IRPC คำแนะนำ Fully Valued
ราคาปิด 1.93 บาท ราคาพื้นฐาน 1.70 บาท
คาดกำไรสุทธิ 1Q67F จะเป็น Peak ของปีนี้
• คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/67F จะสูงสุดในปีนี้ โดยประเมินไว้ที่ 2.5 พันล้านบาท (เทียบกับ 1Q66 ที่มีกำไรสุทธิ 301ล้านบาท และ 4Q66 ขาดทุนสุทธิ 3.4 พันล้านบาท) การฟื้นตัวมาจาก 1) ค่าการกลั่น Market GRM และมาร์จิ้นปิโตรเคมีดีขึ้น, 2) คาดมีกำไรสต๊อก 1.7 พันล้านบาท และ 3) คาดมีกำไรจากทำประกันความเสี่ยง 575 ล้านบาท

• ประเมิน Market GRM งวด 1Q67F ไว้ที่ 5.6 ดอลลาร์/บาร์เรล (-27%YoY, +97%QoQ) หนุนโดยค่าการกลั่นน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นมาก +43%QoQ (ส่วนค่าการกลั่นน้ำมัน Jet/ดีเซล อ่อนลง -11%/-5%QoQ) สำหรับกำไรดำเนินงาน (ไม่รวมกำไรสต๊อกและประกันความเสี่ยง) คาดไว้ที่ 470 ล้านบาท ลดจากกำไร 1.2 พันล้านบาทใน 1Q66แต่ดีขึ้นจากขาดทุน 1.5 พันล้านบาทใน 4Q66

• แนวโน้ม 2Q67F…คาด Market GRM อ่อนลง QoQ, พรีเมียมน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น และสเปรดปิโตรเคมีโดยรวมลดลง QoQ ทั้งนี้เราคาดว่าค่าการกลั่นใน 2Q67F จะลดลงหลังผ่านพ้นช่วงฤดูหนาว และมีแรงกดดันจากต้นทุนน้ำมันดิบสูงขึ้นจากเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง ประกอบกับโรงกลั่นในไนจีเรียกลับมาผลิต (กำลังผลิต6.5 แสนบาร์เรลต่อวัน) ทั้งนี้ค่าการกลั่นน้ำมัน Jet, ดีเซล และเบนซิน ใน 2Q67 ลดลง -27%/-25%/-3% QTD ส่วนพรีเมียมน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ส่วนมาร์จิ้นปิโตรเคมีโดยรวมอ่อนลง จากอุปสงค์ที่ยังอ่อนแอ ขณะที่มีอุปทานใหม่เข้ามาเพิ่ม รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น

• คงคำ แนะนำ Fully Valued โดยให้ราคาพื้นฐาน 1.70 บาท อิงกับ P/BV ปีนี้ที่0.47 เท่า(Mean-2SD) โดยฝ่ายวิจัยฯ DBSVTH เห็นว่าผลประกอบการ 1Q67F จะเป็น Peak ของปีนี้, หุ้นขาดปัจจัยกระตุ้น เพราะโครงการ UCF ยังอยู่ในช่วง Test run และ IRPC มีต้นทุนดำเนินงานที่เป็นเงินสดสูงกว่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมโดยอยู่ที่ 6.0 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักวิเคราะห์ : ดุลเดช บิค : duladethb@th.dbs.com : Tel. 02 857 7833