ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ
อัพเดตแนวโน้มตลาดหุ้นญี่ปุ่นประจำเดือน พ.ค.
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มักได้ประโยชน์อันดับต้นๆของเอเชียจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ เนื่องจากมีสัดส่วนการส่งออกไปประเทศดังกล่าวถึง 20% จึงทำให้มักมีความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างกัน ดังนั้นในระยะสั้น ตลาดหุ้นญี่ปุ่นจะยังได้รับแรงสนับสนุน (tailwinds) จากจุดนี้ นอกจากนี้การอ่อนค่าของเงินเยนในปีนี้กว่า 11% YTD จะช่วยเพิ่มความสามารถการแข่งขันการส่งออก และบริษัทขนาดใหญ่จำนวนมากยังมีฐานรายได้เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ จึงได้ประโยชน์จากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ เพราะเมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินเยนก็จะได้มูลค่าที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามประโยชน์ที่ญี่ปุ่นได้รับจะค่อยๆลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี และจะมีแรงกดดัน (headwinds) มากขึ้นจากเหตุผลดังนี้

(1) เศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสชะลอตัวและเติบโตน้อยกว่าคาดในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากสัญญาณเชิงลบของกำลังซื้อในอนาคต โดยอัตราเงินออมของสหรัฐปัจจุบันต่ำกว่าทุกช่วงเวลาระหว่างปี 2009-2019
(2) ค่าเงินเยนอ่อนค่ารวดเร็วจนทำจุดต่ำสุดในรอบ 34 ปี จะทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) มีแนวโน้มต้องเข้าแทรกแซงเช่นในช่วงก.ย.-ต.ค. 2022
(3) BoJ คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจาก 0.1% เป็น 0.25% ในการประชุมเดือนก.ค. และค่อยๆ ปรับขึ้นต่อเนื่องจนถึงระดับ 0.5% ในปี 2025

จากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว จึงทำให้เรากำลังหาจังหวะในการปรับลดน้ำหนักการลงทุนของญี่ปุ่นลง คาดว่าจะเป็นช่วงเดือน มิ.ย. หรือ ก.ค. อย่างไรก็ดี สำหรับภาพในระยะสั้น เรามองว่าดัชนี Nikkei225 จะยังไม่รีบลงในเดือน พ.ค. เนื่องจาก (1) ผลประกอบการของบริษัทต่างๆรอบไตรมาส ม.ค. - มี.ค. น่าจะยังดี (2) ผลการเจรจาการขึ้นค่าแรงในเดือน มี.ค. - เม.ย. (Shunto) มีผลลัพธ์ออกมาดี ทำให้การบริโภคภายในประเทศจะมีโมเมนตัมเป็นบวกต่อไปได้
ดังนั้น เราจะรอให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นรีบาวด์เพื่อสะท้อนปัจจัยบวกในระยะสั้นก่อน จึงค่อยหาจังหวะขายทำกำไรในจังหวะที่ราคาปรับตัวขึ้นต่อไป (sell into strength)

สรุปภาพตลาดวานนี้
วานนี้ดัชนีบวก (แต่มีย่อๆ ช่วงท้าย) นำบวกโดย TRUE (งบดีกว่าคาด) DELTA ADVANC BDMS PTTEP GULF GPSC ธนาคาร BBL KBANK และไฟแนนซ์ SAWAD AEONTS THANI ส่วนหุ้นกลาง-เล็กบวกแรง เช่น ITTHI PSTC TRT MCA NUSA BLC SAMART SAV เป็นต้น ขณะที่ด้านลบ BAY CPAXT OR SCC BTS BEM CBG KTB

แนวโน้มตลาดวันนี้
ข่าวดี ท่วมตลาด
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเริ่มย่อหลังจากทดสอบแนวต้านระยะสัปดาห์ไปเมื่อวานนี้ โซน 1,380 จุด ส่วนการพักฐานรายวัน คาดจะเริ่มยืนๆโซนรับ 1.370/1,365 จุด ก่อนจะเด้งอีกครั้งภายใน 1-2 วันนี้ แต่ระยะสัปดาห์คาดยังคง “ติดต้าน” เว้นเสียแต่ข่าวดีซึ่งตอนนี้ดูจะท่วมตลาด สามารถผลักดันให้ตลาดพุ่งทยานต่อเหนือความคาดหมาย...

