ความสนใจวันนี้อยู่ที่สถานการณ์การเมือง
ความสนใจหลักวันนี้อยู่ที่การติดตามกรณีที่ สว. ยื่นคำร้องให้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา กรณีที่ นายกรัฐมนตรี แต่ตั้ง คุณพิชิต เป็น รมว.ประจำสำนักนายก ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญและเป็นเหตุให้สิ้นสภาพความเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ โดยวันนี้ศาลฯ จะพิจารณาว่าจะรับ หรือ ไม่รับ คำร้องดังกล่าว ไว้พิจารณาหรือไม่ และหากรับไว้พิจารณา จะมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรี ยุติการปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราวหรือไม่ ส่วนประเด็นเรื่อง GDPงวด 1Q67 ที่ออกมา 1.5% YOY และทั้งปีคาดโต 2.5% YOY แม้จะฟื้นตัวได้ดีกว่าคาดของนักเศรษฐศาสตร์ แต่ในมุมของรัฐบาลเห็นว่าเป็นการเติบโตที่ต่ำ และน่าจะจำเป็นต้องเห็นมาตรการกระตุ้นทั้งกาคลังและการเงินที่ต้องเดินไปทางเดี่ยวกัน หากดำเนินการไปในทิศทางดังกล่าว ก็น่าจะทำให้ภาพ BOTTOM OUT ที่เราเคยนำเสนอ ชัดเจนมากขึ้น
คาดว่า SET INDEX น่าจะอยู่ในภาวะที่ผันผวน และรอดูสถานการณ์ทางการเมือง ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1364 – 1380 จุด สำหรับหุ้น
TOP PICK เลือก BCH, CPALLและ MAJOR

GDP ไทยโตต่ำ ใช้ นโยบายการเงิน-การคลัง กระตุ้นเศรษฐกิจ
ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเติบโตได้ราว 5.4%YOY ขณะที่ช่วง 10 ปีย้อนหลัง ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยแค่ 3.3%YOY สะท้อนศักยภาพเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำลงไปเรื่อยๆ จากปัญหาเชิงโครงสร้าง กดดัน GDP GROWTH บ้านเราเติบโตได้ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศ ASEANภาวะดังกล่าวทำให้ความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเริ่มกลับมา ซึ่งน่าจะหนุนให้นโยบายการเงิน การคลังเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น ขณะที่ACTION ของรัฐบาลที่จะออกมา ล้วนเป็นผลดีกับภาพรวมในระยะข้างหน้า เริ่มจากนายกฯ ได้กำหนดให้มี “ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ" ทุกวันจันทร์ เวลา 16.00 น.เริ่ม 27 พ.ค. นี้อีกทั้งผลการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 20 พ.ค.67 ที่ผ่านมา ยังได้มีการอนุมัติหลักการออก พ.ร.บ.รายจ่ายเพิ่มเติมปี 67 เพื่อให้การเร่งเบิกจ่ายไม่หยุดชะงักพร้อมกับ รมว. คลัง ได้เล็งคลอดแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น หวังดัน GDPGRWOTH ไทยโตเกิน 2.5% ในปีนี้

สำหรับการดำเนินนโยบายการเงินในบ้านเรา ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าจะเห็นกนง. เริ่มปรับลดดอกเบี้ยได้เมื่อไหร่? ท่ามกลางดอกเบี้ยโลกมีแนวโน้มเข้าสู่ทิศทางขาลงในปีนี้ ซึ่งอาจนำโดย ECB (6 มิ.ย.) ต่อมาเป็น BOE (1 ส.ค.) และตามด้วย FED (18ก.ย.) หลังเงินเฟ้อค่อยๆ ทยอยปรับตัวลดลงเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 2%

สรุป ภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่กำลังอยู่ในช่วงของการค่อยๆ ฟื้นตัวจาก BOTTOMOUT ทำให้ความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเริ่มกลับมา ซึ่งน่าจะหนุนให้นโยบายการเงิน – การคลังเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น โดย ACTION ต่างๆที่จะออกมา ล้วนเป็นผลดีกับภาพรวมในระยะข้างหน้า
วันนี้ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องหรือไม่ และ SET จะเกิดOVERHANG หรือป่าว ... ติดตามกัน

วันศุกร์ที่ผ่านมา แม้นายพิชิต ชื่นบาน จะลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อลดทอนน้ำหนักของคำร้องของ สว. แต่อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามการพิจารณาในวันนี้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องไว้วินิจฉัยต่อไปหรือไม่ซึ่ง มีความเป็นไปได้อยู่3 แนวทางดังนี้
▪ ศาลฯ ไม่รับคำร้อง
▪ ศาลฯ รับคำร้องไว้วินิจฉัย แต่ ไม่สั่งให้ นายกรัฐมนตรี ยุติการทำหน้าที่ชั่วคราว
▪ ศาลฯ รับคำร้องไว้วินิจฉัย และสั่งให้นายกรัฐมนตรี ยุติการทำหน้าที่ชั่วคราว

ประเด็นดังกล่าวจึงทำให้ SET INDEX มีโอกาสผันผวนได้ โดยวันศุกร์ที่ผ่านมาFLOW ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 3.15 พันล้านบาท และ SHORT FUTURES 2.2หมื่นสัญญา อย่างไรก็ตามหากผ่านพ้นช่วงเวลาดังกล่าวไปได้คาดเห็นแรงสนับสนุนจากเม็ดเงินต่างชาติอีกครั้ง

ส่วนวันนี้ประเมิน SET INDEX วันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1364-1380 จุดปัจจัยการเมืองยังกดดันให้ SET ผันผวน แนะสะสมหุ้นพื้นฐานในยามที่ย่อตัว

ปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองกลับมากดดันตลาดหุ้นไทยให้ผันผวนในช่วงนี้ส่งผลให้ FUND FLOW และมูลค่าซื้อขายชะลอในช่วงสั้นๆยามปัจจัยการเมืองที่ยังเห็นทิศทางไม่ชัดกดดันตลาดหุ้นผันผวน แนะนำนักลงทุนกลับมาโฟกัสที่พื้นฐานหุ้นในยามที่ราคาย่อตัวลงมา น่าจะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ดี

เพราะถ้าการเมืองกลับมาอยู่ในภาวะปกติหุ้นพื้นฐาก็ขยับขึ้นได้ดี แต่ถ้าการเมืองกลับมาร้อนแรงหุ้นพื้นฐาก็มีโอกาสย่อตัวได้น้อยกว่า
ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯ จึงทำการค้นหาหุ้นที่ทำ DIVERGENCE กับพื้นฐาน คือ เป็นหุ้นที่กำไรงวด 1Q67 เติบโตเด่นทั้ง QOQ และ YOY แต่ราคานั้บตั้งแต่ต้นปีนี้ยังไม่ขยับขึ้นได้ผลลัพธ์ ดังตารางทางด้านล่าง อาทิKCE, HANA, AURA, HMPRO, CPN,ERW, BBL, SCGP, KTB, TIDLOR, TOP, OR, CENTEL, ADVANC, AEONTS,OSP, TPIPL, TLI, ITC, KBANK, TCAP

Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม, CISA
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์