณะที่กลุ่มยานยนต์หรือ EV โต 10% ต่ำกว่าเป้าหมายการเติบโตทั้งปีที่ 20%
เราประเมินกำไรหลักของ DELTA ที่ 4.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY และ 15% QoQ จากการฟื้นตัวของกลุ่ม Data center
สำหรับภาพครึ่งปีหลังน่าจะเห็นการฟื้นตัวของยอดขายจากการกลับมาเต็บคลังสินค้าของลูกค้า
Fundamental View: เรายังคงคำแนะนำ ถือ

COCOCO
ไทย โคโคนัท
ขายมะพร้าว “น้ำหอม” แต่หุ้น “เนื้อหอม”
เราคาดกำไรหลัก 2Q24 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 212 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.5% YoY และ 10.2% QoQ ปัจจัยหนุนจากยอดขายเติบโต 38% YoY และ 12% QoQ จากกลุ่มน้ำมะพร้าวที่เติบโตได้ต่อเนื่องจากการส่งออกที่วางแผนไว้ ขณะที่กะทิก็ไม่ได้กดดันการเติบโตไตรมาสนี้ โดยประมาณการเรายังให้ GM อนุรักษ์นิยมที่ 26.7% (เท่ากับสถิติสูงสุดใน 1Q24) แต่ก็มองว่ามี Upside จากการ Ramp-up ประสิทธิภาพ ของกการผลิตเครื่องจักรใหม่ ได้เร็วกว่าต้นทุนที่เพิ่ม สำหรับแนวโน้ม 3Q24 คาดกำไรหลักยังทำ All-time high ได้ต่อเนื่อง โดยจะมีแรงหนุนจากทั้งด้านรายได้ (Peak Season) และ GM ดีขึ้นจาก Economy-of-scales กลบผลกระทบของฤดูกาลที่มีค่าใช้จ่ายการตลาดเพิ่ม
ในเบื้องต้น เราประเมิน Upside ต่อประมาณการกำไรหลักทั้งปี 2024 ของเราราว 5-10% หาก GM ออกมาดีกว่าคาด ส่งผลต่อการปรับมุมมองบวกขึ้น เพราะจะเป็นการยืนยันความชัดเจน 2 ประเด็น 1) ต้นทุนน้ำมะพร้าวที่เคยกังวลกัน ไม่ได้กระทบอย่างมีนัยฯ และ 2) ตลาดน้ำมะพร้าว ค่อนข้างโดดเด่น และ Outperforming ภาพรวมกลุ่มเครื่องดื่ม และ COCOCO คือ ผู้นำกลุ่ม Pure play น้ำมะพร้าวส่งออก
Fundamental view: ในเชิงพื้นฐานเรายังคงให้คำแนะนำซื้อ และเชิงกลยุทธ์ก็แนะนำให้ยังลงทุน Let-profit-run ต่อไป เพราะนอกจากกำไร 2Q24 ที่ดี และมี Upside ดังกล่าว รวมทั้งโอกาส Re-rate valuation ของตลาด โดยนอกจากช่วง ต.ค. จะเริ่มเห็นตัวเลขคอนเฟิร์ม All-time high ได้หรือไม่แล้ว ยังเป็นช่วงที่จะมีการเจรจายอดส่งปีหน้ากับลูกค้าในจีนด้วย ซึ่งจะทำให้ Upside กำไรปีหน้าเปิดเพิ่มจากปัจจุบันที่ทำไว้ระดับกลางๆ ก่อน

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

HotNews: RJH ทุ่ม 420 ลบ. ลุยโครงการซื้อหุ้นคืน

บอร์ด RJH เคาะ โครงการซื้อหุ้นคืน จำนวน 18 ล้านหุ้น วงเงิน 420 ลบ. เริ่ม 15 พ.ย.67 - 30 เม.ย.68

หนาแน่น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย เช้าวันนี้ ยังคงมีความคึกคัก .....

มัลติมีเดีย

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

รู้จัก เมดีซ กรุ๊ป ก่อนเทรด บนกระดาน SET - สายตรงอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้