ข่าวดีที่ว่า จะช่วยหนุนตลาดหุ้น ขึ้นอยู่กับ 1) ความเชื่อมั่นนักลงทุนจากนโยบายรัฐ และจาก รมต.ใหม่ป้ายแดง เช่น คลังเตรียมออก LTF, การเดินหน้านโยบายตามที่หาเสียง รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย, เงินดิจิตอล, แนวทางปรับขึ้นค่าแรงที่สอดคล้องกับเอกชน, ตรึงค่าไฟ ค่าน้ำมัน เป็นต้น 2) งบดีเกินคาด อย่างเช่นเมื่อวาน TRUE 3) สงครามตะวันออกกลางมีทางลงระยะสั้น เมื่อสหรัฐฯเบรกการส่งอาวุธระเบิดให้อิสราเอลเพื่อโจมตีเมืองราฟาห์ ด้านฮามาส เดินทางเข้า ไคโรเพื่อเปิดโต๊ะเจรจาแล้ว เป็นต้น ซึ่งการมาของข่าวดี บวกกับ ภาพการปรับพอร์ตลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ รอบนี้ กำลังจะบอกแนวทางการเปลี่ยนทิศทางของตลาดหุ้นเกิดใหม่ รวมไทย สุดท้ายหากเปลี่ยนเทรนด์ได้จริง คาดว่าจะมีการเร่ง Covered short หนุนหุ้นไทย

กลยุทธ์การลงทุน
การเลือกหุ้นเล่น ควรโฟกัสเป็นรายตัวไป

วิเคราะห์ทางเทคนิค
จับตาเงิ่อนไข สัญญาณกลับตัวของ SET Index ล่าสุดฝ่าด่านทะลุเส้น EMA 5&25 วัน สำเร็จ! อาจดูปิดไม่สวย ปิดต่ำ แต่เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากเครื่องมือ RSI > 50 แสดงภาวะความแข็งแกร่ง ส่วนใหญ่จะมาพร้อมสัญญาณ breakout (ทะลุต้านสำคัญ) อย่างไรก็ตามวอลุ่มอาจยังไม่มากนักเนื่องจากดัชนีเพิ่งทะลุวันแรก ลุ้นวอลุ่มเพิ่ม หากสูงกว่าค่าเฉลี่ย > 5 หมื่นล้านบาทขึ้นไป อาการแบบนี้มีลุ้นขาขึ้นไม่ยาก...
สรุป: ดัชนีเริ่มเข้าสู่เงื่อนไขกลับตัวเปลี่ยนเป็นขาขึ้นรอบใหม่

Note: สำหรับหัวข้อประจำเดือน Sell in April….Buy back in MAY เราน่าจะมาถูกทางแล้วครับ (อ่านต่อหน้า 10)

What to watch
ฤดูกาลประกาศงบการเงิน บจ.1Q24: คาดวันอังคาร SPRC MTC DOHOME AP พุธ OR INTUCH SNNP THCOM TU พฤ. GFPT BTG KCE GULF GPSC CPAXT TOP ศุกร์ WHA COCOCO ILM TAN IVL CPALL CBG YGG BANPU
ถ้อยแถลงหรือการให้สัมภาษณ์ของกรรมการเฟด โดยตลาดมองลักษณะท่าทีล่าสุดแข็งกร้าวน้อยกว่าที่ตลาดคาด (Less-Hawkish) แต่เรามองว่าความจริงดูเอียงไปในทิศทาง Dovish ด้วยซ้ำ แต่ยังระมัดระวัง (Cautiously Dovish) เพราะมีการลด QT ทั้งนี้ อิงจาก US10Y ตอนนี้กลับมาเป็นทิศทางลงชัดขึ้นอีกรอบ
จับตา Fund flow หลังจากเห็นสัญญาณอัตราแลกเปลี่ยนขยับกลับทิศ โดย Dollar Index อ่อนค่าลง หนุนบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค-ไทย, อัตราการขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ (หลังเห็นเลข Non-farm ต่ำกว่าคาดไป) เป็นต้น

