Kasikornbank (KBANK TB)
งบ 1Q67 แข็งแกร่ง อัพเกรดเป็น ซื้อ

อัพเกรดเป็น ซื้อ เพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 145 บาท
เราเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ จาก ถือ และเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 145 บาท (P/BV ปี 67 0.6 เท่า, ROE 8.3%) หลังจากที่เราเพิ่มประมาณการกำไรเพื่อสะท้อนผลประกอบการ 1Q67 ที่แข็งแกร่ง เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการชะลอการขยายสินเชื่อและมุ่งเน้นไปที่คุณภาพสินเชื่อที่ดีเพื่อลด credit cost ในปี 67-68 โดยธนาคารตั้งเป้าหมาย ROE ที่ 10% ภายในปี 69 และกำหนดอัตราการจ่ายเงินปันผล (DPR) อย่างน้อย 25% ดังนั้น เพื่อสะท้อน DPR ที่สูงขึ้นที่ 36% ในปี 66 เราจึงปรับเพิ่มประมาณการ DPR ปี 67-69 เป็น 39% จาก 30% ก่อนหน้านี้ โดยอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 67 อยู่ที่ 6.0%

คงเป้าหมาย credit cost ไว้ที่ 175-195bps
KBANK ได้จัดชั้นสินเชื่อให้บริษัทอิตัล-ไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD TB, 0.57 บาท ไม่มีคำแนะนำ) เป็นเงินกู้ระยะที่ 2 และกันสำรองที่เพียงพอสำหรับบัญชีนี้ โดยธนาคารจะคงเป้าหมาย credit cost ไว้ที่ 175-195bps แม้ว่าสินเชื่อ ITD จะกลายเป็น NPL ในปีนี้ก็ตาม ขณะที่การก่อตัวของ NPL ทรงตัว QoQ ที่ 2.35% ส่วนรายได้ดอกเบี้ยค้างรับเพิ่มขึ้น 8% QoQ เนื่องจากความสามารถในการชำระหนี้ลดลงในไตรมาส 1/67 KBANK คาดว่ายอดขาย NPLs และการตัดหนี้สงสัยจะสูญในปี 67 จะลดลง 30% YoY จาก 9.25 หมื่นล้านบาทในปี 66 (ไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท) ขณะที่สินเชื่อในโครงการปรับโครงสร้างหนี้ต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น 20bps QoQ เป็น 7.6% ในไตรมาส 1/67

คาด NIM ลดลง ขณะที่รายได้จากประกันภัยสุทธิปรับตัวดีขึ้น QoQ
KBANK คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 50bps เริ่ม ส.ค. 67 โดย NIM มีแนวโน้มลดลงจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นและอัตราผลตอบแทนสินเชื่อที่ลดลงใน 2H67 ทั้งนี้ ธนาคารยังคงมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ประกันภัยและการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ ผู้บริหารเผยว่ารายได้ประกันภัยสุทธิจะค่อยๆ ดีขึ้นและมีกำไรจากค่าใช้จ่ายสำรองที่ลดลงใน 2H67 ในส่วนของสินเชื่อดิจิทัล ธนาคารจะชะลอการปล่อยสินเชื่อใหม่และมุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ในปีนี้

เพิ่มประมาณการกำไรปี 67-68 ขึ้น 3-4%
เราเพิ่มประมาณการกำไรปี 67-68 ขึ้น 3-4% เพื่อสะท้อนถึง NIM ที่สูงขึ้นและ opex ที่ลดลง จากผลประกอบการ 1Q67 แข็งแกร่งที่ 1.35 หมื่นล้านบาท (+26% YoY ดูรายละเอียดในรูปที่ 1) เราประเมินว่าต้นทุนด้านเครดิตจะแตะระดับ 195bps ในปี 67 เนื่องจากธนาคารจะยังคงเดินหน้าเคลียร์งบดุลในปีนี้ ทั้งนี้ จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้า เราคาดว่าธนาคารจะมุ่งเน้นไปที่การบริหารต้นทุนและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งหลังปรับประมาณการกำไรแล้ว เราคาดว่ากำไรของ KBANK จะเติบโต 6-7% ในปี 67-68 เราคาดว่า ROE จะสูงถึง 8.4% ในปี 69 เทียบกับเป้าหมายของธนาคารที่ 10%

Jesada Techahusdin, CFA
jesada.t@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1395