หุ้นแนะนำวันนี้
BTS รอดูแนวทางลดค่าโดยสาร รฟฟ. โดยรัฐอาจเข้าอุดหนุน บวกกับเป็นหุ้นในเรดาห์ของการโดน ขายชอร์ตเซล มาตลอดคาดยังมีโอกาสถูกเร่งซื้อคืน... (S 6 R 6.5 SL 5.9)

รายงานพื้นฐานวันนี้

Commodities
ถ่านหินและค่าการกลั่นดูดีสุด
ในสัปดาห์ที่แล้วราคาน้ำมันดิบดูไบ ย่อลดลง $1.73 WoW เป็น $86.52/บาร์เรล โดยสถานการณ์ในพื้นที่ตึงเครียดดูเบาลง (ลบต่อ PTTEP)
ค่าการกลั่น (อิงสิงคโปร์) ปรับตัวขึ้น $0.28 WoW เป็น $3.78/บาร์เรล โดยกลุ่มน้ำมันเตา (บวกต่อ SPRC และ TOP มากสุด) อย่างไรก็ตาม Gasoline กับน้ำมันเครื่องบิน-ดีเซล ปรับตัวลง
ส่วนต่างราคา (Spread) ส่วนใหญ่ขยายตัว หลักๆ จากต้นทุนลง (โดยรวมบวกต่อ PTTGC มากสุด)
ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้น 6% WoW เป็น $144.60/ตัน (บวกต่อ BANPU)
ค่าระวางเรือเทกอง (BDI) โดยรวมลดลง 2% WoW เป็น 1,741 จุด (ลบต่อ PSL และ TTA เล็กน้อย)
ส่วนค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ (World Container Index) เพิ่มแค่ 1% WoW เป็น 2,725 จุด (บวกต่อ RCL เล็กน้อย)
Fundamental View: เชิงพื้นฐานเราชอบ PTTEP มากสุดสำหรับพลังงานต้นน้ำ, TOP มากสุดในกลุ่มโรงกลั่น

Technology Sector
ประเมินกำไร 1Q24
เรามองว่าใน 1Q24 จะมี 2 บริษัทที่รายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่ง และ 1 บริษัทกำไรพลิกฟื้น ประกอบด้วย
HUMAN คาดกำไรเติบโต 42% YoY และทรงตัวได้ QoQ แม้ใน 4Q23 จะได้รับอานิสงส์จากฐานสูงตามฤดูกาลของ ERP ปัจจัยหนุนจากโครงการใหม่ๆ และการเปิดตัวบริการใหม่
DITTO คาดรายงานกำไรแตะ 100 ล้านบาทครั้งแรก โต 26% YoY และ 63% QoQ
YGG คาดกำไรหลักฟื้นตัวแข็งแกร่ง พลิกจากขาดทุน 21 ล้านบาทใน 4Q23 เป็นกำไร 32 ล้านบาทใน 1Q24
สำหรับภาพ 2Q24 คาดทั้ง 3 บริษัทจะเติบโตได้ดีต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในด้านของ BBIK คาดการเติบโตของกำไรจะลงมาที่ราว 10-15% และมีโอกาสที่ตลาดจะปรับกำไรทั้งปีลง (Momentum การเติบโตชะลอลง)
Fundamental View: เราเน้นบริษัทที่มีสตอรี่และกำไรแข็งแกร่ง อย่าง HUMAN DITTO และ YGG

รายงานผลประกอบการวันนี้
(0) IRPC รายงานกำไรสุทธิ 1Q24 ที่ 1,544 ล้านบาท หักรายการพิเศษ จะเป็นขาดทุนหลักที่ 106 ล้านบาท พลิกจากกำไร YoY แต่ขาดทุนน้อยลง QoQ และผลประกอบการเป็นไปตามที่เราและตลาดคาด แนวโน้ม 2Q24 คาดจะยังเป็นขาดทุนหลัก และขาดทุนสูงขึ้น YoY และ QoQ (ผลประกอบการแย่ลง) เรายังให้คำแนะนำถือ

(+) SPRC รายงานกำไรสุทธิ 1Q24 ที่ 3,943 ล้านบาท หักรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 2,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 176% YoY และ Turnaround QoQ โดยกำไรสูงกว่าเราและตลาดคาด เนื่องจากค่าการกลั่นเฉลี่ยและรายได้อื่นสูงกว่าคาด แนวโน้ม 2Q24 คาดกำไรหลักจะ Turnaround YoY แต่ลดลง QoQ เราปรับเพิ่มกำไรปี 2024 ขึ้น 63% ยังคงคำแนะนำซื้อเก็งกำไร

(+) MTC รายงานกำไรสุทธิ 1Q24 ที่ 1.4 พันล้านบาท สูงกว่าที่เราคาด 7% (credit cost และ cost/income ratio ต่ำกว่าที่เราคาด) แต่เป็นไปตามที่ตลาดคาด โดยกำไรสุทธิ 1Q24 เติบโต 30% YoY และ 3% QoQ จากสินเชื่อเติบโตและ Credit cost ลดลง ขณะที่ภาพรวมคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นในไตรมาสนี้ แนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q24 จะเติบโต 18% YoY และ 2% QoQ จากสินเชื่อเติบโต เรายังแนะนำซื้อ MTC จากแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2024 เติบโตโดดเด่นสุดในกลุ่ม Retail Finance และทิศทางคุณภาพสินทรัพย์ที่ฟื้นตัวดีขึ้น

(+) TIDLOR รายงานกำไรสุทธิ 1Q24 ที่ 1.1 พันล้านบาท สูงกว่าที่เราและตลาดคาด 6% (ค่าใช้จ่ายดำเนินงานและสำรองหนี้ฯ ต่ำกว่าคาด) กำไรสุทธิ 1Q24 เพิ่มขึ้น 16% YoY และ 23% QoQ จากสินเชื่อและรายได้นายหน้าประกันภัยเติบโต ด้านคุณภาพสินทรัพย์ ยังอยู่ในเกณฑ์ดี คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q24 จะอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% YoY (และทรงตัว QoQ) จากสินเชื่อเติบโตต่อเนื่อง เรายังแนะนำซื้อ จากแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2024 จะเติบโต 15% YoY และคาดทิศทางคุณภาพสินทรัพย์จะทยอยฟื้นตัวในปีนี้

(0) DOHOME รายงานกำไรสุทธิ 1Q24 ที่ 244 ล้านบาท ลดลง 5% YoY แต่เพิ่มขึ้น 70% QoQ และกำไรหลักออกมาตามที่เราและตลาดคาด แนวโน้ม 2Q24 เติบโต YoY จาก GM (แม้ SSSG ติดลบ แต่เทรนด์ติดลบน้อยลง) แต่ลดลง QoQ ตามฤดูกาล เราคงคำแนะนำซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 12 บาท
(-) AP รายงานกำไรสุทธิ 1Q24 ที่ 1,008 ล้านบาท ลดลง 32% YoY และ 20% QoQ ต่ำกว่าที่เราคาด 5% แต่เป็นไปตามที่ตลาดคาด แนวโน้ม 2Q24 คาดกำไรหลักยังลดลง YoY และ QoQ เรายังแนะนำถือ มองภาพอสังหาฯ ปีนี้ยังเหนื่อย แม้มีมาตรการกระตุ้น

สรุปประเด็นจาก Quick take

BBL
ธนาคารกรุงเทพ
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
BBL ประเมินเศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัว และมองว่าความต้องการสินเชื่อจะเติบโตดีขึ้นในปีนี้
View From Fundamental: เรามีมุมมองเป็นกลาง จากภาพรวมธุรกิจยัง in line กับประมาณการของเรา ขณะที่ Valuations ยังน่าสนใจ จึงแนะนำซื้อ

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน